กทม.เริ่มกฎเหล็กกับสถานบริการ
โรงเรียนกวดวิชา หากไม่ร่วมมือป้องกันอัคคีภัย เริ่มตรวจสอบสถานบริการ
โรงเรียนกวดวิชาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ลั่นหากดื้อดึงเจอทั้งจำทั้งปรับ
นายวัลลภ สุวรรณดี
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า
กทม.มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
โดยเฉพาะผู้ใช้บริการในสถานบริการต่างๆ
เนื่องจากมักปรากฏเหตุการณ์เพลิงไหม้บ่อยครั้ง ทั้งนี้ นายอภิรักษ์
โกษะโยธินผู้ว่าฯกทม.ได้มีนโยบายให้ทุกสำนักงานเขตดำเนินการสำรวจสถานบริการ
และโรงเรียนกวดวิชา ในพื้นที่ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522
และพระราชบัญญัติป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ.2542
ทั้งนี้ หากพบว่า
สถานบริการใดไม่มีระบบการป้องกันอัคคีภัยที่ถูกต้อง
ทางเขตจะเข้าไปให้คำแนะนำเพื่อดำเนินการปรับปรุง
โดยให้เวลาแก้ไขตั้งแต่มิถุนายน – ตุลาคม 2549 ที่ผ่านมา
ซึ่งขณะนี้ถึงเวลาที่ กทม.โดยสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.)
และสำนักงานเขต จะเข้าตรวจสอบสถานบริการเหล่านั้นอีกครั้ง ว่า
ได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามที่ได้รับคำแนะนำหรือไม่
ซึ่งหากตรวจพบว่าสถานบริการ
และโรงเรียนกวดวิชาใดไม่ดำเนินการแก้ไขตามที่เขตให้คำแนะนำ
จะดำเนินคดีกับเจ้าของสถานประกอบการที่เจตนาฝ่าฝืน โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1
ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“เรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการ
หรือเจ้าของสถานบริการต้องให้ความสำคัญ และใส่ใจ
ด้วยการเตรียมการป้องกันอัคคีภัย
เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ขึ้นจะไม่คุ้มค่ากับการที่ต้องสูญเสียทรัพย์สินและชีวิต
และหากทำให้ผู้ใช้บริการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจะต้องถูกดำเนินคดีทางแพ่ง
และอาญาด้วย
ซึ่งสถานบันเทิง และโรงเรียนกวดวิชา
เป็นสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีเด็ก เยาวชน
และผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ”
นายวัลลภ กล่าวด้วยว่า กทม.จะเริ่มเข้าตรวจสอบซ้ำในสถานบริการต่างๆ
ทั่วพื้นที่ 50 เขตตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522
และพระราชบัญญัติป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ.2542
รวมทั้งกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดยมาตรการสำคัญที่ กทม. จะตรวจสอบ เช่น
มีบันไดหลักที่เพียงพอ มีทางออกสู่บันไดหนีไฟที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง
มีบันไดหลักที่ใช้อพยพผู้คนเมื่อเกิดเหตุ มีเครื่องดับเพลิงที่เพียงพอ
มีสัญญาณเตือนภัยและแผนการอพยพที่ชัดเจนและมีการซักซ้อมหนีไฟอย่างสม่ำเสมอ
รวมทั้งต้องไม่มีครัวไฟหรือการประกอบอาหารในอาคารตึกแถวที่ใช้ประกอบกิจการ
เป็นโรงเรียนกวดวิชาด้วย

ที่มา-
