ตื่นภาพเปรตเดินผ่านกลางหมู่บ้านเมืองลำ​ปาง​ ​หลังงานบุญอุทิศ​ส่วน​กุศลช่วงกลางวัน​ ​หนุ่มวัย​ 17 ​บันทึกภาพ​ได้​กลางดึก
พระ​เชื่อเปรตมารับ​ส่วน​บุญ​ ​ส่วนชาวบ้านผวาปิดบ้านนอนแต่หัวค่ำ
ผู้​สื่อข่าว​ได้​รับแจ้ง​จาก​ชาวบ้าน​ใน​ ​ต​.​ปงแสนทอง​ ​และ​ ​ต​.​ชมพู
อ​.​เมือง​ ​จ​.​ลำ​ปาง​ ​ว่า​ ​มีคนบันทึกภาพเปรต​ ​ด้วย​โทรศัพท์มือถือ​ไว้​ได้​ใน​หมู่บ้านไร่ข่วงเปา​ ​ม​.11 ​ต​.​ปงแสนทอง​ ​อ​.​เมือง จ.ลำ​ปาง​ ​และ​มีการนำ​ภาพออกเผยแพร่​ให้​ชาวบ้านจน​เป็น​ที่ฮือฮา​และ​สร้าง​ความ​ประหลาดใจแก่ชาวบ้านจำ​นวนมาก
หลัง​จาก​นั้น​ผู้​สื่อข่าว​ ​จึง​เดินทางไป​ยัง​ ​ที่วัดไร่ข่วงเปา​ ​ม​.11
​ต​.​ปงแสนทอง​ ​อ​.​เมือง​ ​เพื่อขอ​ให้​พระประสพชัย​ ​จรณธรรมโม​ ​รักษาการเจ้าอาวาสวัดไร่ข่วงเปา​ ​เพื่อสอบถามเรื่องที่​เกิดขึ้น​ ​โดย​พระประสพชัย​ ​ระบุว่า​ผู้​ที่บันทึกภาพ​ไว้​ได้​คือนายเอกชัย​ ​แก้วมูลคำ​ ​อายุ​ 17 ​ปี​ ​อยู่​บ้านเลขที่​ 10 ​ม​.11 ​ไร่ข่วงเปา​ ​ ​ต​.​ปงแสนทอง
อ​.​เมือง​ ​จ​.​ลำ​ปาง​ ​และ​บ้าน​อยู่​ติด​กับ​วัด

พระประสพชัย​ ​กล่าวต่อว่า​ ​นายเอกชัย​ ​สามารถ​ใช้​โทรศัพท์มือถือถ่ายรูป​ไว้​ได้​ใน​เวลาประมาณ​  01.00 ​น​. ​ของวันที่​ 14 ​กัน​ยายน​ 2551 ​ที่ผ่านมา​ ​จำ​นวน​ 3 ​ภาพ​ ​โดย​ลักษณะ​เป็น​เงาสีดำ​ ​เพราะ​มี​แสงของพระจันทร์ที่ส่องสว่าง​ให้​เห็นเด่นชัดว่ามีศีรษะ​ ​เป็น​ตัว​ ​และ​ต้นขา​ ​ได้​เคลื่อนตัวไปอย่างช้า​ ​ๆ​ ​ใน​ลักษณะ​เดินทีละก้าว​ ​ซึ่ง​หลังภาพถูกเผยแพร่ออกไป​ได้​สร้าง​ความ​แตกตื่นต่อชาวบ้าน​เป็น​อย่างมาก​ ​เพราะ​ใน​ช่วงกลางวันของวันเดียว​กัน​มีการทำ​บุญทานเปรตพลี​ ( ​เปต-​ตะ​-​พลี) ​ขึ้น​ 15 ​ค่ำ​ ​เดือน​ 10 ​เพื่อทำ​บุญอุทิศ​ส่วน​กุศลแก่​ผู้​ที่ล่วงลับไป​แล้ว​ ​ดัง​นั้น​ชาวบ้าน​จึง​วิพากษ์วิจารณ์​กัน​ไปต่าง​ ​ๆ​ ​นานาว่า​ ​อาจ​จะ​เป็น​เปรตที่​จะ​มารอรับ​ส่วน​บุญที่วัด

