พระสงฆ์ ถือเป็นบุคคลที่ปฎิบัติหน้าที่สืบทอดพระพุทธศาสนา และเป็นที่ทราบกันดีว่าพระพุทธศาสนาถือเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ให้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งในวงการพระพุทธศาสนาก็ได้ยกย่องให้พระเดชพระคุณพระธรรมกิตติวงศ์ เป็นพระมหาเถระผู้ประกอบด้วยศีลาจารวัตรอันงดงาม มีปัญญาอันบริสุทธิ์  และเป็นผู้ทรงความรู้ความสามารถ เป็นทั้งนักบริหาร นักการศึกษา และนักเผยแผ่ ซึ่งบทบาทหน้าที่ก็ เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับในสังฆมณฑลและสังคมทั่วไป

 

พระเดชพระคุณพระธรรมกิตติวงศ์ มีนามเดิมว่า ทองดี นามสกุล สุรเดช เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2489 ที่อำเภอพรานกระต่ายจังหวัดกำแพงเพชร ตลอดระยะเวลาที่รับใช้งานเพื่อพระพุทธศาสนาก็ได้อุทิศตน เสียสละเพื่อพระพุทธศาสนาและส่วนรวมมาโดยตลอด ในฐานะนักบริหาร นักปกครอง พระเดชพระคุณพระธรรมกิตติวงศ์ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม บริหารวัดให้มีความเจริญรุ่งเรือง และปกครองดูแลพระสงฆ์ สามเณร ด้วยหลักสามัคคีธรรม เป็นพระอุปัชฌาย์สั่งสอนกุลบุตรให้มีความรู้ มีศรัทรามั่นคงในพระพุทธศาสนา

 
                    

ในฐานะนักการศึกษา นักวิชาการ พระเดชพระคุณพระธรรมกิตติวงศ์ สำเร็จเปรียญธรรม 9 ประโยค และศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตนเอง จนมีความเชี่ยวชาญในภาษาบาลีและศาสตร์อื่น ๆ จึงได้รับแต่งตั้งเป็น ราชบัณฑิต ซึ่งถือเป็นราชบัณฑิตรูปที่ 2 ของกรุงรัตนโกสินทร์ที่มีผลงานทางวิชาการที่พิมพ์เผยแพร่มากมาย อาทิ พระในบ้าน คำวัด ประกายความคิด  นอกจากนี้ท่านยังได้อนุญาตให้นำศัพท์เกี่ยวกับพุทธศาสนา และคำที่ใช้กับพระและวัดในหนังสือ "คำวัด" มาเผยแพร่ในอภิธานศัพท์พุทธศาสนาในวิกิพีเดียอีกด้วย และท่านยังเป็นอาจารย์สอนวิชาแต่งไทยเป็นมคธชั้นประโยคเปรียญธรรม 9 จนมีลูกศิษย์เป็นจำนวนมาก

 
 
                   

ในฐานะนักเผยแผ่ พระเดชพระคุณพระธรรมกิตติวงศ์ เป็นพระนักเทศน์ นักบรรยายธรรม ที่เชี่ยวชาญ จนเป็นที่ยอมรับของคณะสงฆ์ หน่วยราชการ สถานการศึกษา และสาธุชนทั่วไป   ด้วยอัจฉริยะภาพของผู้เป็นยอดนักการศึกษา รอบรู้แตกฉานในพระพุทธศาสนา ผู้มีหัวใจแห่งความเป็นครู นักเทศน์สอน ได้รับยกย่องเป็นราชบัณฑิต เกียรติคุณของท่านเป็นที่ยอมรับขจรไกลทั้งความสามารถในการปกครองด้วยความเสียสละ กว่า 40 พรรษา พระเดชพระคุณท่านสนองงานรับใช้พระพุทธศาสนา และการคณะสงฆ์ด้วยสามารถ กอปรด้วยขันติธรรม เป็นแบบอย่างพระมหาเถระผู้เปี่ยมด้วยภูมิรู้และภูมิธรรม ผู้เปรียบประดุจปราชญ์แห่งแผ่นดิน เป็นที่ตั้งแห่งความเคารพศรัทธาแห่งพุทธศานิกชน และศิษยานุศิษย์ เนื่องในวาระเจริญแห่งอายุ 63 ปี ในปีพุทธศักราช 2552 เป็นศุภมงคลเหล่าศิษยานุศิษย์รวมใจบำเพ็ญบุญ น้อมถวายเพื่อแสดงมุทิตาสักการะด้วยความเคารพยิ่ง แด่พระเดชพระคุณพระธรรมกิตติวงศ์ ให้ท่านมีอายุยืนยาวนาน เป็นที่พึ่งแห่งศิษยานุศิษย์สืบไป.

 
 
ที่มา  DMC  NEWS
ปิดการแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง