ดอกพุดซ้อน ดอกไม้ประจำวันมาฆบูชา
ชื่อสามัญ Cape jasmine, Gardenia jasmine
ชื่อวิทยาศาสตร์ Gardenia augusta (L.) Merr.
ตระกูล RUBIACEAE
ต้นพุด เป็นพรรณไม้ยืนต้น ขนาดเล็ก ลักษณะเป็นพุ่มเตี้ย ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-3 เมตร ผิวลำต้นมีสีขาวเทา แตกกิ่งก้านออกใบรอบต้น ใบเป็นใบเดี่ยว แตกออกเป็นคู่ตรงกันข้าม ออกตามข้อของกิ่ง ลักษณะของใบเป็น รูปมนรี ปลายใบแหลม ผิวใบเรียบสีเขียว ขนาดใบกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 8-12 เซนติเมตร ดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกตามปลายยอดหรือปลายกิ่ง ช่อหนึ่งมีดอกประมาณ 5-6 ดอก ซึ่งแล้วแต่ชนิดพันธุ์ ดอก มีกลิ่นหอมสีขาว กลีบดอกซ้อนเป็นชั้น ๆ หรือเรียงเป็นชั้นเดียวแล้วแต่ชนิดพันธุ์ ดอกบานมีความโตประมาณ 2-5 เซนติเมตร ออกผลเป็นฝัก รูปกระบอก แหลมโค้ง ภายในมีเมล็ดประมาณ 3-5 เมล็ด เพราะดอกพุดมีสีขาวสดใสความเป็นมงคล
เชื่อกันว่าไม่ว่าจะเป็นต้นพุดชนิดใดจะส่งผลให้มีความเจริญ มั่นคง แข็งแรงสมบูรณ์ ทั้งสิ้น แต่ก็ควรให้เป็นพุดชนิดที่ดอกสีขาวการปลูกต้นพุด
นิยมปลูกในแปลงปลูก เพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ชนาดหลุมปลูก 50 x 50 x 50 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือ ปุ๋ยหมัก: ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก ถ้าปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านหรืออาคาร ควรปลูกให้มีระยะหย่างที่เหมาะสม เพราะ พุดเป็นไม้ที่มีทรงพุ่มใหญ่ แสง ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง ชอบดินร่วนซุย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 2 -.3 กิโลกรัม / ต้น ควรใส่อย่างน้อยปีละ 2 - 3 ครั้ง หรือใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 200-300 กรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 3-4 ครั้งการดูแลรักษา
แสง ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง
ดิน ชอบดินร่วนซุย
ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 2 -.3 กิโลกรัม / ต้น ควรใส่อย่างน้อยปีละ 2 - 3 ครั้ง หรือใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 200-300 กรัม/ต้น ควรใส่ปี ละ 3-4 ครั้ง
โรคและศัตรู ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรู เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพธรรมชาติได้ดี
แมลง เพลี้ยหอย
อาการ ใบสีเหลือง จะเห็นกลุ่มเพลี้ยสีขาวเกาะอยู่ตามซอกใบ หรือโคนใบ จะทำให้ใบเหี่ยวร่วงในต่อมา
การป้องกัน รักษาความสะอาดบริเวณแปลงปลูก กำจัดมดที่เป็นพาหะแพร่ระบาดด้วยยาเช่นเดียวกับการกำจัด
การกำจัด ใช้ยาไซกอน, ไดอาชินอน อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลากการขยายพันธุ์ต้นพุด
การขยายพันธ์ การเพาะเมล็ดโรคและแมลง
เพลี้ยอ่อน เพลี้ยหอยและเพลี้ยแป้ง ซึ่งพวกเพลี้ยก็จะดูดน้ำเลี้ยงพืชเป็นอาหาร อันส่งผลให้ต้นไม้ไม่สวยและบางกิ่งดำและแห้งไป วิธีไล่นั้น อันดับแรกคือ ใช้สารเคมีทีค่อนข้างมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้สูง มีชื่อทางการค้าว่า sedvin และ s85 วีธีที่สองก็คือ ใช้สารน้ำมัน ที่มีชื่อว่าไวท์ออยล์ หรือปิโตเลียมออยล์ ซึ่งสารน้ำมันนี้เมื่อฉีดพ่นไปจะเคลือบอยู่บนตัวเพลี้ย ซึ่งเพลี้ยพวกนี้หายใจทางผิวหนังก็จะหายใจไม่ออกก็จะหนีไป และวิธีที่สามคือ ใช้น้ำยาล้างจานผสมกับน้ำในอัตราส่วนน้ำยาล้างจานครึ่งช้อนต่อน้ำหนึ่งลิตร แล้วใส่ฟอ็กกี้ฉีดพ่นไปเลย พวกมดจะระคายผิวแล้วคาบพวกเพลี้ยหนีไป
http://goo.gl/Ts9Fyl