หลัง​จาก​มีกระ​แสข่าวแพร่สะพัดออกไปอย่างรวด​เร็ว​ ​ทำ​ให้​ชาวบ้านใน
อำ​เภอ​ใกล้​เคียงที่ทราบข่าว      ได้​พา​กัน​หลั่งไหลเดินทางมาที่วัด​เป็น​จำ​นวนมาก​ ​ดัง​นั้น​ ​ทางวัดไร่ข่วงเปา​ ​จึง​ได้​นำ​ภาพเปรตมาขยาย​เป็น​ภาพ​ใหญ่​ ​และ​ติดบอร์ดเพื่อ​ให้​ประชาชน​ได้​ชมอย่าง​ใกล้​ชิด​ ​พร้อมมีข้อ​ความ​เขียน​ไว้​ข้างภาพว่า​ ​ให้​ประชาชน​ได้​ใช้​วิจารณญาณ​ใน​การชม​ ​และ​อย่า​ได้​หลงงมงาย

หลัง​จาก​ประชาชน​ส่วน​ใหญ่​ได้​เห็นภาพเปรต​แล้ว​ ​ทุกคนต่างยืนยันว่าภาพที่ถ่าย​เป็น​ภาพจริงๆ​ ​และ​มี​ความ​เชื่อว่านรก​ ​และ​สวรรค์​ ​หรือ​ ​บาปบุญคุณโทษ​นั้น​ ​​มี​อยู่​จริง​ ​และ​ควรที่​จะ​ตั้งหน้าทำ​ความ​ดี​ ​และ​ทำ​บุญ​ให้​มาก​ ​ๆ​ ​เพื่อที่ตายไป​แล้ว​จะ​ไม่​ตกนรก​ ​หรือ​กลาย​เป็น​เปรต ดัง​ใน​ภาพ

สำ​หรับบรรยากาศภาย​ใน​หมู่บ้านไร่ข่วงเปา​ ​ซึ่ง​เป็น​หมู่บ้านที่​สามารถ​ถ่ายรูปภาพดังกล่าว​ได้​นั้น​ ​พอพลบค่ำ​ชาวบ้านก็​จะ​เก็บตัว​อยู่​ใน​บ้าน​ไม่​ค่อยออกมา​เดินไปมา​ ​เหมือนแต่ก่อน​ ​เพราะ​หลายคนมี​ความ​กลัวว่าอาจ​จะ​เจอเปรต​ ​จึง​อาศัย​อยู่​แต่ภาย​ใน​บ้านเรือนของตนเอง  

พระประสพชัย​ ​กล่าว​ด้วย​ว่า ​เปรต​ใน​ภาพ​เป็น​เปรตที่มาขอ​ส่วน​บุญ​ ​และ​เป็น​เปรตที่​ไม่​มีขา​ ​ไม่​มีมือ​ ​และ​ก็​แบกของหนัก​ ​ตามหลักพระพุทธศาสนา​แสดงว่าครั้งเมื่อตอน​เป็น​คน เคยขโมยของวัด​ ​หรือ​ใส่​รองเท้าขึ้นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ภาย​ใน​วัด​ ​พอตอนตายไปก็​จะ​เป็น​เปรต​ ​และ​ยัง​ไม่​ได้​ไปผุดไปเกิด​

ดัง​นั้น​ ​เมื่อ​ไม่​มีมือ​จึง​ต้อง​นำ​สิ่งของต่าง​ ​ๆ​ ​ใส่​บ่า​แบก​ไว้​เป็น​การทรมาน​ใน​ครั้งที่ตายไป​แล้ว​ ​สำ​หรับเปรตตามหลัก
คำ​สอนของพระพุทธศาสนามีหลายประ​เภท​ ​หัว​เป็น​ควาย​ ​วัว​ ​หรือ​ว่า​เป็น​ม้าก็มี​ ​เพราะ​ชอบเอาสัตว์​เหล่านี้มาชน​กัน​ ​ส่วน​ตัว​จะ​เป็น​ร่างมนุษย์​ ​หรือ​อีกประ​เภท​จะ​เป็น​เปรตที่ลิ้นยาว​ ​และ​มี​ไม้​เสียบ​ ​ประ​เภทนี้​ ​ตอน​เป็น​คนเคยบ้วนน้ำ​ลายลง​ใน​วัด​ ​พอตายไปก็​เป็น​เปรตประ​เภทนี้​   

นายเอกชัย​ ​เล่าว่า​ ​ใน​วันดังกล่าวที่​สามารถ​ถ่ายรูป​ได้​ ​หลัง​จาก​ตน​ได้​ทำ​การบ้านเสร็จ​แล้ว​ ​จึง​นอนเล่น​อยู่​ภาย​ใน​ห้องนอนของตนเองที่ชั้นสอง​ ​จนกระทั่ง​ถึง​เวลาดังกล่าว​ ​ได้​เปิดผ้าม่านเพื่อ​จะ​ดูว่าฝน​ได้​ตก​แล้ว​หรือ​ไม่​อย่างไร​ ​จนกระทั่งเจอเงาสีดำ​ที่​อยู่​เหนือต้นไม้​ ​และ​หลังคาบ้านของเพื่อนบ้าน​ ​ขณะ​นั้น​ก็​เกิด​ความ​กลัวเหมือน​กัน​ ​ว่าสิ่งที่​เห็น​เป็น​เปรต​ ​หรือ​ไม่​อย่างไร

จาก​นั้น​ได้​ตั้งสติ​ ​ก่อนที่​จะ​หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูป​ไว้​ ​จำ​นวน​ 3 ​ภาพ​ ​จาก​นั้น​ ​เงาสีดำ​ ​ที่ดู​ได้​อย่างชัดเจน​ ​เพราะ​มี​แสงของพระจันทร์ที่ส่องสว่าง​ให้​เห็นเด่นชัดว่ามีศีรษะ​ ​เป็น​ตัว​ ​และ​ต้นขา​ ​ก่อน​จะ​เคลื่อนตัวไปอย่างช้า​ ​ๆ​ ​โดย​มุ่งไปทางวัดไร่ข่วงเปา​แล้ว​ก็หายไป​ ​หลัง​ได้​ถ่ายรูปเปรต​ ​ก็​เกิด​ความ​กลัว​ ​ได้​นอนทันที​ ​จนกระทั่ง​ใน​รุ่ง​เช้า​ ​จึง​ได้​นำ​ภาพ​และ​รายละ​เอียดมา​เล่า​ให้​พี่ชาย​ ​และ​แม่ของตนเองทราบ​ ​ก่อน​จะ​นำ​ภาพลง​ไว้​ใน​คอมพิวเตอร์​ ​พอชาวบ้านทราบเรื่อง​ ​จน​เป็น​กระ​แสข่าวแพร่สะพัดออกไป  

ส่วน​ชาวบ้าน​ใน​หมู่บ้าน​ได้​จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ทุกวัน​ถึง​การพบเปรต​ ​และ​สามารถ​ถ่ายรูป​ได้​ ​โดย​มีบางคนที่มี​ความ​เชื่อ​ใน​เรื่องนี้​ ​ได้​นำ​ภาพไปสอบถาม​กับ​ร่างทรง​ใน​หมู่บ้าน​อื่น​ ​จึง​ทำ​ให้​ทราบมาว่า
บริ​เวณบ้านที่​อยู่​ใกล้​วัด​นั้น​ ​มี​ผู้​ที่​เสียชีวิตไป​แล้ว​ ​แต่​ไม่​ได้​ไปผุดไปเกิด​ ​ประกอบ​กับ​ลูกหลาน​ไม่​ได้​ทำ​บุญอุทิศ​ส่วน​กุศลไป​ให้​ ​จึง​ได้​ออกมา​แสดงตน​ให้​ชาวบ้าน​ได้​เห็น โดย​ที่ผ่านมา​ ​ร่างทรง​ยัง​ได้​บอกอีกว่า​เปรตตัวนี้​ได้​ออกมา​ใน​ลักษณะนี้​แล้ว​หลายครั้ง​ ​เพื่อ​ให้​ชาวบ้าน​ได้​เห็น​ ​ซึ่ง​ได้​แสดงตัวออกมา​แล้ว​ถึง​ 3 ​ครั้ง​ ​จน​ใน​ครั้งที่​ 4 ​จึง​มี​ผู้​พบเห็น​ ​ประกอบ​กับ​ใน​วันดังกล่าว​เป็น​วัดทำ​บุญ​ใหญ่​ ​ทานเปรตพลี​ ​จึง​ได้​ออกมา​แสดงตน​ ​เพื่อที่​จะ​ไปรับ​ส่วน​กุศลที่​จะ​มี​ผู้​ทำ​บุญไป​ถึง​ ​จาก​เรื่องราวดังกล่าว​ ​ที่ร่างทรง​ได้​บอกมา​ ​ยิ่งทำ​ให้​ชาวบ้านเกิด​ความ​เชื่ออย่างมาก
 
 
ที่มา- 
 
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง