ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ปรับวิถีชีวิตขับรถน้อยลง เที่ยวน้อยลง ในยุคน้ำมันแพง
(3มิ.ย.) ธนาคาร อาร์บีซี แคปปิตอล
มาร์เก็ตส์ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อการลงทุนด้านพลังงานของแคนาดาเปิดเผยผลสำรวจ
เมื่อวันจันทร์ระบุว่า ชาวอเมริกันร้อยละ 90
ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อรับมือกับยุคน้ำมันแพง
ผลสำรวจนี้ซึ่งสอบถามชาวอเมริกัน 1,007
คนพบว่าปัญหาน้ำมันแพงทำให้ผู้ตอบคำถามร้อยละ 76 ขับรถยนต์น้อยลง
อีกร้อยละ 19 กำลังคิดหรือได้เปลี่ยนไปใช้บริการขนส่งมวลชนมากขึ้น
และร้อยละ 11 กำลังคิดหรือเปลี่ยนไปใช้วิธีcar pool คือ
ทางเดียวกันไปด้วยกัน นอกจากนี้ 4 ใน 10
คนกำลังตัดสินใจว่าจะย้ายที่พักให้ใกล้กับที่ทำงานเพื่อประหยัดค่าเดินทาง
และร้อยละ 82 คิดว่าถ้าจะซื้อรถยนต์คันใหม่ จะเลือกแบบไฮบริด
และแม้แต่ชาวอเมริกันฐานะดีที่มีรายได้มากกว่า 1
แสนดอลลาร์ต่อปีก็ยังรู้สึกว่าได้รับผลกระทบจากน้ำมันแพง โดยร้อยละ 48
บอกว่า รับประทานอาหารนอกบ้านน้อยลง และร้อยละ 21
บอกว่าออมเงินไว้ยามเกษียณน้อยลง
ผลสำรวจยังพบว่า
คนอเมริกันยังมีความคิดเรื่องแผนการเที่ยวพักผ่อนช่วงฤดูร้อนเปลี่ยนไป
โดยครึ่งหนึ่งบอกว่า ไม่อยากไปเที่ยวไหนไกลจากบ้านจากเมืองของตัวเอง หรือ
ไม่อยากไปเลย
และความคิดคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในบริเวณชุมชนของตัวเองก็ลดลงไปด้วย
โดยขณะนี้มีเพียงร้อยละ 16 ที่คัดค้าน เมื่อเทียบกับร้อยละ 23
ในผลสำรวจเมื่อปีที่แล้ว
ที่มา-