
ปล่อยปลา แล้วห้ามกินปลารึเปล่า
#1
โพสต์เมื่อ 05 January 2007 - 10:33 PM
เราก็ถามว่าทำไมต้องห้ามด้วยหละ
แล้วห้ามกินเฉพาะปลาชนิดนั้นรึเปล่าที่เราปล่อยไปรึเปล่า หรือห้ามทั้งหมด
แล้วห้ามกินนานเท่าไหร่หละ 1 วัน 1 เดือน หรือ 1 ปี หรือ ตลอดชีวิต
แต่ไม่มีใครตอบเราได้เลย ได้แต่บอกว่า "เขาว่ากันมาอย่างนี้หนะ" แล้ว "เขา" ไหนก็ไม่รู้ด้วย
ขอความกรุณาจากผู้รู้ช่วยตอบข้อข้องใจด้วยค่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 05 January 2007 - 10:45 PM
#3
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 03:59 AM
แต่ว่าในพระพุทธศาสนาไม่มีคำสอนไหนห้ามค่ะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#4
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 04:23 AM
#5
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 08:50 AM
ความเป็นอยู่ในสมัยก่อนนั้น มักใช้ชีวิตอยู่ริมแม่น้ำ เมื่อเราปล่อยปลาแล้ว ปลาก็มักจะอยู่บริเวณที่เราปล่อย ถ้าเราปล่อยที่ท่าน้ำบ้านของเรา มักก็จะอยู่ตรงนั้นและออกลูกหลานอยู่ตรงนั้น สมัยก่อนในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ไม่ต้องซื้อก็มีกิน ปลูกข้าว จับปลาในน้ำก็มีกินแล้ว คนโบราณเมื่อปล่อยปลาชนิดใดแล้วจะไม่กินปลาชนิดนั้น
แต่ปัจจุบันเวลาเราทานอาหารก็ทานอาหารที่ทำสำเร็จมาแล้ว หรือไปซื้อปลาที่ตลาดที่ตายแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกำหนดว่า ปล่อยปลาชนิดไหนแล้วห้ามทานชนิดนั้น
#6
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 09:00 AM
ถูกต้องแล้ว คร๊าบ
#7
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 10:36 AM
#8
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 12:56 PM
1. ตกปลานั้น ขึ้นมาด้วยตัวเอง หรือ สั่งให้ใครตกปลานั้นมาให้ แล้วนำปลานั้นไปทำอาหารกิน อย่างนี้ผิดครับ
2. ไปภัตตาคาร อยากกินปลา จึงไปชี้ปลาที่กำลังว่ายๆ อยู่ แล้วก็บอกว่า เอาตัวนี้แหละ ไปทำมาให้หน่อย อย่างนี้ก็มีปัญหาครับ
3. ไปที่ตลาดสั่งแม่ค้าว่า พรุ่งนี้บ้านฉันจะจัดงานเลี้ยงใหญ่ ให้เตรียมปลาแบบโอฬารยิ่งใหญ่ แบบไม่เคยมีมาก่อนไปเลย อย่างนี้ระวังให้ดี
ถึงจะไม่เคยปล่อยปลา แต่จะไปกินด้วย 3 วิธีที่กล่าวมาข้างต้น ผิดศีลข้อ1 ครับ และจะต้องได้รับวิบากกรรม ถ้าตามทันครับ
#9
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 02:01 PM
เราก็ถามว่าทำไมต้องห้ามด้วยหละ
แล้วห้ามกินเฉพาะปลาชนิดนั้นรึเปล่าที่เราปล่อยไปรึเปล่า หรือห้ามทั้งหมด
แล้วห้ามกินนานเท่าไหร่หละ 1 วัน 1 เดือน หรือ 1 ปี หรือ ตลอดชีวิต
ไม่มีปัญญัติในสิกขาบท
