ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 4

วันหนึ่งขณะที่มโหสถกุมารกำลังวิ่งเล่นกับเหล่าสหาย ภายในสนามเด็กเล่นท่ามกลางหมู่บ้าน พลันมหาเมฆก็ตั้งเค้าทะมึน ไม่ช้าก็โปรยปรายละอองฝนลงมา สายฝนตกกระหน่ำถี่ขึ้นเป็นลำดับ จนเหล่ากุมารต้องรีบวิ่งหนีฝนกันอลหม่าน มโหสถกุมารเห็นความเป็นไปเช่นนั้น ก็ให้นึกสมเพชเวทนา จึงคิด..? https://dmc.tv/a2142

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ทศชาติชาดก > มโหสถบัณฑิต
[ 16 ก.ค. 2550 ] - [ ผู้อ่าน : 18271 ]
 
ทศชาติชาดก
 
เรื่อง  มโหสถบัณฑิต   ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี  ตอนที่ 4


        จากตอนที่แล้ว ท่านเสนกะได้กราบทูลทำนายพระสุบินถวายแด่พระเจ้าวิเทหราชว่า  “กองเพลิงในพระสุบินนั้นเป็นเพลิงที่ชุ่มเย็น มิได้เบียดเบียนผู้ใด จึงมิใช่นิมิตร้าย แต่กองเพลิงเหล่านั้น  หมายเอาบุคคลผู้เป็นบัณฑิตนักปราชญ์ ผู้สามารถบำรุงพระองค์ตามพระราชประสงค์   กองเพลิงทั้ง ๔ นั้น เป็นนิมิตระบุถึงข้าพระองค์ทั้ง ๔  แต่กองเพลิงที่สว่างเพียงแสงหิ่งห้อย แต่ภายหลังกลับขยายครอบคลุมกองเพลิงทั้ง ๔ นั้น เป็นนิมิตหมายว่า จะมีบัณฑิตผู้อุดมด้วยปัญญาธิคุณล่วงพ้นพวกข้าพระองค์ทั้ง ๔ เขาจะมาบำรุงพระองค์ตั้งแต่วัยเยาว์  เขาจะเป็นที่เคารพบูชาของมหาชน

        พระเจ้าวิเทหราชทรงสดับเช่นนั้น ก็ทรงมีพระหฤทัยเต็มตื้นไปด้วยความปีติปราโมทย์ รับสั่งถามว่า บัณฑิตผู้นั้น บัดนี้เขาอยู่ที่ไหน พอจะบอกเราได้หรือไม่ ท่านเสนกะตรวจดูแล้วก็กราบทูลว่าบัณฑิตนั้นเห็นจะถือปฏิสนธิในครรภ์มารดาในวันนี้ หรือมิฉะนั้นก็คงเป็นวันที่เขาคลอด

        ในวันที่พระราชาทรงพระสุบินประหลาดนั้นเอง นางสุมนาเทวีภรรยาของสิริวัฒกเศรษฐีก็ได้ให้กำเนิดทารกเพศชาย ผู้ซึ่งคลอดออกมาพร้อมกับกำแท่งโอสถมาด้วย ผู้เป็นมารดาจึงถามว่า ลูกได้อะไรมา กุมารนั้นสามารถพูดได้ โดยตอบมารดาว่า โอสถจ้ะแม่ แล้ววางโอสถไว้ในมือของมารดา
 

        สิริวัฒกเศรษฐีซึ่งเป็นโรคปวดศีรษะมานาน ได้นำแท่งโอสถฝนที่หินบด แล้วชโลมที่หน้าผาก โรคปวดศีรษะที่เรื้อรังมานานก็หายขาดในทันที เมื่อชาวบ้านที่ป่วยไข้ทราบข่าว จึงพากันมาทดลองรักษาด้วยยานั้น ต่างก็หายป่วยไข้กันถ้วนหน้า ท่านเศรษฐีจึงได้ตั้งชื่อกุมารนั้นว่า มโหสถกุมาร
 
        ท่านสิริวัฒกเศรษฐีได้เห็นอานุภาพของมโหสถกุมารบุตรชายของตนแล้ว เกิดความคิดขึ้นว่า “โอ ลูกของเราช่างมีบุญมากจริงหนอ ธรรมดาว่าผู้มีบุญญาธิการเช่นนี้ จะไม่เกิดมาเพียงลำพังผู้เดียว แต่จะต้องมีบริวารผู้มีบุญติดตามมาเป็นแน่”

