ภาย หลังมีการจัดงานครบรอบ 4 ปี ทีวีบูรพา โดยมีการรวบรวมสุดยอดคนต้นเรื่องแห่งปี อาทิ ยาไฮ, ครูเลื่อน, ป้าแหม่ม, ปู่เย็น และตาสงัด นั้น พบว่า เวทีเสวนาที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ เวทีเสวนาจากรายการหลุมดำ ซึ่งจัดเสวนาในหัวข้อเรื่อง "5 หลุมดำในสังคมไทย"
โดยบรรยากาศการ เสวนามีการพูดถึงแง่คิดและภัยต่างๆ ในสังคม ซึ่งเปรียบเสมือนหลุมดำของสังคมที่หลายคนยังไม่เคยได้เห็นได้สัมผัส บางคนมองข้าม และหน่วยงานต่างๆ ก็ยังไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร
ทั้งนี้ ผศ.อภิญญา เวชยชัย คณบดีสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เผยว่า คำว่า "หลุมดำ" ก็เปรียบเสมือนหลุมที่ใครพลัดตกลงไปแล้วปีนป่ายขึ้นมาได้ยาก เป็นแหล่งดึงดูดเพื่อให้เข้าไปจมปลักอยู่กับความเลวร้าย หรือเปรียบเสมือนสิ่งร้ายๆ ที่เฝ้าคอยจะเข้ามาทำร้ายคนในสังคม ทั้งเด็กและผู้ใหญ่มีสิทธิ์หลุดเข้าไปอยู่ในหลุมดำได้หมด
"สมัย นี้หลุมดำมีมาก โดยเฉพาะอบายมุขต่างๆ ทั้งเรื่องของเทคโนโลยีที่เริ่มมีมากขึ้นในขณะนี้ ซึ่งคนที่เข้าข่ายตกหลุมดำมากที่สุดที่หลายฝ่ายต้องให้ความสนใจก็คือ คนชายขอบ รวมทั้งเยาวชน เช่น กลุ่มเด็กที่ถูกทำร้าย เด็กที่กระทำผิด หรือที่ถูกสังคมเรียกว่า ยุวทรชน กลุ่มคนพิการ คนไร้บ้าน และกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งคนกลุ่มนี้คือคนที่อยู่ในศูนย์กลาง แต่เป็นกลุ่มคนที่ถูกมองข้าม และก็ไม่ค่อยได้รับโอกาสจากสังคมเท่าที่ควร"
ขณะที่ ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผู้อำนวยการสถาบันรามจิตติ กล่าวถึงหลุมดำสำหรับเยาวชนไทยว่า เยาวชนไทยในสังคมไทยทุกวันนี้ต้องเผชิญกับหลุมดำรอบตัวอย่างหลีกเลี่ยงได้ลำบาก มีอยู่ทุกแห่งทุกที่ ที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือเรื่องการเสพและการบริโภคในรูปแบบต่างๆ ซึ่ง หลุมนี้ผู้ใหญ่เป็นผู้ขุดไว้เพื่อหลอกล่อเด็กในรูปแบบต่างๆ ด้วยกระแสบริโภคนิยมทั้งหลาย อาทิ เรื่องความฟุ้งเฟ้อ เทคโนโลยี สินค้าแบรนด์เนม ค่านิยมตะวันตก ค่านิยมเรื่องเพศ
"นอก จากนี้ยังมีหลุมแห่งความซ่า และความรุนแรง หลุมแห่งการเสี่ยง และการพนัน หลุมน้ำเมา และการเสพสื่อเกี่ยวกับเรื่องเพศ ซึ่งหลุมทั้งหมดนี้ต้องรีบกลบรีบฝังโดยเร็ว หรือทำให้ตื้นลง โดยผู้ใหญ่ตัวการสำคัญที่ขุดหลุมต่างๆ เหล่านี้ไว้จะต้องช่วยกัน ไม่เช่นนั้นอนาคตของสถาบันครอบครัวไทย หรืออนาคตของความสันติสุขทางสังคมจะไม่เหลือ" ดร.อมรวิชช์ กล่าว
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต