ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2554เรื่องสำคัญที่ชาวพุทธต้องรู้ปรโลกนิวส์...เรื่องสำคัญที่ชาวพุทธต้องรู้ตอนต่อจาก เทพบุตรหัวใจพระโพธิสัตว์เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ทีแล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ ดังนั้น เมื่อผลแห่งบุญที่สามีของลูกได้เคยสั่งสมเอาไว้ในอดีตชาติหลายๆชาติ (ซึ่งก็คือ บุญที่สามีของลูกกับตัวลูกได้เคยอุปัฏฐากพระอุปัฏฐากวัดร่วมกัน ที่วัดของพระเถระอดีตพระราชาองค์ที่ออกบวช ก่อนที่ตัวเขาจะเสียชีวิตจากการถูกพวกโจรฆ่าตายในพุทธันดรที่ผ่านมา กับบุญที่เขาได้เคยสั่งสมเอาไว้กับหมู่คณะในภพชาติก่อนที่เขาจะพลัดพรากจากหมู่คณะไปเป็นเวลายาวนาน) มารวมส่งผลกับผลบุญทุกๆบุญที่สามีของลูกได้ตั้งใจสั่งสมเอาไว้ในภพชาติปัจจุบัน ทั้งที่ตัวเขาทำด้วยตนเอง และที่ลูกตั้งใจทำให้เขาภายหลังจากที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว (ไม่ว่าจะบุญจากการทำทาน บุญรักษาศีล รวมไปถึงบุญที่ลูกได้นิมนต์พระมาสวดพระอภิธรรมที่บ้านเป็นเวลา 7 วัน เป็นต้น) ผลบุญเหล่านี้ จึงส่งผลทำให้สามีของลูกสามารถขึ้นไปบังเกิดเป็นเทพบุตรแห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟสสองได้ในที่สุดด้วยผลแห่งบุญทั้งในอดีตและปัจจุบัน จึงทำให้สามีของลูกสามารถขึ้นไปบังเกิดเป็นเทพบุตรแห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงตรงนี้ คุณครูไม่ใหญ่เชื่อว่าคงมีหลายๆคนแอบสงสัยว่า แล้วในกรณีศึกษากฎแห่งกรรม (Case Study) หรือปรโลกนิวส์ หลายๆเรื่องก่อนหน้านี้ บางคนที่เป็นชาวพุทธมาตั้งแต่กำเนิด อีกทั้งตอนที่ยังมีชีวิตก็ได้สั่งสมบุญบ้างตามโอกาส แต่เมื่อตายไป ทำไมจึงไม่ได้ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เหมือนอย่างคุณจอห์น (สามีของเจ้าของเรื่อง) ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ และยังต่างศาสนา อีกทั้งเพิ่งหันมานับถือพระพุทธศาสนาได้ไม่นาน (เข้าวัดมาประมาณ 1 เดือน) ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะมันมีเหตุอยู่ กล่าวคือ ชาวพุทธบางคนที่ชอบทำบุญตามประเพณี หรือทำตามวาระโอกาสต่างๆ แต่ตอนทำบุญไม่ได้ทำด้วยดวงใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเลื่อมใสศรัทธา และมีปีติหล่อเลี้ยงตามหลักพระพุทธศาสนา ประมาณว่า ทำบุญแบบตามๆกันบ้าง, ทำบุญแบบเสียไม่ได้บ้าง, ทำบุญแบบเกรงใจกันบ้าง , ทำบุญอย่างไม่เข้าใจบ้าง เป็นต้น ด้วยเหตุนี้เอง ความปลื้มปีติในบุญที่ตัวเองได้กระทำเอาไว้จึงมีน้อย หรือบางคนอาจจะไม่มีเลยก็เป็นได้ ซึ่งเป็นผลทำให้บุญที่ตัวเองสั่งสมเอาไว้ไม่สามารถส่งผลได้อย่างเต็มที่เต็มกำลัง เพราะใจไม่ได้ปลื้มปีติในบุญที่ตัวเองทำ ดังนั้น เมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตมาถึง ถ้าหากวิบากกรรมที่แต่ละคนเคยทำผิดทำพลาดเอาไว้ไม่ได้ช่องชิงช่วงส่งผลก่อน ชาวพุทธกลุ่มนี้ก็จะได้ไปเกิดเป็นชาวสวรรค์ในชั้นที่ไม่สูงมากนัก ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะได้ไปเกิดเป็นภุมมเทวา, รุกขเทวา, อากาสเทวา ที่มีวิมานอยู่บนโลกมนุษย์ หรืออย่างมากที่สุดก็ไปบังเกิดเป็นชาวสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา เป็นต้นชาวพุทธบางคนชอบทำบุญตามประเพณี หรือทำตามวาระ โอกาสต่างๆไม่ได้ทำตามหลักพระพุทธศาสนาถ้าจะให้อุปมาเปรียบเทียบระหว่างคนที่ทำบุญแล้วปลื้ม กับคนที่ทำบุญแล้วไม่ปลื้มก็คงเปรียบเสมือนมีคนอยู่สองคนที่ต้องทำอะไรเหมือนๆกันสักอย่างหนึ่ง เพียงแต่คนแรก (ตัวแทนของคนที่ทำบุญแล้วปลื้ม) จะเป็นคนที่รู้ว่า “สิ่งที่ตัวเองกำลังทำเป็นสิ่งที่ดีงามและเป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น” เขาจึงเห็นคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ และรู้สึกอยากที่จะลงมือทำอย่างสุดความสามารถ ครั้นพอได้ลงมือทำแล้ว เขาก็รู้สึกมีความสุขที่ได้ทำในสิ่งๆนั้น และเมื่อทำสำเร็จแล้ว เขาก็ได้รับประโยชน์จากสิ่งที่ตัวเองทำอย่างเต็มที่ อีกทั้งสิ่งที่เขาทำนี้ ยังทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจ และมีความสุขในทุกๆครั้งที่ตัวเขานึกถึงส่วนคนที่สอง (ตัวแทนของคนที่ทำบุญแล้วไม่ปลื้ม หรือรู้สึกเฉยๆในบุญที่ตัวเองทำ) จะเป็นคนที่ไม่รู้ว่า “สิ่งที่ตัวเองกำลังทำเป็นสิ่งที่ดีงามและเป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น” เขาจึงไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ และรู้สึกเฉยๆต่อสิ่งๆนั้น (ประมาณว่าจะทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้) ดังนั้น เวลาจะลงมือทำก็จะทำแบบเสียมิได้ กล่าวคือ ทำไปอย่างนั้นเอง หรือทำไปแบบผ่านๆ ไม่ได้รู้สึกเข้าใจหรือมีอารมณ์ร่วมกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ หรือในบางครั้งก็ต้องมีคนมาช่วยกระทุ้งถึงจะลงมือทำ และเมื่อทำสำเร็จแล้ว เขาก็จะรู้สึกเฉยๆไม่ได้รู้สึกภาคภูมิใจ หรือมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองทำเหมือนอย่างคนแรก ดังนั้น ประโยชน์ที่ตัวเองพึงจะได้รับจึงได้ไม่เต็มที่ บางคนทำบุญแล้วปลื้ม บางคนทำบุญแล้วไม่ปลื้ม หรือรู้สึกเฉยๆในบุญที่ตัวเองทำหรืออุปมาเหมือนมีคนอยู่สองคนที่มีโอกาสได้ลิ้มลองอาหารรสเลิศที่หากินได้ยาก เพียงแต่คนแรก (ตัวแทนของคนที่ทำบุญแล้วปลื้ม) จะเป็นคนที่รู้ซึ้งถึงคุณค่าของอาหารจานนี้ว่า “เป็นอาหารที่มีคุณค่า หากินยากและรสชาติอร่อยมากๆ” ดังนั้น เวลาที่เขาจะรับประทานอาหารจานนี้ เขาจึงค่อยๆละเลียด ค่อยๆเคี้ยว ค่อยๆกลืน เพื่อที่ตัวเขาจะได้ดื่มด่ำกับทุกๆโอชารสที่มีอยู่ในอาหารจานนั้น ครั้นเมื่อทานเสร็จแล้ว