ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 195
ปัญหาที่พระแม่เภรีทูลถามพระราชานั้น เป็นอุบายที่จะหยั่งน้ำพระทัยของพระองค์ได้เป็นอย่างดี เพราะหากจะถามกันตรงๆว่า มหาบพิตรทรงมีความรักในมโหสถบัณฑิตเพียงไร จริงอยู่ อาจจะถามได้ แต่พระดำรัสที่ตรัสตอบนั้น แม้จะตอบว่า รักยิ่งกว่าชีวิตของพระองค์เอง แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่อาจประกาศความรักและความปรารถนาดีที่พระองค์ทรงมีต่อมโหสถได้อย่างชัดแจ้งเป็นรูปธรรม
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 194
วันหนึ่งพระองค์ลงเรือไปในมหาสมุทรพร้อมด้วยผู้ติดตามอีกหกคน คือ พระชนนี พระนางนันทา พระอนุชาติขิณมนตรี พระสหายธนูเสกข์ ปุโรหิตเกวัฏ และมโหสถบัณฑิต ปรากฏว่าเรือของมหาบพิตรแล่นเข้าไปในเขตของผีเสื้อน้ำตนนั้น มันจึงระเบิดน้ำในมหาสมุทรออกมา แล้วฉุดเรือของมหาบพิตรไว้...ครั้นแล้วจึงข่มขู่มหาบพิตรว่า ท่านจะต้องส่งคนทั้งหกให้เรากินเสีย ตามลำดับ เราจึงจะปล่อยท่านไป
มงคลที่ ๒๑ ไม่ประมาทในธรรม - พระิอินทร์มาเตือนสติ
ู้ประพฤติผิดศีลผิดธรรม ไม่เลี้ยงดูบิดามารดา เป็นคนอกตัญญู ดูหมิ่นผู้มีพระคุณ คนเหล่านี้แหละที่เป็นศัตรูของเรา สุนัขดำจะเคี้ยวกินผู้ที่ไม่มีจิตเมตตา ชอบรังแกเบียดเบียนผู้อื่น ไม่ประกอบ สัมมาอาชีวะ ประพฤติผิดในกาม แสวงหาความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น หมกมุ่นอยู่ในอบายมุข โดยไม่ทำความดีอะไร
มงคลที่ ๑๔ ทำงานไม่คั่งค้าง - ทุ่มเทสร้างบารมี
เมื่อบุคคลปรารภจะทำอะไรแล้ว พึงกระทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะสิ่งเหล่านี้จะถ่วงความเจริญก้าวหน้าในชีวิตของเรา เหมือนดินพอกหางหมู ไม่เกิดประโยชน์อันใด ควรที่เราจะเร่งรีบขวนขวายทำงานให้สำเร็จสมบูรณ์ จะได้เป็นอุปนิสัยติดตัวเราไปข้ามภพข้ามชาติ เมื่อตัดสินใจจะทำอะไรต่อไป จะได้ไม่ต้องมาห่วงหน้าพะวงหลัง
เส้นทางของคุณครูโปริสาท (ตอน โรงเรียเทวานาตู)
จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อมนุษย์กินข้าว นามว่า "เปเล่" ผู้เป็นดวงตะวันของโซโลมอน ต้องเดินทางเข้าป่าลึกไปพร้อมกับ "ทอมมี่ ทิลา" อดีตมนุษย์กินคน ไปสู่โรงเรียนแห่งหนึ่งในป่าลึก เด็กๆ เข้ามารุมมองเปเล่อย่างประหลาดใจ ราวกับว่าไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อนในชีวิต หรือว่าเด็กๆ มองเห็นเปเล่เป็นอาหารอันโอชะ โรงเรียนของอดีตมนุษย์กินคนสอนอะไรกันแน่ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามอ่านต่อได้ที่นี่
ดวงตะวันแห่งโซโลมอน
เขาเคยผ่านสมรภูมิแห่งการต่อ สู้มาอย่างโชกโชน และเคยฆ่าคนตายอย่างหฤโหดมาแล้วด้วยตัวเลขที่เขาบอกว่าไม่มากนัก แต่ก็จำไม่ได้ว่ากี่ศพกันแน่ การตายจึงดูเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา เมื่อฆ่าคนได้เขาก็รู้สึกภาคภูมิใจมากว่า “ข้านี่แหละเก่ง”