ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * - - 1 คะแนน

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข ตอนที่ 17


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 2 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 extra

extra
  • Members
  • 409 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 November 2006 - 07:12 PM

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข ตอนที่ 17
เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra และรัชชา


ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมมักเกิดขึ้นจากคนเกินตัว ที่ใดที่หนึ่งมีคนเบ่งเกินตัวขึ้นมา ก็มีปัญหา คนที่เบ่งเป็นนักเลง เขาคงคิดว่าการที่เขาเบ่งได้ คนอื่นคงจะทึ่งและชื่นชมว่าเขาเก่ง แต่กลับกลายเป็นคนอื่นมองแล้วหมั่นไส้ แต่ไม่กล้าแสดงออกเพราะไม่อยากมีเรื่อง แต่คงนึกขัดอกขัดใจ ไม่ชอบใจ นึกหมั่นไส้ แต่เขามีคุณธรรมสูงพอที่ไม่หาเรื่องและเขาก็ปล่อยผ่าน ๆ ไป คนที่ยกตัวเองไม่รอให้คนอื่นยก ทุกครั้งที่เห็น เราจะไม่นึกชื่นชมเลย บางครั้งทั้ง ๆ รู้ เราก็มักจะเผลอยกตัวเองเหมือนกันต้องตอกย้ำให้หนักแน่นให้ซาบซึ้งว่า อย่ายกตัวของตัวเอง พอยกตัวเองแล้วทำให้ยิ่งต่ำ แต่เราอยู่ของเราให้พอดี แล้วเดี๋ยวคนอื่นเขาจะยกเราขึ้นไปเอง อยู่ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นตามที่เราเป็นแล้วจะสูงเอง

โบราณเล่าเตือนใจไว้ว่า กลองที่เราเรียกว่า กลองจัญไร เป็นกลองวัด พอตอนเพล เขาก็ตีเป็นสัญญาณว่าเพลแล้ว กลองเพลลที่ไหนดังเองโดยไม่มีคนตี ถือเป็นกลองจัญไร ต้องเอาไปสั่งเผาไฟ แล้วเอาเถ้าโรยลงไป เอาดินกลบเอาน้ำราด อย่าให้กระเซ็นกระสานขึ้นมาได้ เดี๋ยวจะพากันจัญไรติด เป็นการเปรียบเทียบกับคนที่เบ่งตัวเอง ยกตัวเองโดยไม่มีคนยก เดี๋ยวจะเป็นคนจัญไร อย่าทำและอย่าเป็น ให้เป็นตามที่เราเป็น อยู่ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความสุข เหมือนเราเดินเท้าบนพื้นราบเสมอดิน ก็มีความสุข แต่ถ้าเอาไม้ท่อนหนึ่งวางกับพื้น เดินแล้วสูง ๆ ต่ำ ๆ เป็นหนามบ้าง เดินกระโดกกระเดก ไม่มีความสุข ถ้าตกไม้พลัดลงมาระหว่างเดิน ก็ไม่มีความสุข เดินพลาดก็ตกพลัดลงมาเหมือนกัน คนที่พยายามยกตัวเองให้สูงขึ้น จะไม่ได้ผล เดินไปให้ราบ ๆ ให้เท้าติดดินจึงจะดีที่สุด อย่าไปยกตัวเอง พอวางตัวสมตัว มีมนุษยสัมพันธ์ ทำให้เกิดความพึงใจ ความเข้าใจระหว่างคนรอบข้างขึ้นมา


เมื่อเราวางตัวให้สมฐานะบทบาทตัวเองแล้ว ต้องดูต่อว่า คนที่เราไปคบกับเขา เข้าใกล้กับเขา แต่ละคนอัชฌาสัยไม่ได้เหมือนกันสักคนเลย คบกับคนสักร้อยคนแต่ละคนมีลักษณะพิเศษทั้งนั้น จะคบคนเป็นหมื่นเป็นแสน ทุกคนมีลักษณะพิเศษหมดเลย ดังนั้นเราต้องเข้าใจเขา เช่น คนนี้เป็นคนพุทธจริต ชอบเหตุผล คนนี้เป็นคนโทสจริต ชอบไว ไม่ชอบชักช้า เดี๋ยวเคือง คนนี้ศรัทธาจริต คนนี้ราคจริต คนนี้วิตกจริต ต้องเข้าใจเขา ต้องปฏิบัติต่อเขาให้เหมาะกับอัชฌาสัย เหมาะกับจริตเขา แล้วเราก็จะเป็นที่รัก

