ข้อความต้นฉบับในหน้า
7
กันพักใหญ่นานอยู่ แล้วแสงสว่างนั้นก็ค่อยโทรมลงไป ก็มารวมอยู่ที่สว่างหลังคามุ้ง นางเขียวก็
รู้ว่า พระของขวัญเอาไว้ที่นั้น แสงสว่างนี้ออกจากของขวัญนั่นเอง
แต่เช้าเชียวมาหาผู้พูดนี้ บอกว่าท่านเมื่อคืนนี้แสงสว่างเกิดที่บ้านดิฉัน พระท่านเปล่ง
รัศมีสว่างเชียว เดิมทีก็ไม่รู้ว่าอะไร แล้วก็มารวมอยู่ที่พระ จึงรู้ว่าพระ รูปร่างนางเขียวเมื่อวัน
รับพระของขวัญนั้นมีโรคภัยไข้เจ็บเป็นประจำ อยู่คืนเดียวเท่านั้น เวลามาบอกเช้า ร่างกายเปล่ง
ปลั่งไปหมด แปลกกว่าปกติเดิมทีเดียว ผิวพรรณเกลี้ยงเกลาไปหมด ดูสะอาดสะอ้าน มี
ผิวพรรณวรรณะ เขารู้สึกว่าของขวัญนี้อัศจรรย์ แปลชั่วเป็นดีได้ขณะนี้เชียวหนอ
๏ พระลอยได้
เรารู้สึกว่าศักดิ์สิทธิ์เพียงแค่นี้และหรือ ยังไม่ใช่เพียงเท่านี้ อีกหลายรายที่รับของขวัญไป
จากวัดปากน้ำแล้ว อยู่ทางถนนตก พอไปถึงที่บ้าน พระออกจากตัวไปลอยเรื่อยไปในอากาศ
ตัวก็เห็นเรื่อยไป แล้วไปเข้าบ้านโน้น เข้าไปในห้องพระแล้วเข้าไปในที่บูชานั้น เข้าไปในครอบ
พระที่เขาบูชานั้น ตัวก็ตามเข้าไปจะเอาให้ได้ เขาก็ไม่ยอมให้เข้าไป เขาบอกว่าห้องพระนั้นคน
อื่นมาเกี่ยวข้องไม่ได้ เขาคนเดียวเท่านั้น ไม่มีอะไรไม่ต้องเข้าไป
เด็กก็จะเข้าไป เกิดเถียงกัน เด็กเมื่อไม่ให้เข้า มันก็ร้อง เขาว่าถ้าจะเข้าไปก็ต้องไปบอก
มารดาเอ็งก่อน ให้ไปบอกผู้ใหญ่มาก่อน เด็กก็ไปบอกมารดามา เขาก็ให้ไปเปิดดู เปิดเข้าไปใน
ห้องพระ ก็เห็นพระของขวัญนั้นอยู่ในครอบพระจริงๆ เจ้าของบ้านก็รับรองว่า ไม่ใช่ของๆ เขา
ก็ให้แก่เด็กนั้นมา
พระท่านพูดได้
นี่ก็อัศจรรย์ นึกว่าของตาย ๆ ดินๆ อย่างนี้แหละ ลอยไปก็ได้น่าอัศจรรย์นัก นี่อย่าง
อัศจรรย์ ไม่ใช่แต่เท่านั้น ยังพูดได้อีก ไม่ใช่เปล่งรัศมีแล้วลอยไป พูดก็ได้ การพูดนี้มีนายทหาร
เรือผู้หนึ่ง (เจ้าตัวต้องการสงวนนาม)
เมื่อวันที่ ๒๙ ทหารเรือนัดประชุมเลี้ยงอาหารในกองสัญญาณ เมื่อเลี้ยงอาหารเสร็จแล้ว
คืนนั้น พอแจกปืนเท่านั้น พระซึ่งอยู่ในหน้าอกของทหารเรือผู้นั้น เสียงบอกลั่นออกมาว่า
“ทิ้งปืนไปเสีย อย่าอยู่”
นายทหารผู้นั้นคิดแต่ในใจว่า “ไม่รู้จะไปทางไหน”
ไปทางวัดแจ้ง (วัดอรุณราชวราราม) นายทหารเรือผู้นั้นจึงทิ้งปืนแล้วไปทางวัดแจ้ง ไป
ทางวัดแจ้ง เขาก็ห้อมล้อมหมด เอ้...นี้เราจะต้องถูกยิงทิ้งละสิ เขากั้นไว้หมด