ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 170
เมื่อทหารเหล่านั้น นำเสด็จกษัตริย์ทั้งสี่พระองค์มาถึงเชิงบันได ก็ช่วยกันเปิดปากประตูอุโมงค์ แล้วทูลเชิญให้เสด็จพระดำเนินไปตามเส้นทางนั้น เมื่อเสด็จเข้าไปสู่ภายในอุโมงค์แล้ว พระนางทอดพระเนตรเห็นทางลับนั้น ก็ทรงมีพระทัยพิศวงยิ่งนัก ถึงกับทรงปรารภขึ้นว่า “เอ...ชอบกลอยู่นะ เราอยู่ที่นี่มานาน ตั้งแต่เกิดมาจนแก่ปูนนี้ ก็ยังไม่เคยลงมาตามทางนี้เลย”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 162
มโหสถจึงได้เริ่มดำเนินการตามแผนของตนทันที ลำดับนั้น มโหสถได้เรียกพวกช่างไม้ซึ่งเป็นคนของตนมาช่วยกันรื้อบันไดเก่าออก แล้วให้ปูลาดแผ่นกระดานใหญ่ตรงบริเวณที่กำหนดจะให้เป็นปากอุโมงค์ ครั้นตรึงกระดานนั้นจนแน่นหนาดีแล้ว ก็ให้พาดบันไดตามเดิม แต่ให้ก่ออิฐโบกปูนจนแน่นหนา กระทั่งมั่นใจได้ว่าแข็งแรงทนทาน และไม่มีทางพังทลายลงมาง่ายๆ
มงคลที่ ๓๒ ประพฤติพรหมจรรย์ - อบรมตนมุ่งสู่ทางสวรรค์
ผู้คนมากมายซึ่งต่างไม่ปรารถนาจะให้พระราชาออกผนวช พากันยื่นข้อเสนอมากมาย แต่พระองค์ไม่ได้ทรงยินดีกับสิ่งเหล่านั้น ยังคงมีพระทัยมุ่งมั่นที่จะเสด็จออกบรรพชาให้ได้ พระองค์ทรงแสดงธรรมให้เข้าใจว่า "ชีวิตนี้ถูกชรานำเข้าไป เป็นของน้อยนิด ดุจน้ำที่อยู่ในโคลน เมื่อชีวิตเป็นของน้อยเหลือเกินเช่นนี้ เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะประมาท
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 150
ครั้นแล้ว พระเจ้าวิเทหราชจึงทรงตวาดมโหสถว่า “มโหสถ ทำไมเจ้าจึงกล้าพูดกับเราได้ถึงเพียงนี้ ดูสิ...ใครๆเมื่อรู้ว่าพระเจ้าจุลนีจักทรงประทานพระราชธิดาให้เรา ต่างก็พากันพูดถึงแต่สิ่งที่เจริญเป็นมงคลแก่เรา แต่เจ้ากลับทำลายมงคลของเราเสีย เจ้านี่ช่างไม่รู้จักอะไรเสียเลย”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 149
พระเจ้าวิเทหราชทรงสดับคำตอบของอาจารย์เสนกะ ก็ทรงดีพระทัยยิ่งนัก ท้าวเธอจึงลองตรัสถามอาจารย์ที่เหลือตามลำดับ ครั้นแล้วก็ทรงได้รับคำตอบในทำนองเดียวกันทั้งสิ้น ไม่มีผู้ใดกราบทูลทัดทานเลย เมื่อเป็นดังนี้ ท้าวเธอก็ทรงคลายความระแวงพระทัย และทรงปักพระทัยมั่นที่จะเสด็จไปปัญจาลนครตามคำทูลเชิญของพระเจ้าจุลนี
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 147
พราหมณ์เกวัฏจึงได้เหยียบย่างเข้าสู่มิถิลานคร ได้เห็นหนทางที่ประดับตกแต่งไว้ดีแล้ว จึงคิดว่า พระเจ้าวิเทหราชคงรับสั่งให้เตรียมการต้อนรับคณะของตนเป็นพิเศษ คิดแล้วก็ยิ่งบังเกิดความปีติยินดีว่า “โอ...นี่พระเจ้าวิเทหราชทรงให้เกียรติเราถึงเพียงนี้เชียวหรือ พระองค์เป็นถึงจอมราชาในชมพูทวีป แต่บัดนี้กลับกลายเป็นผู้ที่น่าสงสารที่สุด หลุมพรางตื้นๆเพียงเท่านี้ พระองค์ยังพลาดท่าตกลงไปได้ ทีนี้ล่ะ...ถึงคราวเราบ้าง จะแก้แค้นให้สาแก่ใจทีเดียว”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 146
ฝ่ายมโหสถบัณฑิตทราบข่าวนั้นแล้ว ก็เริ่มวิตกถึงการมาของพราหมณ์เกวัฏ เพราะยังไม่รู้แน่ว่า เบื้องหลังการมาของพราหมณ์เกวัฏ จะมาด้วยมีวัตถุประสงค์อื่นใดเคลือบแฝงอยู่หรือไม่ ดังนั้นเพื่อต้องการรู้ความจริง มโหสถจึงได้รีบส่งข่าวไปยังสหายผู้ที่แฝงตัวอยู่ในราชสำนักของพระเจ้าจุลนี เพื่อสอบถามถึงเหตุที่มานั้น
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 144
ตั้งแต่นั้นมา ในยามค่ำคืนดึกสงัด เสียงขับลำนำขับขานยกยอพระสิริโฉมของพระราชธิดาปัญจาลจันที ก็ดังกังวานแว่วมาจากต้นไม้ใหญ่ในพระนคร ครั้นใกล้รุ่งก็ปรากฏคล้ายเสียงกังสดาลดังก้องไปในอากาศ แล้วเสียงนั้นก็ค่อยๆหายเงียบไป ชาวปัญจาลนครทั้งหลาย เมื่อได้ยินเสียงเพลงขับเลื่อนลอยมาแต่ไกลในยามราตรี ไพเราะเสนาะจับจิตจับใจยิ่งนัก ก็พากันพิศวง งงงวยไปตามๆกัน และครั้นรุ่งสางก็ยังได้ยินเสียงกังสดาลดังกังวานแว่วอีก
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 143
พระเจ้าจุลนีทรงสดับถ้อยแถลง อันยืดยาวของพราหมณ์เกวัฏ อย่างสนพระทัย และดูเหมือนว่าจะทรงเห็นคล้อยตามอุบายของเกวัฏไปเสียทุกอย่าง ทั้งนี้เพราะความแค้นนั้นยังปรากฏอยู่ในพระหทัยมิรู้หาย ดังนั้นถ้าจะมีช่องทางใดที่จะทรงแก้แค้นได้ พระองค์ก็ย่อมจะเห็นด้วยเป็นธรรมดา
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 142
ยามใด ที่พราหมณ์เกวัฏส่องดูใบหน้าของตนบนกระจก มองเห็นรอยแผลเป็นที่หน้าผากทีไร ก็ให้เป็นเดือดเป็นแค้น จนไม่อาจที่จะสกัดกลั้นเพลิงโทสะที่เดือดพล่านอยู่ภายในใจได้ ถึงกับขบกรามแน่น แล้วเปล่งเสียงคำรามออกมาดังๆ ด้วยแรงแค้นแรงอาฆาตที่สุมแน่นอยู่เต็มหัวอก