เขาก็ได้รับประโยชน์จากอาหารจานนั้นอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังรู้สึกอิ่มอร่อยและรู้สึกประทับใจในรสชาติของอาหารจานนั้นแบบจำไม่รู้ลืม (ประมาณว่าทานแล้วยังอยากทานอีก)ส่วนคนที่สอง (ตัวแทนของคนที่ทำบุญแล้วไม่ปลื้ม หรือรู้สึกเฉยๆในบุญที่ตัวเองทำ) จะเป็นคนที่ไม่รู้ซึ้งถึงคุณค่าของอาหารจานนี้ว่า “เป็นอาหารที่มีคุณค่า หากินยากและรสชาติอร่อยมากๆ” ดังนั้น เวลาที่เขาจะรับประทานอาหารจานนี้ เขาจึงกินๆ เคี้ยวๆ กลืนๆ เหมือนอาหารทั่วไป ไม่ได้ดื่มด่ำกับโอชารสที่เจืออยู่ในอาหารจานนั้น ครั้นเมื่อทานเสร็จแล้ว ก็แค่รู้สึกว่าอิ่ม แต่ก็ไม่ได้รู้สึกประทับใจ และได้รับประโยชน์จากอาหารจานนั้นเป็นพิเศษเหมือนอย่างคนแรก จากที่คุณครูไม่ใหญ่ได้ยกคำอุปมาเปรียบเทียบทั้งสองเรื่องนี้ จะเห็นได้ว่า “การทำบุญอย่างถูกหลักวิชชา” คือ ทำบุญด้วยความเข้าใจ และปลื้มปีติใจทั้งก่อนทำ ขณะทำ และหลังจากที่ทำไปแล้ว เป็นสิ่งสำคัญที่พวกเราชาวพุทธทุกๆคนจะมองข้ามไปไม่ได้เลย บางคนดื่มด่ำในรสชาติของอาหารที่ได้กิน ส่วนบางคนกินเพียงให้อิ่มท้องจากเรื่องราวของคุณจอห์น แม้เขาจะเพิ่งหันมานับถือพระพุทธศาสนา และสั่งสมบุญแค่เพียงช่วงสั้นๆ แต่ในทุกๆครั้งที่ตัวเขาได้สั่งสมบุญ โดยเฉพาะในช่วงท้ายๆหลังจากที่ตัวเขาเริ่มเข้าใจ และมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาแล้ว เขาก็จะสั่งสมบุญทุกๆบุญด้วยความปลื้มปีติใจแบบอิ่มลึก ยิ่งกว่าคนที่เป็นชาวพุทธมาตั้งแต่กำเนิดบางคน ด้วยเหตุนี้ เมื่อเขาละจากโลกนี้ไปแล้ว ใจที่ผ่องใสสว่างไสวที่เกิดจากความปลื้มปีติใจในบุญที่ตัวเองได้สั่งสมเอาไว้ จึงส่งผลทำให้เขาได้ไปบังเกิดเป็นชาวสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟสสองในที่สุด เรียกได้ว่า “ทำน้อยแต่ได้ผลมาก”แม้สามีจะเพิ่งหันมานับถือพระพุทธศาสนา แต่ในทุกๆครั้งที่ตัวเขาได้สั่งสมบุญเขาก็จะสั่งสมบุญทุกๆบุญด้วยความปลื้มปีติใจแบบอิ่มลึกดังนั้น การทำบุญอย่างถูกหลักวิชชา คือ ทำบุญด้วยความปลื้มปีติใจทั้งก่อนทำ ขณะทำ และหลังจากที่ทำไปแล้ว ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะความปลื้มปีติของใจนี้เอง ที่จะทำให้ผลแห่งบุญที่เราได้สั่งสมเอาไว้ สามารถส่งผลได้อย่างเต็มที่เต็มกำลังแม้ในยามที่เราเป็น และในยามที่เราตายคำถามข้อที่ 4. ลูกและจอห์นทำกรรมร่วมกันมาอย่างไร ทำไมเราถึงมีเวลาได้ใช้ชีวิตคู่เพียงแค่ 3 ปี จอห์นก็มาเสียชีวิต ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องราวความเป็นมาระหว่างตัวลูกกับสามีของลูก คุณครูไม่ใหญ่ขออธิบายให้เข้าใจกันก่อนสักเล็กน้อยว่า การเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ ที่หาเบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลายได้ยากนั้น ทุกๆคนล้วนเคยได้เกิดมาเจอกัน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างคนเราแต่ละคน อาจจะแตกต่างกันไป เช่น บางชาติก็ได้เกิดมาเป็นพ่อแม่กัน, บางชาติก็ได้เกิดมาเป็นพี่น้องกัน, บางชาติก็ได้เกิดมาเป็นคู่รักกัน, บางชาติก็ได้เกิดมาเป็นคู่แค้นกัน เป็นต้น และก็มีในบางชาติหรือหลายๆชาติที่เราได้พลัดพรากจากกันไป การเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ ทุกคนล้วนเคยได้เกิดมาเจอกัน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างคนเราแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างตัวลูกกับสามีของลูกนั้น ลูกทั้งสองก็เคยได้เกิดมาเจอกันก่อนที่จะได้มาเป็นคู่รักกันในภพชาติปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น ในภพชาติก่อนๆโน้น ซึ่งเป็นชาติก่อนหน้าที่สามีของลูกจะพลัดพรากจากหมู่คณะ ลูกทั้งสองได้เคยเกิดมาเป็นพี่น้องกัน โดยที่สามีของลูกได้เกิดเป็นพี่ชาย ส่วนตัวลูกได้เกิดเป็นน้องสาว ซึ่งในภพชาติดังกล่าว ลูกทั้งสองต่างก็เป็นพี่น้องที่รักและผูกพันกันมาก อีกทั้งในภพชาตินั้น ลูกทั้งสองยังได้สั่งสมบุญร่วมกันอีกด้วยในภพชาติก่อนๆโน้น ตัวลูกและสามีได้เคยเกิดมาเป็นพี่น้องกัน อีกทั้งได้ทำบุญร่วมกันด้วยแต่ก็มีอีกหลายๆชาติที่ตัวลูกและสามีของลูกไม่ได้เกิดมาเจอกัน ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงที่สามีของลูกได้พลัดพรากจากหมู่คณะไป ตัวลูกและสามีของลูกก็ไม่ได้เกิดมาเจอกันเลย เพราะตัวลูกเองได้ลงมาเกิดสร้างบารมีร่วมกับมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะ แบบตามติดและติดตามมาโดยตลอด จนกระทั่งมาถึงในพุทธันดรที่ผ่านมา ตัวลูกและสามีของลูกก็เพิ่งโคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่พลัดพรากจากกันมายาวนาน ซึ่งในพุทธันดรที่ผ่านมานั้น สามีของลูกก็ได้ตัวลูกนี้เอง ที่ทำหน้าที่กัลยาณมิตรชักชวนให้เขาได้กลับมาสร้างบารมีร่วมกันกับมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะอีกครั้งหนึ่งแต่ก็มีอีกหลายๆชาติที่ตัวลูกและสามีไม่ได้เกิดมาเจอกัน เช่น ในช่วงที่สามีของลูกพลัดพรากจากหมู่คณะไปส่วนสาเหตุที่ทำให้ในภพชาติปัจจุบัน ตัวลูกและสามีของลูกมีเวลาได้ใช้ชีวิตร่วมกันเพียงแค่สามปี แล้วสามีของลูกก็ได้เสียชีวิตลงนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะวิบากกรรมปาณาติบาตที่สามีของลูกได้ฆ่าชาวบ้านตาย และจับชาวบ้านมาแขวนคอเป็นจำนวนมากในภพชาติก่อนพุทธันดรที่ผ่านมา (ช่วงที่เขาพลัดพรากจากหมู่คณะมาหลายภพหลายชาติแล้ว) มารวมกับเศษกรรมในภพชาติก่อนๆโน้น (คนละชาติกันกับชาติที่สามีของลูกได้ฆ่าพวกชาวบ้านตาย และจับชาวบ้านมาแขวนคอเป็นจำนวนมาก) ที่ตัวลูกเองได้พรากลูกสัตว์ให้แยกจากแม่ของมัน โดยในภพชาติดังกล่าว ลูกจะประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์เพื่อเอาลูกสัตว์ไปขายให้กับคนอื่น