จากตอนที่แล้ว ท่านสิริวัฒกเศรษฐีได้จัดคนหนุ่มให้ตามจำนวนที่มโหสถต้องการ เมื่อคนหนุ่มเหล่านั้นมาถึง มโหสถจึงเรียกเข้ามาใกล้ๆ แล้วชี้แจงอุบายวิธีอย่างละเอียด ชายเหล่านั้นรับคำของมโหสถอย่างแข็งขัน แล้วก็รีบกระทำตามวิธีที่มโหสถแนะนำ โดยพากันลงเล่นน้ำจนกระทั่งตาแดง สวมเสื้อผ้าที่ชุ่มโชกไปด้วยน้ำ ผมเผ้าเปียกปอน ทั้งเนื้อทั้งตัวเลอะไปด้วยโคลนตม ถือเชือก ก้อนดิน และท่อนไม้ พากันเดินดุ่มๆเข้าสู่พระนคร
ครั้นมาถึงประตูพระราชนิเวศน์ นายทวารบาลก็ตะโกนถามว่า “พวกเจ้าจะพากันไปไหน” เมื่อได้ทราบว่า เป็นชาวบ้านปาจีนยวมัชฌคามเท่านั้น ก็ไม่ได้ซักอะไรต่อ ปล่อยให้เข้าไปแต่โดยดี ด้วยเหตุที่ก่อนหน้านี้พระราชาเคยรับสั่งว่า ถ้าชาวปาจีนยวมัชฌคามมาก็ให้เข้าเฝ้าได้ทุกเมื่อ
พระเจ้าวิเทหราชครั้นทอดพระเนตรเห็นชายเหล่านั้นเนื้อตัวเปรอะเปื้อนด้วยโคลนตม ก็ทรงแปลกพระทัยตรัสถามว่า “พวกเจ้ามาจากที่ไหน มีธุระอะไร ทำไมเนื้อตัวถึงได้เปรอะเปื้อนอย่างนี้”
ชายผู้เป็นหัวหน้าจึงกราบทูลว่า“พวกข้าพระองค์มาจากบ้านปาจีนยวมัชฌคาม พระองค์เคยรับสั่งให้พวกข้าพระบาทนำสระโบกขรณีมาถวาย เพราะเหตุที่ทำตามพระบัญชาของพระองค์นั่นแหละ ถึงได้ตกอยู่ในสภาพเปียกปอนเช่นนี้ พระเจ้าค่ะ”

ท้าวเธอได้สดับดังนั้น จึงทรงประทับอยู่ด้วยพระอาการมึนงง ได้แต่รับสั่งถามว่า “แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นเล่า”

ท้าวเธอรีบตรัสปฏิเสธทันใดว่า “เราไม่เคยนำสระโบกขรณีที่ไหนมาจากป่า และก็ไม่ต้องการจะส่งสระโบกขรณีไปผูกกับอะไรทั้งนั้น”
ชายผู้นั้นจึงกราบทูลอ้อนวอนว่า “ขอเดชะ พระองค์ผู้สมมติเทพ พวกข้าพระองค์เกรงว่า หากไม่ได้รับพระราชทานสระโบกขรณีเก่าในวันนี้ เห็นทีว่าสระโบกขรณีใหม่จักหนีเตลิดเปิดเปิงไปไกล ฉะนั้น ขอทรงโปรดพระราชทานให้พวกข้าพระองค์โดยเร็วเถิดพระเจ้าค่ะ”
ครั้นทรงสดับคำทูลอ้อนวอนที่เลื่อนลอย เหลือวิสัยที่จะเป็นไปได้ ดุจคำพร่ำเพ้อของคนวิกลจริต ท้าวเธอก็ทรงขุ่นเคืองพระทัยขึ้นทันใด จึงตรัสข่มขู่ด้วยพระสุรเสียงกึกก้องว่า “เฮ้ย...พวกเจ้านี่ พูดอะไรชอบกล สระโบกขรณีที่ไหนจะผูกติดกันได้ หากเจ้ายังขืนพูดอะไรไม่ได้ความ เราจักให้เจ้าพนักงานลงหวายเสียเดียวนี้ล่ะ”

กราบทูลถึงตรงนี้ เขาก็หยุดอยู่ครู่หนึ่ง พลางเฝ้าสังเกตดูพระพักตร์ของท้าวเธอ ซึ่งบัดนี้เห็นชัดว่าพระองค์ทรงคลายจากพระอาการพิโรธบ้างแล้ว และดูเหมือนว่ากำลังทรงสนพระทัยในสิ่งที่เขาจะกราบทูลต่อไป

ท้าวเธอได้สดับคำกราบทูลของเขาแล้ว ก็ไม่ทรงเห็นความจำเป็นที่จะต้องใคร่ครวญสิ่งใดอีก จึงได้ตรัสรับรองด้วยพระวาจาหนักแน่นในทันทีว่า “แน่นอนล่ะ อย่าว่าแต่จะกระทำเลย แม้เพียงแต่จะคิดก็ไม่พึงคิด”
เขาเห็นว่าพระราชาเริ่มกล่าวเข้าทาง ซึ่งก็เป็นไปตามอุบายของมโหสถทุกประการ ในที่สุด เขาจึงตัดสินใจย้อนถามพระราชาทันทีว่า “ข้าแต่สมมติเทพ ข้าพระองค์ใคร่จะกราบทูลแด่พระองค์ว่า ก็ในเมื่อพระองค์ทรงมั่นพระทัยว่า ไม่มีผู้ใดจักสามารถผูกสระโบกขรณีให้ติดกันได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ จะพึงกล่าวไปไย ถึงการนำสระโบกขรณีเข้ามาสู่พระราชวังเล่าพระเจ้าค่ะ ชาวปาจีนยวมัชฌคามผู้ขลาดเขลาอย่างข้าพระองค์ จักสามารถส่งสระโบกขรณีมาถวายได้หรือ พระเจ้าข้า”

ชาวบ้านปาจีนยวมัชฌคามซึ่งกำลังรอคอยการกลับมาของคณะตัวแทนชาวบ้านอย่างใจจดใจจ่อ ครั้นเห็นทุกคนกลับมาพร้อมด้วยรอยยิ้มที่เบิกบาน ก็พากันโล่งใจ ต่างดีใจว่าในที่สุดพวกตนก็ผ่านพ้นปัญหาที่ยากยิ่งของพระราชามาได้อีกครั้ง จึงพากันโห่ร้องยินดีด้วยความปลื้มปีติกันถ้วนหน้า ส่วนครั้งต่อไป เป็นตอนพระเจ้าวิเทหราชทรงเสด็จไปหามโหสถบัณฑิตที่ปาจีนยวมัชฌคามด้วยพระองค์เอง เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร โปรดติดตามต่อไป
พระธรรมเทศนาโดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)