
กรุงเทพฯ- บริษัทไมโครซอฟต์คอร์ปอเรชั่น กับ บริษัท FPTCorporation
ของเวียดนาม
ได้ลงนามในความตกลงฉบับหนึ่งในวันเสาร์
(18 พ.ย.)
เพื่อเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์
ระหว่างกัน เป็นเวลา 3 ปี
เพื่อร่วมกันให้บริการโซลูชั่นคุณภาพสูงแก่ประชาคมธุรกิจต่างๆ
ทั้งในเวียดนามและในภูมิภาค
เอเชียแปซิฟิก
การลงนามดังกล่าวมีขึ้นในกรุงฮานอย ซึ่งในวันเดียวกันมีการประชุมผู้นำธุรกิจกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียและแปซิฟิก หรือ เอเปก ที่มีผู้นำหรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทในสหรัฐฯ
เข้าร่วมหลายร้อยคน
การจัดตั้งพันธมิตรในเวียดนามของบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลกสัญชาติอเมริกันรายนี้ี้มีขึ้น ระหว่างการเยือนเวียดนามของ
ประธานาธิบดีจอร์จ
ดับเบิ้ลยู บุช และยังมีขึ้นในขณะที่นางคอนโดลีซซ่า ไรซ์
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ
ได้กล่าวชื่นชมการพัฒนาเศรษฐกิจและการปฏิรูปในเวียดนาม
พร้อมเรียกร้องให้อีกหลายประเทศ
รวมทั้งเกาหลีเหนือและพม่าต้องยึดถือเอาเป็นแบบอย่าง
การก่อตั้งพันธมิตรครั้งนี้ยังมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากบริษัทอินเทลคอร์ป (Intel Corp) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก สัญชาติอเมริกัน ประกาศขยายการลงทุนในเวียดนามจาก 605 ล้านดอลลาร์ เป็นประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา บริษัทอินเทลฟายแนนซ์ ซึ่งเป็นแขนงการลงทุนของอินเทลคอร์ป ก็ได้ประกาศเข้าซื้อหุ้นในบริษัท FPT Corporation เพื่อร่วมเป็นหุ้นส่วนในการผลิตคอมพิวเตอร์ และฮาร์ดแวร์ต่างๆ เพื่อสนองความต้องการในเวียดนามและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในต้นปีนี้ระหว่างการเยือนเวียดนามของนายวิลเลียม เกตส์ (William Gates) ประธานไมโครซอฟต์ ก็ได้มีการลงนามในบันทึกช่วยความจำกับ FPT
ว่าด้วยพื้นฐานความร่วมมือต่างๆ การลงนามในความตกลงครั้งใหม่นี้
จึงเป็นการขยายขอบข่ายความร่วมมือในข้อริเริ่มต่างๆ
เพื่อความสำเร็จทั้งภายในประเทศและในภูมิภาค
โครงการหนึ่งที่สองฝ่ายเน้นหนักเป็นพิเศษก็คือ
การหาทางขยายตลาดโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
ภายใต้ซอฟต์แวร์วินโดว์เซอร์เวอร์
2003 ของไมโครซอฟท์ (Microsoft Windows
Server 2003) สองฝ่ายจะร่วมกันฝึกอบรมพนักงานของ FPT
เพื่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการธุรกิจข้ามแดน ปัจจุบันมีการฝึกอบรมวิศวกรของ FPT ไปแล้วกว่า 600 คน ในนั้นจำนวนมากฝึกฝนโดยผู้เชี่ยวชาญของไมโครซอฟต์ | |||||
|