        คิดดังนี้แล้ว จึงได้ใช้ให้ชนผู้เป็นบริวารไปเที่ยวสืบเสาะหาดู เพื่อให้แน่ใจว่า มีทารกคลอดในวันเดียวกันกับบุตรของตนบ้างหรือไม่   ในที่สุด เหล่าบริวารก็ได้กลับมารายงานว่า  มีทารกถือกำเนิดในตระกูลของอนุเศรษฐีในวันเดียวกันถึง ๑ พันคนอย่างน่าอัศจรรย์

        ท่านเศรษฐีได้ทราบดังนั้นก็ปลาบปลื้มใจยิ่งนัก คิดอยากจะได้กุมารเหล่านั้นมาเป็นเพื่อนเล่นกับมโหสถ จึงได้จัดส่งของกำนัลเป็นอาภรณ์และเครื่องประดับอย่างดีเลิศ ทั้งยังได้มอบนางนมให้ดูแลกุมารน้อยๆ เหล่านั้นอีกคนละนาง

        มโหสถกุมารค่อยๆเจริญวัยขึ้นตามลำดับ โดยมีสหายกุมารพันคนรายล้อมรอบข้าง เป็นทั้งเพื่อนเล่นและบริวารติดตามไปทุกหนแห่ง  จวบจนอายุได้ ๗ ปี รูปร่างของมโหสถกุมารก็ยิ่งสมบูรณ์งดงาม ผิวพรรณเปล่งปลั่งประหนึ่งหล่อด้วยทองคำ แลดูสง่าผ่าเผยกว่ากุมารอื่น   ทั้งยังมีกำลังมากดุจช้างสาร
 
        บัดนี้ มโหสถกุมารเป็นดุจมิ่งขวัญของชาวบ้าน เมื่อเอ่ยถึงมโหสถกุมารคราใด ผู้คนในหมู่บ้านปาจีนยวมัชฌคามอันตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระนคร ก็จะเกิดความบันเทิงหรรษา   มักจะกล่าวถึงด้วยความภาคภูมิใจดุจเดียวกันว่า “มโหสถกุมารของเรานี่น่ะ ช่างสง่างามเสียจริง ทั้งเฉลียวฉลาด และเก่งกาจสามารถ ยากที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือน”
 
        ทุกหนทุกแห่งใน ปาจีนยวมัชฌคาม (ปา-จีน-ยะ-วะ-มัด-ชะ-คาม) จึงตลบอบอวลไปด้วยเสียงสรรเสริญเกียรติคุณของมโหสถกุมาร ร่ำลือกันไปปากต่อปาก ระบือไกลไปทั่วทุกทิศ  ไม่ว่าใครก็ตาม แม้เพียงได้แลเห็นกุมารน้อยเท่านั้น ที่จะไม่รักไม่เอ็นดูไม่เชิดชูมโหสถกุมารนั้นไม่มีเลย

        วันหนึ่งขณะที่มโหสถกุมารกำลังวิ่งเล่นกับเหล่าสหาย ภายในสนามเด็กเล่นท่ามกลางหมู่บ้าน พลันมหาเมฆก็ตั้งเค้าทะมึน ไม่ช้าก็โปรยปรายละอองฝนลงมา สายฝนตกกระหน่ำถี่ขึ้นเป็นลำดับ จนเหล่ากุมารต้องรีบวิ่งหนีฝนกันอลหม่าน   ต่างยื้อแย่งหาที่หลบฝนภายใต้ร่มไม้ชายคา วิ่งชนกันและกันหกล้มหกลุกคุกคลาน  เข่าแตก แข้งแตก เท้าบวม ได้รับลำบากเป็นอันมาก

        และบ่อยครั้งที่บริเวณลานสนามที่กุมารวิ่งเล่นกันนั้น มักถูกช้างและสัตว์ใหญ่ทั้งหลายบุกเข้ามาทำลายจนเสียหายยับเยิน แม้ชาวบ้านชาวเมืองที่เดินทางผ่านไปมาในบริเวณนั้น ก็ต้องกรำแดดกรำฝน ไม่ได้รับความสะดวกสบายเลย

