ข้อความต้นฉบับในหน้า
3) ที่ว่ากายเหมือนผ้าเช็ดเท้า ก็อีธรรมดาผ้าเช็ดเท้า เวลาใครเอาเท้าสาปร่าๆ มาเช็ด มันเคยนับไหม ไม่เห็นมันบ่นเลย ไม่มีผ้าเช็ดเท้าบ้านไหนนอนได้
ปู่ย่าตายายใช้ปูมานี้ ท่านตั้งใจว่าจะเตือนว่า คนเราจะทำงานอะไรให้เต็มกำลังลงไป เป็นคนไม่ถือเนื้อถือตัว ไม่เลือกงานกันและ ขอให้นั้นเป็นงานอาชีพ สุจริตทำเข้าไป
คุณยายของผู้เขียน ท่านพูดเสมอๆ ว่า ตั้งแต่เป็นเด็กมาแล้วถ้าคืนครวญจะต้องไปรับจ้างเขาเทกระโหลงกระโจนก็เอา เพราะมันเป็นอาชีพบริสุทธิ์ แต่จะไปปล้ำโยมใครเขา หัวเด็ดตีนขาดย่ายไม่ยอมทำ จะทำายอย่างกับผ้าเช็ดเท้า ใครจะโบกจะสั่งอย่างไรก็ยอมค่ะ เพื่อให้ได้อาชีพที่สุจริต แต่จะให้ไปโกงเขา เพื่อจะได้แต่งตัวสวยๆ ไม่เอาดีขาด
เพราะฉะนั้น ใครทำกายเหมือนผ้าเช็ดเท้าได้ ก็เป็นการลดการกระทบกระทั่งทางกาย พาให้ใจสงบสุขได้เป็นชั้นที่ 3
4) ที่ว่าประดุจแผ่นดิน ก็คือ ใจของคนเราส่วนใหญไม่เหมือนแผ่นดิน แต่เหมือนขี้เถ้าหล่นไฟ มันอ่อนปวกเปียกๆ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสเรื่องใจเหมือนแผ่นดินกับพระราชา ตำว่า...
แผ่นดินนี้ ใครเอาน้ำหอมไปรดไปราดมัน มันดีใจไหม ไม่ดีใจมันก็เลยๆ เอาของเห็นไปรดไปราด มันทุกข์ใจไหม มันเฉยๆ
30 ~ ธรรมเพื่อป้องกันการหย่าร้าง