ยังไงการบริโภคเนื้อสัตว์ยังคงใช้หลักสากล ไม่สั่ง ไม่รู้ ไม่เห็น การฆ่า หมายเอาถึง ไม่ร่วมอนุโมทนาบาปการปาณาติปาตสัตว์นั้น และ เนื้อสัตว์นั้นต้องไม่อยู่ใน เนื้อที่ทรงบัญญัติห้าม 10อย่าง
#10
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 05:05 PM
ขอถามต่ออีกว่า
มีอะไรบ้างคะ พอทราบมาแค่ว่า
1. เนื้อมนุษย์
ขอบคุณค่ะ
#11
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 08:50 PM
ดู ต้นบัญญัติ ได้ที่
1. อุบาสิกาสุปปิยาถวายเนื้อขา
http://dharma.school...w...2&lend=1508
2. พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๕ มหาวรรค ภาค ๒
http://84000.org/tip...a1/vinai05.html
3. พระวินัยปิฎก
http://84000.org/tipitaka/pitaka1/
ครับ
#12
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 08:50 PM
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=4929

DMC The only one
ประกอบเหตุ สังเกตผล ทนเอาเถิด ประเสริฐนัก
ไม่หยุดไม่ถึงพระ ตัวหยุดนี้แหละเป็นตัวสำเร็จ
ผลไม้ดกนกชุม น้ำเย็นปลาชอบอาศัย
คติธรรม พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
#13
โพสต์เมื่อ 08 January 2007 - 10:04 PM
#14
โพสต์เมื่อ 08 January 2007 - 10:26 PM
เช่นปล่อยปลาดุก ก็ควรเลี่ยงปลาดุก เนื่องจากคนที่มีเจตนาปล่อยปลาจริงๆแล้ว เราจะจดจนปลาประเภทนั้นๆ และจะปฏิเสธโดยอัตโนมัติ
สมัยก่อนคนส่วนใหญ่มักจะปล่อยตามริมคลอง และต้องไปตลาดซึ่งอยู่ริมคลอง คนแถวนั้นก็จะงดกินปลาประเภทนั้นๆ เพราะเกรงว่าจะไปกินเอาปลาตัวที่ตนเอง ปล่อยไป
หากไม่สบายใจ ก็ควรที่จะไม่กินปลาก็ได้ครับ
#15
โพสต์เมื่อ 09 January 2007 - 12:55 AM
ดิฉัน ก็จะยืนยัน อย่างเข้มแข็ง ว่า ปล่อยสัตว์วันนี้ ได้บุญแน่นอน เพราะเราให้ชีวิตมัน ไม่อย่างนี้น วันนี้หรือพรุ่งนี้ มันตายแน่
พอเมือ ปล่อยแล้ว จะกินอะไรก็ได้ แต่สัตว์ที่เรากินนั้น เราต้องไม่ได้ฆ่า ไม่ได้สั่งฆ่า รับรองไม่บาป
เพื่อนเค้าก็เชื่อเรา เพราะเห็นเรายืนยันแน่นหนา
แต่ เรื่องนี้ ก็ออกจะเป็นอุปสรรค สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจ ทำให้ปิดโอกาส การทำบุญปล่อยสัตว์ ปล่อยปลา ปล่อยโค กระบือ ไป
เพราะกลัวว่า ถ้าปล่อยแล้ว เผลอไปกินเข้าก็จะบาป เลยไม่ปล่อยดีกว่า
และการที่ คิดว่า ถ้าไปกินแล้วจะบาป ก็เลยหลงคิดไปอีกว่า ถ้าไม่กินแล้วจะได้บุญ
ไปๆมาๆ ปล่อยสัตว์ก็ไม่ต้องปล่อย แค่ ไม่กินมัน ก็ได้บุญแล้ว
"ถ้า ปล่อยปลาช่อน แล้วไปกินปลาช่อน... บาป
กับ ไม่ได้ปล่อยปลาช่อน แล้วไปกินปลาช่อน.. ไม่บาป..หรือ..."
ก็อย่ากังวลไปเลยนะคะ ถ้ากินแล้วบาป คุณครูไม่ใหญ่ ท่านห้ามพวกเราไปนานแล้วล่ะค่ะ
#16
โพสต์เมื่อ 28 January 2007 - 08:18 AM