สธ.เตือนหน้าฝนระวังเห็ดป่ามีพิษร้ายแรง
กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนที่เก็บเห็ดมาบริโภคหรือจำหน่าย ควรเลือกและสังเกต ว่าเห็ดชนิดนั้นรับประทานได้หรือไม่ เนื่องจากเสี่ยงพบเห็ดมีพิษ หากรับประทาน อาจมีอันตรายเสียชีวิตได้
นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากผลสำรวจพบว่าในแต่ละปีจะพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากการกินเห็ดป่า และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม พบมากในจังหวัดทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในรอบ 6 เดือนปีนี้ พบผู้ป่วยจากการกินเห็ดพิษแล้ว 300 ราย เสียชีวิต 2 ราย เฉพาะเดือนพฤษภาคม พบผู้ป่วย 97 ราย เสียชีวิต 1 ราย ตลอดปี 2552 มีรายงานประชานกินเห็ดป่ามีพิษ 1,610 ราย เสียชีวิต 3 ราย
จึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการเลือกซื้อหรือเก็บเห็ดป่าเห็ดธรรมชาติมา ปรุงเป็นอาหาร ควรเลือกเห็ดที่รู้จักดีและแน่ใจว่าไม่มีพิษ โดยสามารถสังเกตจากลักษณะภายนอก 10 ข้อ ได้แก่
1. เห็ดที่เป็นสีน้ำตาล
2. มีลักษณะเป็นสมองหรืออานม้าซึ่งบางชนิดต้มแล้วกินได้แต่บางชนิดมีพิษร้ายแรง
3.มีปลอกหุ้มโคน
4. มีโคนอวบใหญ่
5. มีปุ่มปม
6. มีหมวกเห็ดเป็นรูปๆ แทนที่จะเป็นช่องคล้ายครีบปลา
7. มีหมวกเห็ดสีขาว
8. มีวงแหวนใต้หมวก
9. เห็ดตูมมีเนื้อในสีขาว
10. เห็ดที่ขึ้นที่มูลสัตว์หรือใกล้มูลสัตว์ ขอให้หลีกเลี่ยงอย่าเก็บมากินเพราะอาจเป็นเห็ดพิษได้
หากพบผู้ได้รับพิษจากการกินเห็ด เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หน้ามืด ตาลาย ใจสั่น อ่อนเพลีย ปวดท้อง เวียนศีรษะ การช่วยเหลือเบื้องต้น ที่สำคัญที่สุดคือทำให้อาเจียนออกมาให้หมด โดยการล้วงคอหรือกรอกไข่ขาว แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลหรือสถานีอนามัยใกล้บ้านทันที ซึ่งหากเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ที่กินเห็ดเข้าไปมากๆ ก็อาจทำให้เสียชีวิตได้เช่นกัน
ซึ่งในฤดูฝนทุกภาคของประเทศไทยจะมีเห็ดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งชาวบ้านมักเก็บเห็ดมาบริโภคหรือจำหน่ายจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งเห็ดที่กินได้และเห็ดมีพิษ เห็ดที่กินได้ เช่น เห็ดโคน เห็ดจูน เห็ดไข่ห่าน เห็ดเผาะ เห็ดหูหนู เห็ดตับเต่าบางชนิด และเห็ดลม ส่วนเห็ดที่มีพิษ เช่นเห็ดตับเต่าบางชนิด เห็ดระโงกหิน เห็ดสมองวัว เห็ดน้ำหมึก เห็ดหิ่งห้อย เห็ดเกล็ดดาว เป็นต้น