อย่างอื่น  ท่านดินสอฯ ได้กล่าวไปดีแล้ว
 
แต่อยากสะกิดสักนิด  เรื่องปานะ  ขอให้ไปศึกษาเรื่องปานะให้ดีก่อนนะครับ  จะได้ไม่คิดเอง เออเองไปเรื่อยเปื่อย  ปานะไม่ได้มีไว้แก้หิว  หรือมีไว้ให้พลังงานสูงๆ อะไรนะครับ  ถ้าคิดอย่างนั้น  ก็ลุกมากินข้าวเถอะครับ  สบายใจกันทุกฝ่าย
 
ปานะมีไว้แก้โหย  อาการโหย  ทางโภชนาการ  คือ  อาการที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดไม่เพียงพอ  จะทำให้เกิดการเพลีย  เหนื่อยง่าย  หิว  ไปจนถึงหงุดหงิดรำคาญใจ  น้ำปานะจึงเข้ามามีบทบาทบรรเทาในขั้นตอนนี้  ทานเข้าไปเพื่อให้ร่างกายไม่รู้สึกโหย  แต่ไม่ใช่เป็นการทานให้รู้สึกอิ่ม  เพราะถ้าเราทานให้รู้สึกอิ่ม  ก็ผิดเจตจำนงค์ของการรักษาศีล  8  ในข้อวิกาลโภชนา  หนึ่งในนั้นคือ  เพื่อหลีกเลี่ยงการง่วง  เกียจคร้านจากการทานอาหารอิ่ม  ถ้าเราทานปานะจนอิ่ม  ก็ไม่ได้แตกต่างจากการทานข้าวเท่าไหร่หรอกครับ
 
ในขณะเดียวกัน  การงดอาหารยามวิกาล  ก็มีอีกเหตุผลหนึ่งคือ  ไม่ให้ร่างกายมีพลังงานเหลือเฟือจากอาหารมื้อเย็นซึ่งเราไม่ค่อยได้มีกิจกรรมใช้พลังงานกันนัก  ซึ่งจะทำให้กามกำหนัดกำเริบได้ง่าย  ถ้าเรางดอาหารมื้อเย็นซะ  ก็หลีกเลี่ยงความฟุ้งซ่านรำคาญใจไปได้อีกหนึ่งอย่าง  สามารถปฏิบัติธรรมได้ง่ายกว่าเดิม
 
แต่ถ้าเราต้องการปานะที่ให้พลังงานสูงๆ  ก็ไม่ต่างอะไรกับการกินอาหารมื้อเย็น  เพราะร่างกายยังมีพลังงานเหลือเฟือ  ถ้าไม่สะดวกขนาดนี้  รักษาศีล 5 ต่อไปก่อนดีกว่าครับ  ทำใจได้เมื่อไหร่  ค่อยมาเริ่มต้นกันใหม่
 
อีกอย่างที่อยากให้ข้อคิดนะครับ  อยากให้ศึกษาพระพุทธศาสนาให้มากกว่านี้  และ อยากให้เข้าหาครูบาอาจารย์ให้มากกว่านี้  จะได้ชี้แนะแนวทางในการปฏิบัติที่ถูกต้องให้  เพื่อการปฏิบัติธรรมของเราจะได้เป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็วครับ
					
					
					
				 
				
				
				
	
	สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ  ทำตามนี้เลยครับ .....
ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น  เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม  จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3  คะแนน ..... 
ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม  จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน  และ  0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ .....
อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