ท่องสวรรค์ ตอน อสูรพิภพ

ในสมัยแรกที่มฆมาณพ และสหาย 32 คน ได้ไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ใหม่ๆ พวกเทพบุตรที่อยู่ก่อน นำน้ำคันธบาลที่เป็นทิพย์ ซึ่งเป็นน้ำเมาสวรรค์มาเลี้ยงต้อนรับ ดื่มแล้วจะมึนเมา พวกเทพที่อยู่ก่อนนำมาเลี้ยง แต่กินกันเองจนเมาขาดสติ https://dmc.tv/a18518

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ธรรมะสอนใจ
[ 31 ก.ค. 2557 ] - [ ผู้อ่าน : 18254 ]
ท่องสวรรค์ ตอน อสูรพิภพ
ข้อมูลจาก https://www.facebook.com/Dhammavipulo
วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
 

      ในสมัยแรกที่มฆมาณพ และสหาย 32 คน ได้ไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ใหม่ๆ พวกเทพบุตรที่อยู่ก่อน นำน้ำคันธบาลที่เป็นทิพย์ ซึ่งเป็นน้ำเมาสวรรค์มาเลี้ยงต้อนรับ ดื่มแล้วจะมึนเมา พวกเทพที่อยู่ก่อนนำมาเลี้ยง แต่กินกันเองจนเมาขาดสติ

      มฆมาณพเทพบุตรจึงให้บริวาร จับพวกเทพที่อยู่ก่อน โยนลงจากสวรรค์ ตกลงมาที่ใต้เขาสิเนรุ จึงค่อยได้สติ จอมเทพได้สั่งสอนบริวาร ไม่ให้ดื่มน้ำคันธบาลอีก ด้วยกุศลกรรมที่เหล่าเทพได้สั่งสมมา จึงทำให้บังเกิดเทพนครกว้างใหญ่ รุ่งเรืองคล้ายดาวดึงส์พิภพทุกประการ เพียงแต่ความวิจิตรพิสดารน้อยกว่าเล็กน้อย

     นครนี้บังเกิดขึ้นที่เชิงเขาสิเนรุบรรพต มีน้ำล้อมรอบกำแพงเมือง มีต้นแคฝอย ประดับประจำเทพนครอย่างงดงาม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ดินแดนแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า อสูรพิภพ กว้างใหญ่ถึง 10,000 โยชน์ ตั้งอยู่ใต้เขาสิเนรุ

     ความเป็นอยู่ของเหล่าอสูร เสวยสุขเหมือนทวยเทพทุกอย่าง มีแต่ความสดชื่น รวยรื่นใจ ไม่ต้องลำบากยากเข็ญ ด้วยอำนาจกุศลกรรมที่เหล่าอสูร ทำไว้แต่ปางก่อน

     เมื่อพวกอสูรเห็นต้นแคฝอยออกดอกบานสะพรั่ง ก็จะหวลระลึกถึงความหลัง เมื่อครั้งที่ยังอยู่บนเทวนครดาวดึงส์ ซึ่งมีต้นปาริฉัตรเป็นต้นไม้ประจำเทพนคร นึกถึงความหลังที่ไร ก็จะมีความเศร้า ระคนกับความเคืองแค้นต่อทวยเทพในดาวดึงส์พิภพ จากนั้น ก็จะชักชวนกันขึ้นไปทำสงครามกับพระอินทร์

     เมื่อสงครามระหว่างเทวดากับอสูรเกิดขึ้น ฝ่ายอสูรเทพบุตรมักจะพ่ายแพ้มากกว่า ท้าวสัมพรอสูรเมื่อหนีมาพบพวกโยคีฤาษี สิทธาทั้งหลาย ก็เข้าใจเองว่า พระอินทร์คงมีพวกนี้เป็นที่ปรึกษา ทำให้ฝ่ายตนพ่ายแพ้อยู่เสมอ จึงสั่งพวกของตนให้รื้อบรรณศาลาทิ้ง ทุบต่อยหม้อน้ำของฤาษีทิ้ง

     พวกฤาษีพากันเหาะไปสร้างความเข้าใจว่า พวกตัวไม่เกี่ยวข้องกับการรบ แต่สัมพรอสูรไม่พอใจ กล่าวปรักปรำ ไม่ให้อภัย แล้วจะเบียดเบียน เหล่าฤาษีจึงตักเตือน ติเตียนว่า คนบาปย่อมได้รับผลแห่งความชั่ว แล้วพากันเหาะกลับไปอาศรมตามเดิม

      ตั้งแต่นั้นมา สัมพรอสูรไม่เป็นอันกินอันนอน มีแต่ความหวาดเสียวสะดุ้ง เมื่อจะเอนหลังลงนอนในยามราตรี ก็จะเห็นนิมิตเป็นเหล่าศัตรูมาแวดล้อม จะเอาหอกหลาวทิ่มแทง จึงหวาดผวาลุกขึ้นมาทันที พวกเหล่าอสูรพากันมาเยี่ยม
สัมพรอสูรไม่กล้าบอก กลายเป็นเทพอ่อนแอทั้งกาย และใจ มีจิตหวาดหวั่นตกใจกลัวเป็นนิตย์ จึงได้รับขนานนามใหม่ว่า ท้าวเวปจิตติ แปลว่า จอมอสูรผู้มีจิตหวาดหวั่น


http://goo.gl/APzIo3


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ชวนต่างชาติให้สนใจ ทาน ศีล ภาวนา
      อยากผอม
      บุญกับวาสนา
      เกิดเป็นขอทาน
      คิด พูด ทำ อย่างไหนบาปที่สุด
      คิดในกรอบกับคิดนอกกรอบ
      วิบากกรรมกระดูกพรุน
      เด็กชอบกัดเล็บ
      นอนกัดฟัน
      ชีวิตที่คุ้มค่า
      ดาราซึมเศร้า
      กำลังใจในหน่วยงาน
      ดูแลพระอรหันต์ในบ้าน




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related