ซึ่งบางคนก็ซื้อเพื่อนำไปเลี้ยงแล้วฆ่าบ้าง, บางคนก็ซื้อเพื่อนำไปเลี้ยงแล้วนำไปใช้งานบ้าง เป็นต้นลูกและสามีอยู่ร่วมกันเพียงแค่ 3 ปี เพราะวิบากกรรมที่ต่างคนต่างเคยทำผิดพลาดไว้ดังนั้น เมื่อวิบากกรรมของสามีของลูก และเศษกรรมของตัวลูก ได้ช่องตามมาส่งผลร่วมกัน จึงทำให้ลูกทั้งสองได้ใช้ชีวิตร่วมกันเพียงแค่สามปี แล้วสามีของลูกก็ต้องมาเสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 44 ปีคำถามข้อที่ 5. ลูกและจอห์นสร้างบุญร่วมกับหลวงพ่อและหมู่คณะมาอย่างไร สำหรับเรื่องราวการสร้างบารมีของสามีของลูกนั้น ถ้าหากพวกเรายังจำกันได้ คุณครูไม่ใหญ่ได้กล่าวไปมากแล้วในตอนที่ผ่านๆมา แต่เพื่อป้องกัน “ความไม่จำ” ของพวกเรา คุณครูไม่ใหญ่จะขอทบทวนแบบย่อๆสักเล็กน้อย เรื่องก็มีอยู่ว่า...ในหลายพุทธันดรก่อนๆโน้น สามีของลูกได้เคยสร้างบารมีร่วมกับมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะของเรามาก่อน แต่ด้วยความที่เขามีใจออกห่างจากการสร้างบารมีกับมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะ แล้วหันไปนับถือลัทธิบูชาเทพเจ้า จึงทำให้หลังจากภพชาตินั้นเป็นต้นมา เขาได้พลัดพรากจากการสร้างบารมีกับหมู่คณะมาโดยตลอด ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากๆ จนกระทั่งมาถึงในพุทธันดรที่ผ่านมา สามีของลูกก็ได้กลับมาเจอกับหมู่คณะ และได้มาสร้างบารมีร่วมกับหมู่คณะอีกครั้ง อีกทั้งเมื่อมาถึงในภพชาติปัจจุบัน ด้วยบุญที่ตัวเขาเคยสั่งสมเอาไว้กับหมู่คณะ และคำอธิษฐานจิตที่สามีของลูกและตัวลูกได้เคยอธิษฐานจิตร่วมกันในพุทธันดรที่ผ่านมา จึงส่งผลทำให้สามีของลูกได้กลับมาเกิดสร้างบารมีร่วมกับมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะอีกครั้งในภพชาติปัจจุบัน สามีของลูกเคยสร้างบุญร่วมกับหมู่คณะ แต่ก็ได้พลัดพรากกันไปเป็นเวลานานเพราะไปนับถือความเชื่ออื่นส่วนเรื่องราวการสร้างบารมีของตัวลูกนั้น ลูกได้มีผังการสร้างบารมีกับหมู่คณะติดตัวมาอย่างหนาแน่น เพราะในหลายภพหลายชาติที่ผ่านๆมา ลูกได้สร้างบารมีร่วมกับมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะมาอย่างตลอดต่อเนื่อง แบบติดตามและตามติดไม่มีตกไม่มีหล่นเลย ยกตัวอย่างเช่น เรื่องราวการสร้างบารมีของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา ซึ่งได้กล่าวไปบ้างแล้วในตอนก่อนหน้านี้ ลูกได้เกิดเป็นกุลธิดารูปงามมากความสามารถ อยู่ในครอบครัวของคฤหบดีใหญ่ที่ทำกิจการค้าขายอยู่ในเขตหัวเมืองหนึ่งของแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวช เมื่อลูกเติบใหญ่ขึ้นแล้ว ลูกก็ได้ช่วยเหลือกิจการค้าขายของครอบครัว โดยตัวลูกเองได้รับหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับการส่งสินค้าไปขายยังที่ต่างๆ ตัวลูกเคยเกิดในครอบครัวคหบดี โดยมีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับการส่งสินค้าไปขายยังที่ต่างๆในระหว่างที่ลูกได้เดินทางไปติดต่อค้าขายในเขตเมืองหลวงนั้น ด้วยบุญที่ลูกได้สั่งสมร่วมกันมากับมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะ แบบตามติดชิดใกล้มาโดยตลอดนี้เอง จึงทำให้ลูกได้มาพบกับเพื่อนกัลยาณมิตรท่านหนึ่งที่ได้เดินทางไปทำบุญที่วัดของพระเถระอดีตพระราชาองค์ที่ออกบวชอยู่เป็นประจำ เมื่อเพื่อนกัลยาณมิตรท่านนี้ได้มาพบกับลูกแล้ว เธอก็เกิดความรู้สึกอยากที่จะชักชวนตัวลูกให้ไปทำบุญที่วัดของพระเถระอดีตพระราชาองค์ที่ออกบวชด้วยกัน ซึ่งตัวลูกเองก็เป็นคนที่มีอัธยาศัยชอบทำบุญเป็นทุนเดิมติดตัวมาข้ามภพข้ามชาติอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อเพื่อนกัลยาณมิตรท่านนี้ได้ชักชวนลูกไปทำบุญ ลูกจึงรู้สึกปีติเบิกบานเป็นอย่างมากแล้วตอบตกลงในทันทีที่เธอชวน เหมือนกับว่าในใจลึกๆก็รอคอยใครสักคนที่จะชวนไปทำบุญอยู่แล้ว ต่อมา มีกัลยาณมิตรมาชักชวนลูกไปทำบุญที่วัดของพระเถระอดีตพระราชาองค์ที่ออกบวชเมื่อลูกได้เดินทางไปทำบุญที่วัดของพระเถระอดีตพระราชาองค์ที่ออกบวชแล้ว ลูกได้มีโอกาสไปกราบพระเถระอดีตพระราชาองค์ที่ออกบวชอย่างใกล้ชิด ภายหลังจากที่ลูกได้ฟังธรรมจากท่านแล้ว ลูกก็เกิดความศรัทธาเลื่อมใสในมโนปณิธานของท่านเป็นอย่างมาก จนทำให้ลูกเกิดความตั้งใจที่จะช่วยงานของท่านอย่างเต็มที่เต็มกำลัง และเมื่อลูกได้ไปทำบุญและฟังธรรมที่วัดของพระเถระอดีตพระราชาองค์ที่ออกบวช จนเกิดความรู้ความเข้าใจในพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายแล้ว ลูกก็อยากที่จะนำสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตที่ตัวเองได้รับ ไปแบ่งปันให้กับคนที่ตนเองรัก ด้วยเหตุนี้เอง ลูกจึงได้ทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรให้กับคุณพ่อคุณแม่ และพี่น้องของตนเอง ด้วยการชักชวนให้ทุกๆคนมาทำบุญที่วัดของพระเถระอดีตพระราชาองค์ที่ออกบวชด้วยกัน ลูกได้ทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรให้พ่อแม่และพี่น้อง ได้ไปทำบุญร่วมกันในเวลาต่อมา ด้วยความที่ตัวลูกและสามีของลูกได้เคยสั่งสมบุญร่วมกันมาในหลายภพหลายชาติก่อนๆโน้น (ภพชาติก่อนชาติที่สามีของลูกจะพลัดพรากไปจากหมู่คณะ) ด้วยบุญนี้เอง จึงทำให้ลูกทั้งสองได้โคจรมาพบกันและได้มาเป็นคู่รักกันในที่สุด ภายหลังจากที่ลูกทั้งสองต่างมีใจให้กันและกันแล้ว ลูกก็อยากที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตให้กับผู้ชายที่ดีที่สุด ซึ่งก็คือ..สามีของลูกนั่นเองโปรดติดตามตอนต่อไป ทุกชีวิตล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม ตอนจบ
รับชมคลิปวิดีโอเรื่องสำคัญที่ชาวพุทธต้องรู้    
http://goo.gl/EeI90