        มโหสถกุมารเห็นความเป็นไปเช่นนั้น ก็ให้นึกสมเพชเวทนา จึงคิดที่จะสร้างศาลาใหญ่สักหลังหนึ่งเพื่อเป็นสถานที่พักหลบแดดหลบฝนของพวกตนและสหาย    อีกทั้งจะได้เป็นที่พักสำหรับบรรดานักบวช พ่อค้า คนเดินทาง และคนยากจนเข็ญใจที่แวะเวียนผ่านไปมา ให้ได้รับความสะดวกสบายตามสมควร    จึงได้แจ้งข่าวดีนี้แก่บรรดากุมารผู้เป็นสหายว่า  “เพื่อนเอย พวกเราได้รับความลำบากมามากแล้ว ยามที่ฝนตกพวกเราก็เปียกปอน ยามที่แดดร้อนพวกเราก็ประดุจว่าถูกย่าง   นับจากนี้ไปพวกเราจะไม่ลำบากอีกแล้ว เราจะสร้างศาลาขึ้นสักหลัง กะว่าจะให้ใหญ่พอไว้เป็นที่วิ่งเล่น เป็นที่นั่ง ที่นอนของพวกเราได้ เพื่อนๆ คิดว่าจะดีไหมละถ้าเราจะมีศาลาสักหลังหนึ่ง”
 
        เหล่ากุมารทั้งหลาย เมื่อได้ยินมโหสถกล่าวเช่นนั้นก็ดีใจ  พากันกล่าวเสริมว่า “โอ ถ้าได้อย่างนั้นก็ดีนะซิ เพื่อน แต่ว่าเราจะได้เงินจากที่ไหนมาสร้างล่ะ”

        มโหสถกุมารเอ่ยขึ้นว่า “เรื่องนั้นไม่หนักหนาอะไร ขอให้พวกเราทุกคนช่วยกันบริจาคทรัพย์คนละกหาปณะ ส่วนนอกจากนั้น หากว่าเงินยังไม่พอ เราก็จะออกทรัพย์เอง”    ทุกคนต่างก็เห็นชอบด้วย จึงรับปากว่าจะช่วยกันออกเงินคนละหนึ่งกหาปณะ จึงได้ไปขอจากบิดามารดาของตน แล้วนำมามอบให้กับมโหสถด้วยความเต็มใจ
 
        ครั้นรวบรวมทรัพย์ครบพันกหาปณะแล้ว มโหสถจึงได้เรียกนายช่างมาเจรจารับเหมาก่อสร้าง เมื่อได้ตกลงเรื่องค่าจ้างกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นายช่างจึงเริ่มปรับพื้นดินให้เรียบเสมอ แล้วลงมือขึงเชือกเพื่อวัดระดับพื้นที่

        มโหสถกุมารแม้อายุเพียง ๗ ขวบแต่เป็นผู้มีสติปัญญาเปี่ยมด้วยปฏิภาณ ได้สังเกตเห็นนายช่างขึงเชือกไม่ถูกแบบ ก็ตรงรี่เข้าไปใกล้ๆ เอ่ยขึ้นว่า “นายช่าง ขอท่านจงหยุดก่อน ท่านขึงเชือกอย่างนี้ เห็นทีจะขึงผิดแบบเสียแล้ว     ธรรมดาว่าการงานที่เริ่มต้นด้วยความผิดพลาด งานที่ทำต่อๆ ไปก็มีแต่จะผิดพลาดตามไปด้วย ฉะนั้น ขอท่านจงช่วยกันขึงเชือกใหม่เถิด”

        นายช่างแม้ได้ยินคำทักท้วงอยู่เต็มสองหู แต่ก็หาได้ใส่ใจในคำพูดของมโหสถกุมาร ด้วยสำคัญว่าเป็นเพียงเด็กน้อย ทั้งหมดจึงยังคงก้มหน้าก้มตาขึงเชือกแบบเดิมของตนต่อไป มโหสถกุมารเห็นว่านายช่างไม่สนใจในคำพูดของตนเลย เมื่อการณ์เป็นดังนั้นแล้วท่านจะทำอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป


 
พระธรรมเทศนาโดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์  (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) 

http://goo.gl/RE6qY


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 2 ต้นเหตุแห่งเภทภัย
      ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 1 การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 202
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 201
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 200
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 199
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 198
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 197
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 196
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 195
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 194
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 193
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 192




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related