นายธนเษก อัศวานุวัตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า ได้มองถึงศักยภาพของกว๊านพะเยา สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ของเมืองภูกามยาวได้อย่างดี ดังนั้น จึงได้มอบหมายให้ นายอดุม อ่อนนวล ผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยวกีฬาและนันทนาการจังหวัดพะเยา ออกสำรวจโบราณสถานเป็นวัดเก่าที่จมอยู่ใต้น้ำในกว๊านพะเยา มาเป็นเวลานานกว่า 500 ปี ทั้งนี้เพื่อศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของอารยธรรมเมืองภูกามยาว จากการสำรวจ พบว่ามีวัดโบราณกว่า 20 แห่ง จมอยู่ใต้น้ำในกว๊านพะเยา ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 12,000 ไร่ ที่พร้อมจะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ได้

ภายหลังการสำรวจโบราณสถานในกว๊านพะเยาครั้งนี้ จะได้มอบหมายให้สำนักงานโยธาและผังเมืองจังหวัดพะเยา เร่งดำเนินการทำแนวเขตกว่า 20 จุด โดยทำคันกั้นวัดทั้งหมดจากนั้นสูบน้ำออก จะทำให้เห็นวัดเก่ากว่า 20 แห่ง ที่จมอยู่ใต้น้ำ จากนั้น จะเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเช่าเรือพายชมวัดเก่าโบราณดังกล่าว พร้อมชมวิถีชีวิตประมงพื้นบ้านรอบกว๊านพะเยา โดยเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ได้ เนื่องจากกว๊านพะเยาจะเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือตอนบน ยังมีความสำคัญเชิงท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ชมโบราณสถานกลางน้ำ เชื่อว่ามีแห่งเดียวในประเทศไทย

"อย่างไรก็ตาม ภายใต้การพัฒนาตามแนวคิดนี้ ผมได้ยึดหลักการทำงานคือ เน้นการมีส่วนร่วมและการใช้เหตุและผล โดยเปิดโอกาสให้ประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่อยู่โดยรอบกว๊านพะเยา ได้มีการเสนอแนวคิดแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เพื่อการพัฒนาที่เหมาะสมไม่ทำลายสภาพแวดล้อมของกว๊านพะเยาด้วย" นายธนเษก กล่าว
 
 
 
ที่มา-
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง