
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายฟุคุอิ มาซาฟุมิ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เว็ดจิ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (Wedge) กล่าวว่า บริษัทเตรียมเจรจาค่ายภาพยนตร์และเพลงชื่อดังในไทย เพื่อร่วมทุนสร้างภาพยนตร์ที่มาจากการ์ตูนแอนิเมชันเรื่องฮิตในญี่ปุ่น โดยมองเห็นศักยภาพการผลิตภายนตร์ ที่ปัจจุบันมีคุณภาพทัดเทียมต่างประเทศ
รูปแบบการร่วมทุน
ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับทั้งค่ายบันเทิงระดับใหญ่ๆ เช่น สหมงคลฟิล์ม
แกรมมี่ อาร์เอส เป็นต้น โดยจะใช้งบเข้ามาลงทุนทำตลาดในไทยช่วงแรก 30
ล้านบาท
"ผมติดตามภาพยนตร์ไทยมาแล้วหลายเรื่อง
และเห็นว่าทีมงานสร้างมีความประณีต
และมีความรู้ในการสร้างภาพยนตร์ไม่ต่างจากประเทศอื่นๆ
จึงอยากเข้ามาลงทุนร่วมกับค่ายหนังใหญ่ๆ ในไทย
โดยจะใช้ภาพยนตร์แอนิเมชันของบริษัทเป็นจุดขาย" นายฟุคุอิ กล่าว
ที่ผ่านมา มีภาพยนตร์ที่เกิดจากการแปลงแอนิเมชันญี่ปุ่น ออกฉายทั่วโลกไปบ้างแล้ว เช่น Transformers เป็นต้น
นายฟุคุอิ กล่าวต่อว่า ปีหน้าแผนธุรกิจต่างๆ
จะชัดเจนมากขึ้น
และคาดว่าคนไทยจะได้เห็นภาพยนตร์ที่เป็นความร่วมมือระหว่างไทยและญี่ปุ่น
ออกฉายในไทยอย่างน้อย 2 เรื่อง
"ด้วยจุดแข็งทั้งหมดที่มี
บริษัทจะนำเข้ามาสร้างเป็นธุรกิจร่วมทุน กับบริษัทที่ทำธุรกิจบันเทิงในไทย
โดยคัดเลือกบริษัทที่คิดว่าจะมีทิศทางการดำเนินธุรกิจเดียวกัน
แต่ยังไม่มีแผนที่จะตั้งเป็นบริษัทในไทย" นายฟุคุอิ กล่าว
อย่างไรก็ตาม
การเข้ามาทำธุรกิจของยักษ์บันเทิงญี่ปุ่นรายนี้
มีแผนที่จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการผลิตภาพยนตร์เพื่อออกขายไปยังทั่วโลกด้วย
โดยมีตลาดใหญ่ที่สหรัฐอเมริกา ส่วนในเอเชียจะเน้นไปที่ไทย ไต้หวัน เกาหลี
ทั้งนี้ บริษัท เว็ดจิ
เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจบันเทิงครบวงจร
ที่ผ่านมาได้ควบรวมกิจการและเข้าซื้อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบันเทิงจำนวนมาก
ธุรกิจหลักของบริษัทคือ ผลิตภาพยนตร์แอนิเมชัน ภาพยนตร์ เพลง
และคอนเทนท์บนโทรศัพท์มือถือ
บริษัทชูจุดแข็งเรื่องการพัฒนาแนวคิดแอนิเมชัน
และการ์ตูนจากเพียงภาพร่าง มาต่อยอดให้เป็นภาพยนตร์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์
สามารถผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่น วิดีโอบนอินเทอร์เน็ต และคอนเทนท์บนเวบ
รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือ
การเข้ามาเปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศไทย
ผ่านงานไทยแลนด์ แอนิเมชัน แอนด์ มัลติมีเดีย 2007 (TAM 2007)
บริษัทได้นำการ์ตูนแอนิเมชันเรื่องฮิตที่ยังไม่ได้ออกฉายในญี่ปุ่น
เข้ามาฉายโชว์ด้วย
ทั้งนี้ แอนิเมชัน "KUMA3"
เป็นเรื่องราวของคุณหมีตัวจ้อยจากในป่า
ที่ต้องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดจากต่างดาว นอกจากนี้ยังมีการ์ตูนแอคชั่น
แนวแอนิเมชัน มาจัดแสดงให้ชมภายในงาน
ด้านนายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ รักษาการผู้อำนวยการ
สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ ซิป้า
กล่าวว่า ภาพรวมการจัดงานTAM 2007 ตั้งแต่วันนี้-20 พ.ย. นี้ ณ
อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี อยู่ในแนวคิดที่ว่า “Global
Opportunities for Digital Entertainment”
เพื่อสร้างเวทีสำหรับผู้ประกอบการในการเจรจาธุรกิจ
มีผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ในอุตสาหกรรมนี้
จากในประเทศและต่างประเทศกว่า 30 ราย มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์
และถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้ประกอบการไทย
ขณะที่ ซิป้า
ก็คาดว่างานนี้จะมีการพบปะเจรจาในลักษณะคู่ค้าทางธุรกิจ
เกิดขึ้นไม่น้อยกว่า 200 นัด และเกิดการค้าการลงทุนร่วมกัน
คิดเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ภายในช่วง 6 เดือนจากนี้