บางคนชอบเรื่องลึกลับ บางคนชอบแบบวิทยาศาสตร์ อย่าไปพูดอะไรที่เขาไม่ชอบ เดี๋ยวพาลตัดบทไม่คุยด้วย ต้องให้เหมาะกับแต่ละคน เพราะพื้นฐานใจแต่ละคนไม่เหมือนกัน ต้องปฏิบัติให้เหมาะสมกับธาตุ กับจริตของเขา และต้องดูต่อด้วยว่า เขามีความต้องการให้เราวางฐานะบทบาทแค่ไหน เช่น เป็นเพื่อนกัน ฐานะเสมอกัน เรามองอย่างนั้น แต่จะถือตามที่เรามองอย่างเดียวไม่ได้ เมื่อเราจะคบกับคนอื่นเขา เราต้องมองว่าเขามองอย่างไร เช่น คนบางคนนึกว่าเราเองอยู่ในฐานะเดียวกับเขาแต่เขาเองกลับมีนิสัยเป็นครูที่ชอบสอน เขามีความต้องการให้เราฟังเขา ฟังเขาสอนบ้าง ถ้าเราเข้าใจอย่างนั้นในบางเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ก็ฟังเขาสักหน่อย เขาจะพูดจะสอนอะไร เมื่อเขามีอารมณ์อยากจะพูดอย่างนั้น ก็ฟัง ไม่ใช่มองว่าระดับเดียวกัน รุ่นเดียวกัน จะมาสอนแล้วทำให้เสียศักดิ์ศรี อย่าไปคิดอย่างนั้น เมื่อเขาเองพอใจให้เราฟังอย่างนั้น เราไม่ได้เสียหายก็ฟังเสียหน่อย พอได้อย่างนั้น เขาก็ถูกใจ มองว่า ไม่มีเพื่อนคนไหนดีเท่าคนนี้เลย ถูกอกถูกใจเพราะเราไม่ได้ขัดใจก็เลยถูกใจ ดังนั้น จะวางตัวอย่างไร ต้องไม่นึกแต่เพียงว่าต้องเป็นแค่ไหน ต้องนึกด้วยว่าคนที่เราติดต่อด้วย เขาต้องการให้เราวางตัวแค่ไหน รักษาขอบเขตให้พอดี เพราะคนแต่ละคนมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ บางจังหวะก็อารมณ์ดี เช่น เราอยู่ในฐานะเป็นผู้น้อย เขาเป็นผู้ใหญ่ บางจังหวะผู้ใหญ่อารมณ์ดีแล้วลงมาเล่นกับเราบ้าง เราเองเมื่อท่านเล่นมาก็ให้รู้ตัวว่าท่านก็คือผู้ใหญ่ เราเล่นก็เล่นในระดับหนึ่ง อย่าลามและอย่าเลย ให้รักษาระดับเอาไว้ พอถึงคราวท่านพ้นอารมณ์นั้นไป วางตัวเหมือนเดิม เราก็วางตัวสบาย ๆ บางคนดูไม่ออก บางจังหวะผู้ใหญ่ท่านอารมณ์ดีเบิกบานมาเล่นด้วยก็เลยเล่นกับท่าน วันที่ท่านไม่ได้อยู่ในอารมณ์อย่างนั้นก็ลามไปเล่นต่ออีก ท่านก็จะมองว่าเด็กคนนี้ลามปาม ต้องมองตลอดว่าเราคือใคร ฐานะบทบาทแค่ไหน ท่านคือใคร ฐานะบทบาทแค่ไหน แล้วพึงปฏิบัติต่อกันด้วยความเข้าใจจริตของผู้ที่เราติดต่อด้วยทุก ๆ คน วางตัวให้สมบทบาท มีสติตลอดเวลา ก็จะไม่พลาดเลย นี่คือ สิ่งที่เรียกว่า สมานัตตตา วางตัวสมฐานะบทบาทที่ตัวเราเป็น ย่างเท้าถึงไหนเป็นที่รักไปถึงนั่น ไม่ใช่เพียงมนุษย์อย่างเดียว แม้เทวดา พรหม อรูปพรหม ก็จะเป็นที่รักเหมือนกัน ไปถึงไหนมีแต่คนต้อนรับสองข้างทาง มีความสุข เพราะเหลียวซ้ายแลขวามั่นใจได้ว่า เขาคือมิตรของเรา ไม่ได้มีศัตรูเลย มีแต่มิตร มีแต่คนเข้าใจเขา แล้วเขาก็ย้อนกลับมาเข้าใจเราด้วยเหมือนกัน


