ผู้นำสหรัฐตัดสินใจสั่งใช้ขีปนาวุธยิงทำลายดาวเทียมจารกรรมของสหรัฐในอวกาศ
ที่คาดว่าจะตกกระแทกพื้นโลกในเดือนหน้า
หวั่นเชื้อเพลิงอันตรายของดาวเทียมอาจเป็นทำให้มนุษย์เสียชีวิตได้

วอชิงตัน ดีซี (เอพี/บีบีซี นิวส์) - นายเจมส์ เจฟฟรีย์
รองที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ
ซึ่งเป็นผู้แถลงเรื่องดังกล่าวเมื่อวานนี้ ไม่ได้ระบุว่า
การยิงขีปนาวุธเพื่อทำลายดาวเทียมจารกรรมนี้จะลงมือเมื่อใด
ในขณะที่ดาวเทียมดังกล่าวมีกำหนดตกถึงพื้นโลกในราวสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคมนี้
โดยจะใช้ขีปนาวุธ 1 ลูก
ยิงจากเรือรบสหรัฐที่ลอยลำอยู่ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก ด้าน พล.อ.
เจมส์ คาร์ทไรท์ รองประธานเสนาธิการร่วม ซึ่งร่วมแถลงข่าวด้วยได้เสริมว่า
การยิงขีปนาวุธเข้าทำลายดาวเทียมจะเริ่มต้นในสัปดาห์หน้า
และจะใช้เวลาดำเนินการราว 1 สัปดาห์
แต่กระทรวงกลาโหมยังไม่ได้กำหนดว่าจะลงมือวันไหน
พล.อ.คาร์ทไรท์ ย้ำว่า
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐที่ใช้ขีปนาวุธยิงทำลายดาวเทียมในอวกาศ
โดยขีปนาวุธดังกล่าวจะเป็นรุ่นมาตรฐาน 3
ซึ่งจะทำลายเป้าหมายก่อนเข้าสู่บรรยากาศของโลก
โดยจะเล็งไปที่ถังบรรจุเชื้อเพลิงเพื่อไม่ให้ตกมาสู่พื้นโลกได้
สาเหตุที่จำเป็นต้องยิงขีปนาวุธทำลายดาวเทียม
เนื่องมาจากมันมีเชื้อเพลิงทีเรียกว่า ไฮดราซีน
ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่เข้าใกล้ดาวเทียมขณะตกถึงพื้นโลกได้รับบาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม
การยิงขีปนาวุธทำลายดาวเทียมในอวกาศนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดถึงความแม่นยำ
และอาจพลาดไปถูกดาวเทียมของชาติอื่นที่อยู่ใกล้เคียง
อีกทั้งเศษชิ้นส่วนหลังถูกทำลายอาจมีขนาดใหญ่พอที่จะชนกับดาวเทียมอื่นๆ
จนเกิดความเสียหายหรืออาจตกลงมาสู่พื้นโลก ซึ่งอาจสร้างความเสียหายเช่นกัน
ดาวเทียมจารกรรมลูกนี้มีชื่อว่า ยูเอส 193 มีขนาดเท่ากับรถโดยสารขนาดใหญ่
ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศเมื่อเดือนธันวาคม 2549
ประสบปัญหาขัดข้องทั้งในด้านพลังงานไฟฟ้า




และระบบคอมพิวเตอร์ล้มเหลวจนไม่อาจควบคุมได้
รัฐบาลสหรัฐจึงตัดสินใจทำลายก่อนตกสู่พื้นโลก
ที่มา-น.ส.พ.แนวหน้า