วันครอบครัว 14 เมษายน ประวัติความเป็นมาและความสำคัญ
13 เมษายน ของทุกปีเป็นวันสงกรานต์ คนไทยได้ยึดถือประเพณีอันดีงามสืบต่อกันมาแต่ โบราณกาล ถัดมาอีก 1 วันคือวันที่ 14 เมษายน ของทุกปีเป็น “วันครอบครัว” เพื่อมุ่งหวังจะให้มีการฟื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณีแต่ดั้งเดิม
สีหจัมมชาดก ชาดกว่าด้วยลาห่มหนังสิงโต
พ่อค้าเจ้าเล่ห์เอาหนังสิงโตที่ตัวเองเก็บไว้ขายให้คหบดีอีกเมืองหนึ่งมาคลุมตัวลาของตน แล้วนำลาไปปล่อยไว้ในนาข้าวสาลีของชาวบ้าน ส่วนตนก็เดินทางไปขายของตามปกติ
วันสตรีสากล 8 มีนาคม ตอน เมื่อผู้หญิงขอเป็นช้างเท้าหน้า
การที่ผู้หญิงถูกคาดหวังให้เป็นช้างเท้าหลัง เป็นเพราะการอบรมเลี้ยงดูหรือเปล่า ภาพที่ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลังในบ้านเมืองเราคงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ในบางประเทศ ในบางชุมชน ผู้หญิงยังถูกกดอยู่ค่อนข้างมาก แต่ในบางประเทศก็มีความเสมอภาคขึ้นมามากแล้ว
วัดพระธรรมกาย มอบเจลแอลกอฮอล์ และหน้ากากอนามัยสีส้ม สำหรับพระภิกษุ มจร.
วัดพระธรรมกาย ได้มอบเจลแอลกอฮอล์ และหน้ากากอนามัยสีส้ม สำหรับพระภิกษุ เพื่อสนับสนุนโครงการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน สำหรับพระนิสิตของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
สัพพาทาฐิชาดก ชาดกว่าด้วยผู้มีบริวารมากเป็นใหญ่ได้
ปุโรหิตผู้หนึ่งของพระเจ้าพรหมทัตได้ฝึกซ้อมสาธยายมนต์ที่ชื่อว่า ปฐวีวิชัยมนต์ ปรากฎว่ามีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งแอบได้ยินและสามารถจดจำมนต์นั้นได้ และคิดการใหญ่โดยได้ยกกองทัพสัตว์เดรัจฉานหมายทำการรบกับพระเจ้าพาราณสีหวังจะแย่งชิงราชบัลลังค์
ลิตตชาดก ชาดกว่าด้วยลูกสกาอาบยาพิษ
นักเลงสกาเมื่อจนมุมก็ใช้แผนเดิม เอาลูกสกาเข้าปากแล้วแกล้งปัดกระดานจนพลิกคว่ำ ลูกสกาหล่นลงบนพื้นกระจัดกระจาย “ อ้าว ลูกสกาหายไปไหนตัวหนึ่งเนี่ย ช่วยกันหาหน่อย อ้าวตายล่ะ มือเผลอไปโดนกระดานเข้า ตาย ตาย ตาย จำไม่ได้แล้วสิ ว่าตัวเล่นอยู่ตรงไหนบ้าง ” ชาวบ้านต่างรู้ว่านั้นเป็นแผนของนักเลงสกาที่ไม่ยอมแพ้ลูกเศรษฐี แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
สวดมนต์ข้ามปี "ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2565"
สวดมนต์ข้ามปี (ออนไลน์) ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2565 คืนวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 19.00 - 00.11 น.
สุวรรณหังสชาดก ชาดกว่าด้วยความโลภ
เหล่าภิกษุณีได้นำกระเทียมภายในไร่ของอุบาสกซึ่งออกปากถวายไว้แล้ว กลับวิหารเชตวันอย่างมากมายไม่รู้จักประมาณ พฤติกรรมอันโลภมากนั้นไม่สมควรทำ เมื่อคนเฝ้าไร่พากันตำหนิเหล่าสงฆ์ในพระวิหารก็พลอยอับอายและโกรธเคืองไปด้วย
อนุสาสิกชาดก ชาดกว่าด้วยเรื่องดีแต่พูด
ในนครสาวัตถี ยังมีภิกษุณีผู้ชอบพร่ำสอนอยู่รูปหนึ่ง มีนิสัยชอบสั่งสอนและมักห้ามภิกษุณีรูปอื่น ๆ มิให้เข้าไปในที่หวงห้าม แต่ตนเองก็มิได้กระทำตนเป็นแบบอย่างที่ดี กลับละเมิดเข้าไปในที่หวงห้ามเสียเอง
กูฏวาณิชชาดก ชาดกว่าด้วยหนามยอกเอาหนามบ่ง
นายบัณฑิตนั้นไม่ใช่คนโง่ เขาสังเกตเห็นพิรุจหลายอย่างจึงคิดพิสูจน์ว่ารุกขเทวดาที่ต้นไม้นั้นมีอยู่จริงหรือไม่ “ สหายจะให้เราเชื่อเช่นนั้นก็ได้ แต่เราขอพิสูจน์ให้แน่ใจก่อนนะ ” นายบัณฑิตได้เดินไปเก็บฟืนแล้วนำกองไว้ที่โคนต้นไม้ จุดไฟเผาในโพรงไม้นั้น “….เดี๋ยวเถอะจะได้รู้กันว่าเทวดาจริงหรือเทวดาปลอมกันแน่...”