ข้อความต้นฉบับในหน้า
เข้าใจว่ายังมีชีวิตในปรโลก จึงมัวประมาทชะล่าใจ
ไม่ได้สั่งสมบุญและไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้ให้พร้อม
ก่อนตาย ชีวิตหลังความตายจึงไม่ปลอดภัย มีแต่
ความหวาดสะดุ้ง เพราะไม่รู้ว่าตายแล้วจะต้องไป
ไหน แทนที่เมื่อละสังขารนี้ไปแล้ว จะมีเทวรถมา
รอรับพาขึ้นไปเสวยสุขในสุคติโลกสวรรค์ กลับเป็น
ตรีทูตนุ่งผ้าแดงหยักรั้งมาพาไปยมโลก ต้องเข้า
สู่กระบวนการพิพากษาตัดสินกันระหว่างบุญกับ
บาป ว่าอันไหนแรงกล้ากว่ากัน จะไปเสวยสุขดีหรือ
ว่าไปรับโทษในอบายภูมิกันดี
เพราะฉะนั้น หลวงพ่อจึงยังคงนำเรื่องราว
การไปสู่ปรโลกมาเล่าให้พวกเราทุกคนได้เรียนรู้
กันอีก เพื่อเราจะได้รายละเอียดมากขึ้นว่า เส้น
ทางการเดินทางไกลในสังสารวัฏของชีวิตมนุษย์
นั้น มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะใน
ช่วงก่อนตายและหลังจากตายแล้ว จะต้องเดินทาง
ไปที่ไหนกันบ้าง เมื่อรู้แล้วชีวิตจะได้ปลอดภัย และ
มีชัยชนะไปทุกภพทุกชาติ
โดยอัธยาศัยทั่วไปของมนุษย์จะมีความ
ประพฤติดี หรือมีความกระด้าง หรือประณีตแตก
ต่างกันออกไป พอจะแบ่งย่อๆ เป็น ๔ ประเภทด้วย
กัน คือ
ประเภทแรก
ชอบใจในการบำเพ็ญบุญ
กิริยาวัตถุ หมั่นทำทาน รักษาศีลและเจริญสมาธิ
(Meditation) ภาวนาอยู่ไม่ขาด เพราะฉะนั้น ขณะ
ใกล้ตายจะสามารถระลึกนึกถึงเรื่องบุญกุศลที่ตน
เคยทำเอาไว้ได้ เพราะมีใจชุ่มอยู่ในบุญ ใจผ่องใส
เป็นปกติ บุญกุศลอะไรที่ได้ทำเอาไว้ ก็จะมา
ปรากฏให้เห็นชัดเจน ละโลกไปแล้วก็ไปดี ไม่ต้อง
ไปเกิดในอบายภูมิทั้ง ๔
ประเภทที ๒ ชอบทำทั้งกุศลและอกุศล
ปะปนกันไป เมื่อถึงคราวใกล้ตาย ถ้าหากพยายาม
ระลึกถึงบุญกุศลเอาไว้ให้มาก หรือมีผู้อยู่ใกล้ชิด
ช่วยเตือนสติให้ระลึกถึงกุศลกรรมที่ทำเอาไว้ ก็
สามารถช่วยให้พ้นจากอบายได้เหมือนกัน เว้นแต่
มีทุกขเวทนามาก เลยนึกไม่ออก และไม่มีญาติ
พี่น้องคอยเตือนสติ จิตใจจึงมีแต่ความหมอง
on les
10
เทพธิดาที่เสวยสุขในสุคติโลกสวรรค์
กลุ้มใจ เสียใจ อย่างนี้อาจต้องไปเจอพญายมราช
ในอบายภูมิ
ประเภทที่
ล
ชอบทำบาปอกุศลมากกว่า
ทำบุญ ไม่มีอารมณ์อยากทำความดี หรือเป็น
ประเภทกินบุญเก่า มีความเชื่อมั่นในตัวว่า ที่
ประสบความสำเร็จมาได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะหนึ่ง
สมองสองมือ และตนเองก็ไม่ได้ไปรบกวนใครให้
ลำบาก การประพฤติตนก็ไม่เป็นภาระสังคม ไม่เคย
ทำให้ใครเดือดร้อน แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วสำหรับชีวิต
นี้ ฉะนั้น พอใกล้จะละโลกก็นึกถึงบุญไม่ออก คน
เรานั้นถ้าไม่ทำบุญ บาปก็เข้าแทรก เพราะฉะนั้น
ก่อนตายแม้จะมีญาติพี่น้องมาช่วยให้นึกถึงบุญ ก็
นึกไม่ออก ต้องช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่เป็นพิเศษที่
เดียว จึงพอจะช่วยได้บ้างแต่ก็ยาก
ประเภทสุดท้าย คือทำอกุศลอย่างเดียว เป็น
พวกมิจฉาทิฏฐิ ไม่เชื่อเรื่องบุญเรื่องบาป ไม่เชื่อ
เรื่องโลกนี้โลกหน้า ไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ จึงไม่