ดร.เค แห่งเนเจอร์กิฟ ตอนที่ 1

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

 

        กระผม ดร.กฤษฎา จ่างใจมนต์ เป็นเบอร์หนึ่งของธุรกิจกาแฟลดความอ้วน ภายใต้ชื่อว่า เนเจอร์กิฟ หลวงพ่อครับ...ตั้งแต่หลวงพ่อเมตตาให้คนมาถ่ายทำเรื่องราวชีวิตของกระผมเป็นละครฟื้นฟูศีลธรรมโลก กระผมกลายเป็น Talk-Of-The-Temple-ที่ฮอตที่สุดในช่วงนี้ไปแล้วครับ เพราะใครจะเชื่อล่ะครับว่า อดีตเด็กสลัมอย่างกระผม จะกลายเป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ ที่ทะยานขึ้นสู่ความร่ำรวยในระดับ TOP-แบบนี้ ซึ่งใครๆเขาก็ว่า “มันน่าจะมีเบื้องหลังสุดลึกอะไรบางอย่างที่เป็นเหตุเป็นผลในระดับข้ามภพข้ามชาติ”

 

        วันนี้ ถือเป็นความโชคดีสูงสุดของครอบครัวของกระผม และนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาครับ เพราะในโอกาสนี้ กระผมกราบขอความเมตตาหลวงพ่อ เฉลยเบื้องหลังในแบบ Behind-The-Scene-ที่จะกระชากเรทติ้งจากทุกๆช่อง ให้มารวมอยู่ที่ดีเอ็มซีช่องนี้ช่องเดียวครับ

 

 

คำถามข้อที่ 1.บุพกรรมใดที่ทำให้กระผมต้องมาเกิดเป็นเด็กสลัมครับ

 

        สาเหตุที่ทำให้ลูกต้องมาเกิดเป็นเด็กสลัม ทั้งนี้เป็นเพราะบุพกรรมที่เกิดจากการทำบุญตามอารมณ์ กล่าวคือ ตอนที่อยากทำบุญก็ทำ ตอนที่ไม่อยากทำบุญก็จะปฏิเสธและไม่ทำบุญ มารวมกับวิบากกรรมที่เคยดูถูกดูแคลน และเคยเบี้ยวค่าแรงค่าสินค้าของพวกชาวไร่ชาวสวน ในหลายๆพุทธันดรก่อนๆโน้นได้ตามมาส่งผล เรื่องก็มีอยู่ว่า...ในภพชาติดังกล่าว ตัวลูกได้เกิดเป็นกุลบุตรรูปงามในตระกูลเศรษฐีที่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงชอบชวนลูกๆซึ่งก็รวมถึงตัวลูกด้วย ให้ไปทำบุญที่วัดอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ

 

 

        แต่ด้วยความที่ตัวลูกในภพชาตินั้น ได้รับการเลี้ยงดูแบบตามใจมาโดยตลอด ไม่ว่าตัวลูกอยากได้อะไร คุณพ่อคุณแม่และเหล่าพี่เลี้ยงก็จะตามใจและหามาให้เสมอๆ จึงทำให้เวลาที่ตัวลูกได้พบเจอคนที่มีฐานะต่ำกว่า ลูกก็จะชอบดูถูกดูแคลนคนเหล่านั้นอยู่เสมอ อีกทั้งตัวลูกยังชอบชักชวนเพื่อนๆให้ไปเที่ยวเล่นสนุกสนาน ตามประสาวัยรุ่นที่พ่อแม่มีสตางค์อีกด้วย

 

 

 

        เมื่อออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนๆบ่อยเข้า ลูกก็เริ่มติดเพื่อน คราวนี้...เวลาที่คุณพ่อคุณแม่เรียกให้ลูกไปทำบุญที่วัด ลูกก็เริ่มรู้สึกไม่อยากไป แต่อย่างไรก็ตาม ตัวลูกก็มิอาจขัดใจคุณพ่อคุณแม่ได้ แม้ตัวลูกจะมาวัดแต่ในใจของลูกก็ไม่ได้มาวัดเลย เพราะลูกอยากไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนๆมากกว่า ครั้นวันเวลาผ่านไป ตัวลูกก็ยิ่งติดเพื่อนติดเที่ยวมากยิ่งขึ้น ทำให้ช่วงหลังๆ เวลาที่ตัวลูกไปทำบุญที่วัด ลูกก็จะไปเพราะเกรงใจที่คุณพ่อคุณแม่มาชวน ซึ่งท่านก็จะคอยเป็นยอดกัลยาณมิตรชักชวนลูกให้ไปทำบุญอยู่เสมอๆ

 

 

 

        ต่อมา เมื่อตัวลูกเติบใหญ่ คุณพ่อคุณแม่ก็ได้ยกกิจการให้ลูกดูแลต่อ ด้วยภารกิจดังกล่าว จึงยิ่งทำให้ลูกต้องห่างจากการไปวัด ทำบุญ มากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะใจของลูกมุ่งอยู่กับการทำธุรกิจตลอดเวลา จนกระทั่ง...ช่วงหลังๆ แม้คุณพ่อคุณแม่ของลูกจะทำหน้าที่ยอดกัลยาณมิตรชักชวนตัวลูกให้เข้าวัดทำบุญสักแค่ไหน แต่ตัวลูกก็มักจะปฏิเสธ แถมในบางครั้งยังพูดจากระทบกระแทกแดกดันจิตใจของคุณพ่อคุณแม่ ทำนองว่า “ไม่อยากไปทำบุญ จะทำบุญไปทำไมกัน”

 

 

 

        ในเวลาต่อมา ลูกได้ขยายกิจการของครอบครัวออกไป โดยพยายามหาตลาดใหม่ๆ และสินค้าใหม่ๆ ด้วยการไปปรึกษาเพื่อนที่เป็นเศรษฐีบ้าง หรือนักธุรกิจที่รู้จักกันบ้าง ซึ่งในบรรดาพวกเศรษฐีที่ลูกรู้จักก็มีทั้งคนดีและคนที่คิดจะมาเอาผลประโยชน์จากตัวลูก

 

 

 

        จนในที่สุด ตัวลูกก็ได้ไปรู้จักกับเศรษฐีหน้าเลือดขี้โกงคนหนึ่ง ซึ่งถ้าดูจากลักษณะภายนอก เศรษฐีคนนี้จะดูเป็นคนที่มีการพูดจาที่น่าเชื่อถือ จนทำให้ลูกรู้สึกคล้อยตามเขา ด้วยความเชื่อใจนี้เอง...ลูกจึงได้ร่วมลงทุนทำธุรกิจกับเศรษฐีขี้โกงคนนี้ โดยไปว่าจ้างคนงานในหมู่บ้านที่มีฐานะยากจนขัดสนลำบาก ให้มาเป็นคนงานผลิตสินค้าให้กับลูก ซึ่งสินค้าทั้งหมด ตัวลูกจะต้องออกเงินเพื่อลงทุนไปก่อน ดังนั้น เพื่อเป็นการลดต้นทุนของสินค้า ลูกจึงได้กดขี่ค่าแรงของคนงานให้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ด้วยเหตุนี้...ลูกจึงสามารถผลิตสินค้าออกมาขายได้เป็นจำนวนมาก

 

 

 

        ส่วนเพื่อนที่เป็นเศรษฐีขี้โกงก็ได้ทำหน้าที่ในการจัดเตรียมเรือสำเภา สำหรับขนส่งสินค้าเพื่อนำไปขายตามแคว้นต่างๆ

 

 

 

        ด้วยความที่บุญเก่าของลูกยังคอยตามส่งผลอยู่ จึงทำให้กิจการในช่วงแรกๆของลูกไปได้สวย และสามารถทำกำไรให้ลูกได้อย่างมหาศาล อีกทั้งกิจการของตัวลูกก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนเป็นผลทำให้ตัวลูกต้องไปจ้างคนงานมาเพิ่มจากอีกหลายๆหมู่บ้าน

 

 

 

        ด้วยเหตุนี้เอง...จึงทำให้ตัวลูกไม่มีเวลาและไม่คิดที่จะไปทำบุญเลย ถึงแม้คุณพ่อคุณแม่ของลูกจะชวนลูกไปทำบุญที่วัด และพยายามอธิบายให้ลูกเข้าใจว่า...ที่ตัวลูกมีเงินได้ในทุกวันนี้ มาจากบุญเก่าที่ตัวลูกได้สั่งสมเอาไว้ แต่ด้วยความที่ตัวลูกถูกเลี้ยงมาแบบตามใจ อีกทั้งตัวลูกก็จัดเป็นหนุ่มมั่น จึงทำให้ตัวลูกไม่เชื่อในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ได้บอก และยังได้พูดกับท่านว่า...ที่กิจการของลูกเจริญรุ่งเรืองได้นั้น มาจากความสามารถของตัวลูกเอง ซึ่งนับจากวันนั้นเป็นต้นมา ตัวลูกก็ไม่เคยได้ไปทำบุญที่วัดอีกเลย