ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 151
ครั้นแล้ว มโหสถก็คิดหาอุบายได้อย่างหนึ่ง จึงได้เรียกสุวโปดกมา เพื่อมอบหมายภารกิจครั้งสำคัญ “มาถูระ เจ้าผู้มีปีกเขียวขจี มานี่เถิดลูกรัก” เจ้าสุวโปดกได้ยินเสียงร้องเรียกของมโหสถ ก็ดีอกดีใจ รีบบินร่อนออกจากกรงทอง ลงมาเกาะอยู่ที่คอน พลางส่งเสียงร้องทักทายด้วยภาษามนุษย์ว่า “นายของบ่าว นายผู้เป็นที่รักยิ่งของบ่าว มีสิ่งใดให้บ่าวรับใช้หรือขอรับ”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 150
ครั้นแล้ว พระเจ้าวิเทหราชจึงทรงตวาดมโหสถว่า “มโหสถ ทำไมเจ้าจึงกล้าพูดกับเราได้ถึงเพียงนี้ ดูสิ...ใครๆเมื่อรู้ว่าพระเจ้าจุลนีจักทรงประทานพระราชธิดาให้เรา ต่างก็พากันพูดถึงแต่สิ่งที่เจริญเป็นมงคลแก่เรา แต่เจ้ากลับทำลายมงคลของเราเสีย เจ้านี่ช่างไม่รู้จักอะไรเสียเลย”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 128
จากตอนที่แล้ว สนามธรรมยุทธ์ที่เป็นปริมณฑลกว้างขวาง บัดนี้กลับดูคับแคบลงถนัดใจ ทั้งพระราชาแคว้นต่างๆ หมู่อำมาตย์แม่ทัพนายกอง ตลอดจนไพร่พลฝ่ายปัญจาลนคร เบียดเสียดเนืองแน่นกันทั่วบริเวณ สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมองดูต้นทาง ใจจดจ่อรอคอยการมาของมโหสถบัณฑิตอยู่ไม่เว้นวาง ทุกคนต่างก็เพ่งมองไปทางทิศตะวันออก ซึ่งแสงแดดก็ยิ่งสาดส่องกล้าขึ้นตามลำดับ ต่างก็ปะทะแสงแดดเต็มหน้าด้วยกันทั้งสิ้น
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 127
ชาวเมืองมิถิลานครต่างก็มายืนอำนวยอวยชัย ส่งขบวนของมโหสถบัณฑิตตลอดทางตั้งแต่ประตูราชวังจนถึงประตูพระนคร ขวัญกำลังใจจากกองเชียร์ เป็นสิ่งสำคัญที่สร้างความมั่นใจยิ่งขึ้นให้กับผู้นำ เป็นเสมือนยาชูกำลังที่จะมีเรี่ยวแรงทำภารกิจหน้าที่ต่างๆ ให้สำเร็จได้เป็นอัศจรรย์
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 126
จากตอนที่แล้ว พราหมณ์เกวัฏได้กราบทูลอุบายของตนแด่พระเจ้าจุลนีว่า “ขอเดชะ เลศที่จะกระทำนี้เรียกว่า ธรรมยุทธ์ คือ การรบที่ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเลย เพียงให้ราชบัณฑิตของพระราชาทั้งสองพระนครได้มาพบกัน ณ สถานที่แห่งใดแห่งหนึ่ง แต่มีเงื่อนอยู่ว่า ในบัณฑิตทั้งสองนั้น หากผู้ใดไหว้ก่อน ผู้นั้นก็ถือว่าเป็นผู้แพ้ และความแพ้ของผู้นั้นก็ถือเป็นความพ่ายแพ้ของกองทัพฝ่ายนั้นด้วย พระพุทธเจ้าข้า”
มงคลที่ ๒๗ มีความอดทน - อดทนให้ถึงที่สุด
พระกุมารทรงระลึกชาติหนหลัง ก็รู้ว่าก่อนที่ตนจะมาเกิดในพระราชฐานนี้ ได้จุติมาจากเทวโลก และทรงระลึกย้อนไปอีกว่า ก่อนที่จะอยู่ในเทวโลก ได้มาจากมหานรกขุมหนึ่ง และก่อนที่จะตกนรก ได้ เคยเกิดเป็นพระราชาอยู่ในแคว้นนี้เอง จึงทรงดำริว่า ถ้าเราครองราชสมบัติอีก ก็จะต้องสร้างกรรม และต้องเสวยทุกข์ใหญ่ในมหานรกอีกอย่างแน่นอน
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 109
มโหสถบัณฑิตก็ยังมิได้นิ่งนอนใจ ดำริอยู่ในใจว่า “ฐานะ ของเราในยามนี้เท่ากับเป็นผู้พิทักษ์พระเศวตฉัตรของพระราชา ฉะนั้นเราจะมัวเมาประมาทอยู่มิได้เลย ควรจะเร่งทำนุบำรุงแว่นแคว้นให้มั่นคงเป็นปึกแผ่น เพื่อให้วิเทหรัฐทวีความยิ่งใหญ่เกรียงไกรอย่างที่ไม่มีแว่นแคว้นใดเสมอ เหมือน”
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 108
พระเจ้าวิเทหราชทรงสดับถ้อยแถลง ของมโหสถแล้ว ก็ทรงเข้าใจแจ่มแจ้ง และทรงเห็นชัดว่า มโหสถบัณฑิตเป็นผู้บริสุทธิ์ ปราศจากมลทิน แต่ผู้ผิดกลับเป็นอาจารย์ทั้ง ๔ เสียเอง จึงทรงสั่งลงอาญาให้คุมตัวอาจารย์ทั้ง ๔ ออกจากเรือนจำ แล้วนำตัวไปตัดหัวเสีย
มงคลที่ ๒๕ มีความกตัญญู - บุญคุณต้องทดแทน
พระกุมารคิดว่า ถ้าเราได้เป็นกษัตริย์แล้ว จะฆ่าพระฤๅษีองค์นี้ให้ได้ จึง กล่าวว่า พระคุณเจ้าผู้เจริญ เมื่อกระผมได้ครองราชสมบัติแล้ว ขอให้ท่านไปหากระผม กระผมจะบำรุงอุปัฏฐากรับใช้ท่านอย่างไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลย แล้วก็ลากลับเมือง เมื่อพระกุมารกลับเข้าพระนครไม่นาน ก็ทรง ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระราชบิดา
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 107
มโหสถบัณฑิตกราบทูลว่า “จะเปิดเผยก็ได้พระพุทธเจ้าข้า แต่ต้องเลือกบุคคลที่จะเปิดเผยให้ถ่องแท้ หากว่าุบุคคลนั้น เป็นสตรีผู้มีใจคอไม่หนักแน่น ๑ เป็นผู้ที่ไม่ใช่มิตร ๑ เป็นผู้ฝักใฝ่ในอามิส คือมีความโลภในทรัพย์ ๑ เป็นผู้ที่มิใช่มิตรแต่ทำทีว่าเป็นมิตรด้วยแฝงความต้องการบางอย่าง ๑ บุคคลเหล่านี้ บัณฑิตต้องเว้นเสียเด็ดขาด ไม่ควรจะวางใจเลย