เมื่อเข้าใจหลักสังคหวัตถุ 4 แล้ว ให้มองต่อว่า แล้วสิ่งที่จะบั่นทอนสังคหวัตถุ 4 บั่นทอนมิตรภาพให้แย่ลงคืออะไร มีเรื่องเล่าอยู่เรื่องหนึ่ง กาลครั้งหนึ่งมีกษัตริย์อยู่ที่เมืองหนึ่ง เป็นกษัตริย์ที่เอาใจใส่พสกนิกรดีมาก มักจะปลอมตัวเป็นคนธรรมดาไปตรวจดูทุกข์สุขอยู่ตลอดสม่ำเสมอ คราหนึ่งปลอมตัวไปตรวจดูบ้านเมืองว่าอยู่กันเป็นสุขดีไหม ไปถึงที่ตำบลแห่งหนึ่ง มีบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่งเป็นบ้านร้างไม่มีคนอยู่เลย นึกแปลกใจว่าบ้านหลังใหญ่โต ทำไมปล่อยให้หยากไย่ ฝุ่นจับเปรอะ ไม่มีคนดูแลเลย จึงถามชาวบ้านแถวนั้นว่าทำไม เขาก็บอกว่าไม่มีใครกล้าอยู่ เพราะอุบาศว์ลง อยู่แล้วแย่ พระราชาชักงงเลยกลับมาถึงวัง นั่งคิดนอนคิดว่าอุบาศว์เป็นอย่างไร คิดไม่ออก เช้าขึ้นมาประชุมราชการเสนาอำมาตย์พร้อมหน้าก็ไล่ถามจากมหาอำมาตย์ลงไปอัครเสนาบดี ไล่ลงไปเรื่อยว่าตัวอุบาศว์เป็นอย่างไร ถามไล่ทีละคนก็ไม่มีคนรู้จักเลย พระราชาเกิดขัตติยมานะอยากจะรู้ให้ได้ว่าอุบาศว์เป็นอย่างไร จึงชี้ไปทางเสนาคนหนึ่งแล้วบอกว่า หามาให้ได้ว่าอุบาศว์เป็นอย่างไร หามาให้ได้ภายใน 7 วัน หาไม่ได้จะตัดคอ

เสนาเที่ยวถามทั่วบ้านทั่วเมืองว่าอุบาศว์เป็นอย่างไร ก็ไม่มีใครรู้ ผ่านไปได้ 6 วันก็ไม่ได้คำตอบ ก็นึกว่าคราวนี้ข้าพเจ้าต้องตายแน่นอน ถ้าถูกประหารตายในเมืองก็อับอายเขา ขอไปตายในป่าหิมพานต์เพื่อไม่ให้ใครเห็น จึงเลยเดินเข้าป่า ไปถึงกลางป่าได้พบฤๅษีตนหนึ่งพักอยู่ที่บรรณศาลา เห็นเขาเดินหน้าหมองมา ฤๅษีถามว่าเป็นอะไรมา เขาบอกว่ามาหาตัวอุบาศว์แต่หาไม่เจอ คงถูกพระราชาประหารแน่ เลยมาหาที่ตายกลางป่า ฤๅษีก็หัวเราะและบอกว่า หาตัวอุบาศว์ไม่ยาก ไปตัดกระบอกไม้ไผ่มา เสนาก็ไปตัดไม้ไผ่มาลำหนึ่ง เปิดฝาไว้ข้างหนึ่ง ฤๅษีมาถึง ก็หายไปในบรรณศาลา เอาชานหมากที่เคี้ยวใส่ลงไปกระบอกไม้ไผ่แล้วปิดไว้ กระบอกไม้ก็ลึกพอสมควร ชานหมากที่เคี้ยวแล้วคายใส่ลงไปแล้วปิดฝาไว้ เอาตัวอุบาศว์ใส่ลงไปแล้วให้ระวังให้ดี เวลาเปิดฝาให้ค่อย ๆ แง้มดู แต่ห้ามเท ถ้าเท เดี๋ยวตัวอุบาศว์ เสนาก็รับคำอย่างแข็งขัน ทำหน้าชื่นมา คิดว่ารอดตายแล้วคราวนี้ กลับเข้าเมืองไปเข้าเฝ้าเช้าวันที่ 7 พอดี บอกว่า พระพุทธเจ้าข้าได้มาแล้ว ตัวอุบาศว์อยู่นี่เอง แต่ให้ระวัง อย่ารีบเปิดและอย่าเท เดี๋ยวมันจะหนี กว่าจะหาได้ เลือดตาแทบกระเด็น พระราชาดีใจที่ได้เห็นตัวอุบาศว์ รับมาถึงแง้มดู กระบอกไม้ไผ่ลึกพอสมควร แสงเข้าไม่ถึงก้น เห็นพอรำไร ก็คอยเล็ง ไม่กล้าเท กลัวมันหนี พระราชาก็ว่าคล้ายกบ ให้มหาอำมาตย์มาว่าเหมือนอะไร มหาอำมาตย์มาเล็งดู ก็บอกว่าพระพุทธเจ้าข้าว่าเหมือนอึ่งอ่าง ส่งต่อเสนาอำมาตย์รอง ๆ ลงไป ข้าพเจ้าว่าเหมือนจิ้งจก เหมือนคางคก ว่าไปเรื่อย พักเดียวดูกันทั่วท้องพระโรง เสียงเถียงกันขรม ทะเลาะกันในวัง ไม่ว่าผู้ใหญ่ผู้น้อยเลิกคิดกัน จะตุ้ยกันท่าเดียว หน่อยเป็นผู้น้อยเพิ่งเป็นอมาตย์ได้ไม่กี่วันเถียงผู้ใหญ่หรือนี่ ข้าว่าเหมือนอึ่งอ่างเอ็งมาว่าเหมือนจิ้งจกได้อย่างไร ผู้น้อยก็ว่าผู้ใหญ่ตาฝ้าฟางดูไม่ชัด ต้องเชื่อข้าพเจ้ายังหนุ่มยังแน่น เห็นชัดกว่า ทะเลาะกันให้อุตลุดวุ่นวายไปหมด พระราชาเห็นท่าไม่ดี ขืนเอาเจ้าตัวอุบาศว์อยู่ต่อไป ท้องพระโรงท่าจะแตกแน่ คิดว่ามันจะหนีก็เป็นหนี เทมันเลยอย่าเก็บไว้เลย พอเทออกมา เห็นว่าที่แท้เป็นชานหมากนี่เอง ทะเลาะกันเกือบตาย แท้จริงแล้วเจ้าตัวอุบาศว์ก็คือ ความรั้นในตัว ความถือรั้น ไม่ยอมกัน คือ ตัวอุบาศว์ ที่ต้องทำให้ทะเลาะเบาะแว้งกัน มีเรื่องมีราว เพราะความถือรั้น หรือสามีภรรยาที่คบกันนาน 5-6 ปีกว่าจะแต่งงาน แล้วไม่เท่าไร ก็ทะเลาะกัน หย่าร้างกันไป เพราะความถือรั้นนี่เอง เพื่อนฝูงคบกันมานานแสนนาน ทะเลาะกัน แตกหักกันไปก็เพราะความถือรั้น ไม่ยอมกัน บางทีรู้ทั้งรู้ว่าเราผิด แต่ไม่ยอมรับผิด กลัวเสียหน้า เสียเหลี่ยม จะไว้เหลี่ยม ซึ่งมีดีตรงไหนก็ไม่รู้ กลัวเสียเหลี่ยมเลยยอมทะเลาะกันและยอมมีความทุกข์อยู่อย่างนั้น ก็เพราะความถือรั้น นี่คือตัวอุบาศว์ของแท้


ดังนั้น เราต้องเป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์ดี มีมิตรภาพกับทุก ๆ คน ต้องเอาความถือรั้นนี้ให้ออกไปจากใจของเรา เมื่อไรผิดก็ยอมรับ รู้จักแกล้งโง่เสียบ้าง อย่าเป็นคนฉลาดเสียทุกเรื่อง เขาพูดอะไร เรารู้หมด ดีหมด เก่งหมดทุกเรื่อง อะไรเราไม่ยอมใครสักอย่าง ฉันเก่ง ฉันแน่ อย่างนี้อยู่กับใครก็ไม่ยืดเป็นแน่ แต่ถ้าเกิดแกล้งโง่เป็นบ้าง เขาอยู่ในอารมณ์ที่อยากแสดงสิ่งนั้นเราก็แกล้งโง่ฟัง ตั้งอกตั้งใจฟังบ้าง ไม่ได้เสียอะไร แล้วเราจะเป็นที่รักของทุกคน คนเราฉลาดทุกเรื่องไม่ได้ ต้องแกล้งโง่เป็น จะมีความสุข มองตัว รู้จักตัวเอง วางตัวสมฐานะบทบาท

คนไหนมองคนอื่นไม่ออก นับว่าเป็นคนมืดมัว ส่วนคนไหนที่มองตัวเองไม่ออก จัดว่าเป็นคนมืดมิดเพราะหนักยิ่งกว่าดูคนอื่นไม่ออกเสียอีก ต้องมองตัวเองให้ออก วางตัวให้สม และดูเขาให้ออก วางตัวให้สมกับจริตอัชฌาสัยของเขา เข้าอกเข้าใจเขา ไม่มีความอวดดื้อถือดี ไม่ถือรั้น ไม่มีทิฏฐิมานะ ยอมเขาบ้าง ก็จะมีความสุข อยู่ที่ไหนก็เป็นที่รักของที่นั้น เข้าที่ไหน เบิกบานที่นั่น เป็นแก้วประสาน เข้าไปคนหนึ่งเชื่อมทุกคนเข้ามาหากันได้อย่างดี เป็นคนสมานใจ เป็นคนที่มีคุณค่ามากในทุก ๆ วงการ ทุกแห่งต้องการคนอย่างนี้ เพราะเป็นคนที่ประสานใจคนได้ รวมใจคนได้ เป็นคนที่มีคุณค่ามากในตัว ท่านบอกว่าสุดยอดของการทำงานคือการประสานงาน คนไหนประสานงานได้ ประสานใจได้ คือ สุดยอดนักทำงาน นักบริหาร ระดับสูง ๆ จริง ๆ แล้วไม่ได้ทำอะไรมาก แต่ทำหน้าที่เพียงแค่รวมใจคน รวมใจลูกน้อง รวมใจทีมให้ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเข้าขากัน อย่างแน่นแฟ้นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นั่นแหละคือหัวหน้า หน้าที่ของหัวหน้าคนรวมใจคนเท่านั้นเอง ดังนั้น คนไหนประสานใจคนได้รวมใจคนได้ เขาคือคนที่มีคุณสมบัติน่าสรรเสริญน่ายกย่อง เป็นคนที่จะนำความสุขและนำความเจริญมาสู่หมู่คณะ เราเองก็ต้องฝึกให้ได้อย่างนั้นเหมือนกัน


ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา และสมานัตตตา ตั้งใจฝึกคู่กันไปให้ดี ทั้ง 4 ประการจะง่ายขึ้น จะปรับปรุงแก้ไขได้อย่างดี ต้องแก้ไขที่ใจหยุด รถเราจะยกเครื่อง จะซ่อมแซม นอตไม่แข็งแรง ล้อตั้งศูนย์เครื่องไม่ค่อยดี จะซ่อมรถที่กำลังวิ่งอยู่ ก็ซ่อมไม่ได้เพราะไม่ถนัด จะซ่อมก็ต้องจอดเสียก่อนให้รถมันหยุด จะยกขึ้น จะดูข้างบนข้างล่าง จะซ่อมแซมอย่างไรก็ทำได้เต็มที่ เช่นเดียวกัน เราจะซ่อมแซมปรับปรุงแก้ไขนิสัยอัชฌาสัยของเรา สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย จะแก้ไขได้ต้องตอนที่ใจหยุด ถ้าใจยังไม่หยุด ก็เห็นไม่ชัด ดูไม่ตลอด จะปรับปรุงแก้ไข ก็เบลอ ๆ ใจหยุดแล้วจะเห็นทั้งข้อดีข้อเสียของเราได้อย่างชัดเจนขึ้น จะปรับปรุง จะแก้ไข ก็ทำได้ง่ายขึ้น ดีขึ้น ดังนั้น ต้องทำใจหยุด ต้องอาศัยการทำสมาธิภาวนา พอทำสมาธิภาวนา พอใจหยุดแล้วใจก็ตกตะกอนที่ให้ใจเราขุ่น เทียบกับฝุ่นต่าง ๆ ที่เป็นตะกอนให้น้ำขุ่น พอเริ่มตกตะกอนลงไป น้ำก็ใสกระจ่าง เหมือนใจเราที่ใสกระจ่าง ทำให้เห็นสิ่งต่าง ๆ อย่างชัดเจน การแก้อะไรก็ต้องพยายามย้อนมาแก้ที่ตัวเราเอง จะง่ายกว่าแก้ที่คนอื่น เพราะเราบังคับเขาไม่ได้ แต่เราสามารถฝึกตัวเราเองได้



#2 Peacefulness ™

Peacefulness ™
  • Members
  • 1145 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:On the planet Earth.
  • Interests:Almost everything that helps me to become better and better; especially, the Grestest Dharma of the Lord Buddha

โพสต์เมื่อ 15 November 2006 - 02:39 AM

ขออนุโมทนาบุญ และ ขอบคุณกับ ท่าน Extra และ รัชชา
สำหรับนำ หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข ตอนที่ 17
มาให้ได้อ่าน และศึกษากันครับ laugh.gif
laugh.gif ขอติดตามตอนต่อไปด้วยครับ
สาธุ... สาธุ... สาธุ... ครับ
.
ปล.
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 1
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 2
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 3
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 4
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 5
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 6
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 7
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 8
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 9
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 10
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 11
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 12
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 13
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 14
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 15
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 16
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 17
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 18
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 19
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 20 (ตอนจบจ้า)
.
.
.
.
ข้าพเจ้าใคร่ขออนุญาต ท่าน Extra เพิ่มเติม สำหรับท่านผู้ที่สนใจจะฟัง พระธรรมเทศนานี้ ดังนี้
.
.
.
สามารถ Download ได้ทั้งหมดโดย กดที่ "GET iT ALL" ขนาดประมาณ 57.45 MB
.
.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี

ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดปากน้ำภาษีเจริญ คลิ๊กที่นี้
ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก คลิ๊กที่นี้
.

Who am I?__>>> CLick Here <<< to see my answer Post # 7

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

For any inquiries please

.

รวมภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า:
คลิ๊กที่นี้
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ ได้รับ ภาพทั้งหมดของ คำสอนคุณยาย ฉบับรวมเล่ม และภาพ (ฉบับสมบรูณ์)
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 157 files, 557.61 MB, ธรรมมะเทศนา มงคล 38 โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตฺตชีโว)
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 58 files, 120.99 MB, for easy listening dharmas.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 121 really-good-to-read e-books, 295.67 MB.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Acrobat Reader V.5
.
ที่มา: คลิ๊กที่นี้ ปล. สืบเนื้องมาจาก กระทู้นี้ โพสต์โดย ท่าน ฟ้าร้าง
.
เรื่อง การสร้างบารมีของพระโพติสัตว์ เข้าใจได้ไม่ยาก โปรดลอง คลิ๊กที่นี้
.
สนใจอ่าน

The basic knowledge of Buddhism to become a better buddhist Edition 2 คลิ๊กที่นี้

(With some english explanation)

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

"Do not confuse having a career with having a life"
-= Hillary Clinton =-.... >>>>>>>
CLicK HeRe <<<<<< To Be wisher, To Be smarter, and To Know Better !!!
Lastest Revised: 16/12/2006 | 08:43 PM

#3 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 28 March 2007 - 12:53 PM

ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