ตักบาตรฉลองพระใหม่
มุกดาหาร อุตรดิตถ์ และ อุบลราชธานี
โครงการอุปสมบทหมู่หนึ่งแสนรูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย
 
    หลังเสร็จสิ้นการอุปสมบทในโครงการบวชพระหนึ่งแสนรูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองและญาติโยมต่างก็ได้ชื่นใจกันถ้วนหน้า กับการตักบาตรฉลองพระใหม่ที่จัดขึ้นในทุกพื้นที่
 
 
    ณ ริมฝั่งโขง จังหวัดมุกดาหาร ได้จัดตักบาตรฉลองพระใหม่สามแผ่นดิน(ไทย-ลาว-เวียดนาม)ขึ้นในวันตรุษจีนที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 มีคณะญาติผู้ปกครองแต่งกายด้วยชุดประจำชาติแบบตระการตา ดุจเทพธิดามาร่วมใส่บาตรด้วย พี่น้องชาวลาวต่างเบิกบานในบุญเป็นอย่างมาก รีบข้ามแดนมาค้างคืนที่ฝั่งไทย เพื่อมาให้ทันพิธีตักบาตรครั้งประวัติศาสตร์ของชาวมุกดาหาร ที่ฉลองพระบวชใหม่กันแบบจุใจถึง 250รูป
 
 
    มิหนำซ้ำผู้บวชยังมาจากสามแผ่นดิน คือ ไทย ลาว เวียดนาม ซึ่งปกติที่เมืองนี้ พระบวชใหม่เวลาฉลองก็มีแค่องค์สององค์เท่านั้น จึงสร้างความปีติใจให้คนทั้งเมืองกันทั่วหน้า บรรยากาศในวันนี้ต้องบอกว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่งจริงๆ เพราะเป็นภาพแห่งการทำความดีของคนทั้งสามแผ่นดิน และสั่งสมบุญใหญ่อยู่ ณ ริมฝั่งโขง แม่น้ำที่สืบทอดเรื่องราวพระพุทธศาสนากับพญานาคจากอดีตสู่ปัจจุบัน
 
 
    ในงานนี้ ทั้งฝ่ายคณะสงฆ์และฝ่ายปกครองต่างก็มากันพร้อมเพรียง ดร.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีฝ่ายฆราวาส หลังเสร็จพิธี ท่านกล่าวขอบคุณทีมงานที่ทำให้งานบุญนี้สำเร็จอย่างงดงาม ทำให้ชาวมุกดาหารภาคภูมิใจในบุญนี้มาก โครงการบวชแสนรูปที่มีทีมงานมาร่วมกันทำ ได้ทำให้กระแสศีลธรรมของมุกดาหารกลับเฟื่องฟูขึ้นมาอีกครั้งอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อท่านทราบข่าวเรื่องการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน 100,000คน ท่านก็ยิ่งทวีความปีติใจ และพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่
 
    ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ บรรยากาศการตักบาตรฉลองพระใหม่ที่จัดขึ้นในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 ทำให้ภาพความงดงามตามประเพณีพื้นบ้านหวนปรากฏแก่สายตาชาวบ้านอีกครั้ง ด้วยการจัดตักบาตรข้าวหลามเป็นสลากภัต ณ วัดกลาง อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่วัดกลางนี้จะจัดตักบาตรข้าวหลามเป็นสลากภัตเป็นประจำทุกปี แต่ละปีต้องนิมนต์พระจากวัดต่างๆให้ได้เป็นร้อยรูป เพื่อให้มีพระจำนวนมากพอที่ญาติโยมจะทำบุญ แต่การตักบาตรเพื่อรักษาประเพณีพื้นบ้านในปีนี้มีความพิเศษ เพราะได้เนื้อนาบุญที่ล้วนแต่เป็นลูกเป็นหลานของชาวบ้านในพื้นที่ที่มาบวชในโครงการบวชพระหนึ่งแสนรูปในครั้งนี้ถึง 110รูป ทำให้ไม่ต้องไปนิมนต์พระจากที่อื่นเลย
 
 
    พิธีตักบาตรเริ่มขึ้น ในเวลาประมาณ 8.00น.ทางวัดได้นำบาตรมาวางเรียงกันไว้เป็นแถว ให้ญาติโยมที่มาวัดมานั่งรออยู่หน้าบาตรนั้น จากนั้นพระภิกษุจึงได้เดินแปรแถวออกมายืนที่บาตร พระภิกษุอยู่หน้าโยมคนใดโยมคนนั้นก็จะได้ถวายทานกับพระภิกษุรูปนั้น จัดเป็นการถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานและถวายเป็นสลากภัตประเภทหนึ่ง
 
 
    บรรยากาศการตักบาตรข้าวหลามในวันนี้ แตกต่างจากทุกๆปี เพราะในวันนี้ พระธรรมทายาทหลายๆรูปเคยเป็นสาธุชนที่มาร่วมใส่บาตร ตอนนี้ได้กลายมาเป็นพระภิกษุผู้ปฏิบัติดี เป็นเนื้อนาบุญให้กับญาติโยม ญาติโยมที่มาร่วมทำบุญตักบาตรถวายสังฆทานในวันนี้ต่างก็มีความสุข อิ่มบุญพร้อมอิ่มใจไปด้วยที่ได้เห็นพระภิกษุที่เคยเป็นลูกเป็นหลานได้มาบวชเป็นพุทธบุตร ตนจึงได้ชื่อว่าเป็นญาติของพระศาสนาที่แท้จริง
 
    ที่จังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดพิธีตักบาตรฉลองพระใหม่ขึ้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 โดยมีพระธรรมทายาทจากศูนย์อบรมจังหวัดอุบลราชธานีสี่ศูนย์ คือ วัดเวตวันวิทยาราม วัดศิริสารคุณ วัดบ้านบุเปือย วัดบ้านนาห่อม พร้อมทั้งคณะสงฆ์อำเภอเดชอุดมและอำเภอใกล้เคียง มาร่วมเป็นเนื้อนาบุญกว่า 500รูป
 
 
    งานวันนี้ ได้รับความเมตตาจากพระครูเวตวันวรกิจ เจ้าอาวาสวัดเวตวันวิทยาราม รองเจ้าคณะอำเภอเดชอุดม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายไชยวัตน์ พรรณารา นายอำเภอเดชอุดม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส มีสาธุชนมาร่วมตักบาตรหลายพันคน ทุกคนที่มาร่วมงานต่างปลื้มปีติใจ ประทับใจ อยากให้มีการจัดตักบาตรแบบนี้อีก เพราะมีความศักดิ์สิทธิ์และงดงามมาก
 
 
    พระวันชัย โอภาโส พระกัลยาณมิตรหนึ่งในพระพี่เลี้ยงจากวัดเวตวันวิทยาราม กล่าวด้วยความปลื้มใจว่า “วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักของชาวโลก แต่กระผมมีความรักที่เป็นสากล คือ รักในพระพุทธศาสนา วันนี้เป็นวันที่กระผมมีความปลื้มปีติเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อก่อนเป็นเพียงผู้มาร่วมรับบาตร แต่งานนี้กระผมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในการจัดตักบาตรครั้งนี้ด้วย โดยรับบุญเตรียมสถานที่ ได้เห็นระบบระเบียบวิธีการจัดการที่ยอดเยี่ยม แม้ต้องเตรียมงานแทบไม่ได้หลับได้นอน ก็ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย
 
    ยิ่งเห็นภาพวันงานที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ภาพพระจำนวนมากมารอรับบิณฑบาต สาธุชนผู้ใจบุญมาร่วมใส่บาตรหลายพันคน ทำให้กระผมปลื้มจนน้ำตาไหล ไม่เหนื่อยไม่หิวเลยครับ และตอนที่แปรแถวบิณฑบาต ได้เห็นพระธรรมทายาทที่กระผมดูแล กำลังทำหน้าที่พุทธบุตรภายใต้ผ้ากาสาวพัสตร์ดูงดงามสว่างไสว กระผมเดินบิณฑบาตอยู่ท้ายสุดเพื่อดูแลความเรียบร้อย ทำให้กระผม บันทึกภาพที่ดีที่สุดไว้ในใจของกระผมแล้ว
 
 
    กระผมขอกราบแทบเท้าขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ ที่ให้โอกาสกระผมมาทำหน้าที่ตอกย้ำสมณสัญญา และจะรักษาผ้าชุดสุดท้ายไปตลอดชีวิตครับ”
ปิดการแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง