ปรนิมมิตวสวัตดี ตอน สิริมาเทพนารี ๑
ดูก่อนสารีบุตร ในการให้ทานนั้น บุคคลไม่มีความหวังให้ทาน ไม่มีจิตใจผูกพันในผลแห่งทานแล้วให้ทาน ไม่มุ่งการสั่งสมให้ทาน อีกทั้งไม่ได้ให้ทานด้วยความคิดว่า “เราจักเป็นผู้จำแนกแจกทาน เช่นเดียวกับบัณฑิตนักปราชญ์ในกาลก่อนทั้งหลาย แต่ให้ทานด้วยคิดว่า เมื่อเราให้ทานอย่างนี้แล้ว จิตจะเลื่อมใส เกิดความปลื้มใจและปีติโสมนัส เขาให้ทานคือ ข้าวและนํ้าเป็นต้นแล้ว ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตดี
อานิสงส์โปรยกลีบกุหลาบ (ภาคพิเศษ) ตอนที่ 13
ในขณะที่เรืออับปางและกำลังจะจมลงสู่มหาสมุทรในอีกไม่กี่นาทีนั้นสังขะพราหมณ์พระโพธิสัตว์กับบริวารคนสนิทก็ได้เตรียมตัวก่อนที่จะกระโดดลงสู่มหาสมุทรด้วยการเอาน้ำมันมาทาตัว
เปรตฝากมาบอกให้ทำบุญ
กุลบุตรเมื่อหวนระลึกถึงว่า คนโน้นเคยให้ทรัพย์หรือให้อาหารแก่เรา คนโน้นได้พยายามทำกิจอย่างนี้แก่เรา คนโน้นชื่อว่าเป็นญาติ เพราะเกี่ยวพันกันทางฝ่ายมารดาหรือบิดาของเรา คนโน้นชื่อว่าเป็นมิตร เพราะเคยคบหากันด้วยอำนาจความสิเน่หา คนโน้นชื่อว่าเป็นสหายเพื่อนเล่นฝุ่นด้วยกันของเรา จึงพึงให้ทักษิณา คือพึงทำทานอุทิศส่วนกุศลไปให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วเหล่านั้น
โทษของความประมาท
บุคคลใดประมาทในกาลก่อน แล้วกลับมาไม่ประมาทในภายหลัง เขาย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง กระจ่างดังพระจันทร์เฉิดฉายในนภากาศ
โทษของการเห็นผิด
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราไม่พิจารณาเห็นธรรมสักอย่างหนึ่ง ที่มีโทษมากเหมือนอย่างมิจฉาทิฎฐิเลย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษทั้งหลายมีมิจฉาทิฎฐิเป็นอย่างยิ่ง
ขัลลฏิยชาดกว่าด้วยความหลงผิดลุ่มหลงในอบายมุข
ขัลลฏิยชาดก เป็นเรื่องความหลงผิดของสตรีนางหนึ่ง ซึ่งนางหลงประกอบมิจฉาชีพและทำจนคุ้นชิน ความสำนึกในบาปบุญคุณโทษก็หมดสิ้นไป เมื่อได้มาในสิ่งที่ต้องการ ก็ยิ่งหลงทำผิด ทำบาปเพิ่มมากยิ่งขึ้น จนเป็นเหตให้นางไปเกิดเป็นนางเวมานิกเปรต
อานิสงส์ถวายอาหารบิณฑบาต
ด้วยกุศลกรรมที่ทำไว้นั้น ได้ไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ได้เป็นมเหสีของจอมเทพ ๑,๐๐๐ องค์ เมื่อกลับลงมาเกิด ก็ได้เป็นมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิถึง ๑,๐๐๐ ชาติ ต่อจากนั้นก็ได้เกิดเป็นมเหสีของพระราชาประเทศราช นับภพนับชาติไม่ถ้วน โดยพระนางไม่รู้จักทุคติเลย นี้ก็เป็นบุญพิเศษที่เกิดจากการถวายบิณฑบาตทุกวัน
มุทุลักขณชาดก-ชาดกว่าด้วยกามกิเลสคือต้นเหตุแห่งความเศร้าหมอง
สมัยพุทธกาลผ่านมาพระเชตะวันมหาวิหารของพระบรมศาสดาร่มเย็นเป็นที่พึ่งพาของเวไนยสัตว์อย่างทั่วถึง ดุจแสงจันทร์วันเพ็ญอันสว่างนวลทั่วปริมณฑล แต่จันทร์กระจ่างฟ้าก็หาทำความรื่นรมย์ได้ทั่วทุกคนไม่ ยังมีภิกษุหนุ่มชาวสาวัตถีรูปหนึ่งกำลังกลัดกลุ้มอยู่กับความทุกข์ภายใต้แสงจันทร์นวลทุกราตรี
ความงามอันจอมปลอม
ความงดงามของร่างกายเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนปรารถนา เพราะนอกจากตนเองจะเกิดความพึงพอใจแล้ว ยังเป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้ได้พบเห็นอีกด้วย
มหาโควินทสูตรตอนที่ ๗ (ออกบวช)
บุคคลผู้ปีติในธรรม เมื่อดื่มรสอันเกิดแต่วิเวก และรสแห่งความสงบแล้ว ย่อมไม่มีความกระวนกระวาย ไม่มีบาป
ชัยชนะครั้งที่ ๕ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอน ชนะการถูกกล่าวหาจากนางจิญจมาณวิกา)
พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ เป็นอานุภาพที่ไม่มีประมาณ เพราะเป็นอจินไตยอยู่เหนือวิสัยของผู้ที่ใจยังไม่หยุด จะเข้าใจได้ด้วยการนึกคิดด้นเดา
กว่าจะมาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ก่อนได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ต้องสละชีวิตและอวัยวะมานับภพนับชาติไม่ถ้วน หากเปรียบศีรษะที่ทรงสละไป ก็มากกว่าผลมะพร้าวในชมพูทวีป ดวงตาที่สละไปมากกว่าดวงดาวบนฟากฟ้า เลือดที่สะละไปมากกว่าน้ำในมหาสมุทร เนื้อที่สละไปมากมายกว่าพื้นดิน
พระพุทธคุณ ตอน ผู้ไกลจากกิเลส
พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ทรงเป็นที่พึ่ง ไม่ทรงเกี่ยวข้องกับกิเลสใด และไม่ทรงประกอบด้วยโทษใด ชื่อว่าทรงไกลจากกิเลส และโทษนั้น เพราะเหตุนั้น จึงปรากฏพระนามว่า อรหํ
มหาโควินทสูตร (ตอนที่ 7 ออกบวช)
ชัยชนะครั้งที่ 5 (ตอน ชนะการถูกกล่าวหาจากนางจิญจมาณวิกา)
พระพุทธเจ้าผู้เป็นจอมมุนี ได้ทรงชนะคำกล่าวร้ายของนางจิญจมาณวิกา ผู้ทำอาการเหมือนหญิงมีครรภ์ ได้ทำไม้สัณฐานกลมผูกติดไว้ ด้วยวิธีที่งดงาม คือความสงบพระทัยในท่ามกลางมหาชน ด้วยเดชแห่งพุทธชัยมงคลนั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน
มงคลที่ 38 - จิตเกษม - ฉลาดคิด จิตจึงหลุดพ้น
ท่านจึงรวบรวมจิตให้กลับเข้ามายังฐานที่ตั้งดั้งเดิมของใจ คือ ที่ศูนย์กลางกายของท่าน และพิจารณาความงามนั้นให้แปรผันไปเป็นความไม่งาม โดยเอากระดูกฟันของหญิงนั้น เป็นนิมิต คิดว่าสักวันหนึ่ง ฟันซึ่งมีความขาวเงางามนี้ จะต้องแปรเปลี่ยนไป เสื่อมคลอน และหลุดร่วงออกจากปาก
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 188
ข่าวการกลับมาของมโหสถบัณฑิตก็แพร่สะพัดไปทั่วพระนคร อาจารย์เสนกะทราบข่าวนั้น ก็สุดแสนจะดีใจ รีบกุลีกุจอขอเข้าเฝ้า เพื่อทูลถวายรายงานให้ทรงทราบข่าวนั้นทันที เมื่อพระเจ้าวิเทหราชทรงสดับข่าวอันเป็นมงคลนั้นแล้ว ก็ทรงดีพระทัยยิ่งนัก รีบประทับยืนขึ้น แล้วทอดพระเนตรผ่านช่องพระแกลมองดู ณ เบื้องล่างในทันที
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 187
พระเจ้าจุลนีตรัสว่า “ขอบใจเธอมาก พ่อบัณฑิต ฉันจะรอ ฝากเธอช่วยนำบรรณาการเหล่านี้ไปมอบให้ลูกหญิงของฉันด้วย” ตรัสดังนี้แล้ว ก็ทรงฝากทาสชายหญิง โค กระบือ ทองเงิน ผ้า ช้าง ม้า และรถที่ตกแต่งอย่างดี ให้มโหสถนำไปพระราชทานเป็นของกำนัลแด่พระราชธิดาปัญจาลจันที จากนั้นก็รับสั่งให้ตระเตรียมโภชนะสำหรับบำรุงเลี้ยงกองรถและกองราบอย่างอิ่มหนำสำราญ
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 106
อาจารย์ทั้ง ๔ เมื่อต่างก็ต้องมาตกอยู่ในภาวะคับขัน ที่เหลียวมองไปทางใดก็ยังไม่เห็นว่าจะมีทางรอดพ้นไปได้ ความเหิมเกริมคิดจะชิงดีชิงเด่นกับมโหสถบัณฑิตจึงหมดสิ้นไปจากใจ เปลี่ยนไปเป็นความหวาดกลัวต่อเงื้อมมือแห่งมฤตยู ที่กำลังมายื่นรอปลิดชีวิตของพวกตนอยู่ต่อหน้า
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 105
บัดนี้อาจารย์ทั้ง ๔ ผู้ที่พยายามให้ร้ายป้ายสีคิดทำลายมโหสถ ทำให้ได้รับความลำบากลำบนหลายครั้งหลายครา ซึ่งมโหสถก็ให้อภัยไม่ถือสาหาความเรื่อยมา ในครั้งนี้ หากมโหสถไม่คิดปราณี ก็เห็นทีว่า พวกเขาคงไม่มีชีวีเหลือรอดเป็นแน่