
เพื่อนผมอกหัก ทำยังไงดีครับ เขาเศร้ามาก
#1
โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 08:28 PM
เพราะผมแนะนำไม่ได้
เพราะไม่เคยมี
และไม่คิดจะมี
#2
โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 08:42 PM
#3
โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 08:55 PM
เราพรางคนอื่นได้ แต่เราพรางตนเองไม่ได้
#4
โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 09:20 PM
http://www.dmc.tv/fo...php/t21359.html
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=21360
#5
โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 10:10 PM
..อันการพลัดพรากจากสิ่งที่รัก แม้จากเป็น หรือจากตายก็ดี ก็จากอยู่ดี ไม่มีอะไรจีรัง ไม่มีอะไรเป็นของของเรา เราเสียใจเพราะถูกทิ้ง หรือคนที่เรารักไปรักคนอื่น หรือถูกหลอกให้เราหลงรัก หลงเชื่อใจ ก็ต้องมองว่า ใครล่ะ? เป็นคนเชื่อ เป็นคนคิดว่าเขารัก หรือเป็นคนไปรักคนนั้น ก็ตัวเรานี่แหละ ... หรือตามที่ผู้พ้นกิเลสเอ่ยไว้คือ เรานี่แหละ คิดเอง เออเอง ก่อเองทั้งหมด...
....ความรัก คือ ความร้าย ดั่งคำของพระศาสดาตรัสไว้ในเรื่องโกกิลานั้น เป็นเรื่องจริงแท้ ที่ใดมีรัก ที่นั่นย่อมมีทุกข์ แม้จะสมหวังในความรักก็ยังต้องทุกข์ต่อความห่วงใย โหยหา กังวล ระแวง ฯลฯ
...เพื่อนสิ แม้จะทุกข์ หรือสุข ก็มีแต่เพื่อน แม้บิดา มารดาก็เป็นเสมือนเพื่อนผู้เข้าใจเราทุกอย่าง ฟังได้ทุกอย่าง ปลอบเราได้ทุกอย่าง และอยู่กับเราตลอด ส่วนพระคุณท่านนั้นล้นฟ้า ล้นมหาสมุทร ล้นปฐพี...
...ให้เพื่อนคุณ มองคนที่ใกล้ตัวที่สุด อย่ามองคนไกลตัว มองที่ต้นเหตุ อย่าได้มองปลายเหตุ อย่าได้มองว่าเพราะอะไรจึงอกหัก พลาดรัก รักคุด แต่ให้มองว่า เรารักใครได้ เพราะใคร... เราโตจนไปสนใจคนอื่นได้ เพราะใคร.... เรามีหน้าตางดงาม รูปร่างเป็นที่ถูกใจคนอื่น เพราะใคร... เรามีอาการครบ 32 และมีความเป็นคนดีได้ เพราะใคร?
...แม้จะเสียใจก็เสียใจให้พอ แล้วเริ่มต้นใหม่ อย่าให้ความดีในตัวเราเสียไป เสียอะไรเสียได้ อย่าเสียความดีในตัวเราไป ใครไม่รักเรา ก็เป็นสิทธิ์ของเขา ใครรักเราก็เป็นสิทธิ์ของเขา คุยกับตัวเองให้จบ ว่าหน้าที่เราคืออะไร และเดินหน้าต่อ รักษาความดีของตัวเราไว้ให้ได้ อย่าชั่วเพราะประชด หรือแค่ผิดหวังกับความรักอันไม่มีตัวตน ไม่จีรัง ไม่ใช่เป็นสิ่งสำคัญต่อการเลี้ยงชีวิต ของเราเลย...
#6
โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 10:13 PM
เคยสร้างบุญสร้างบารมี่ร่วมกันมายังไงก็หนีกันไม่พ้นอยู่แล้วหล่ะค่ะแต่ถ้าเค้าเคยสร้างบุญร่วมกันมาแค่นี้ก็ขอให้เค้าทำใจและที่สำคัญมากๆๆ
บอกให้เค้านั่งสมาธิทำใจหยุดใจนิ่งแล้วเค้าจะได้คำตอบเองอ่ะค่ะแต่จริงๆๆแล้วอยากให้บอกกับเค้าว่าอยู่คนเดียวแหละดีแล้วชวนเค้ามาเข้าวัด
ปฎิบัติธรรมเค้าก็จะคิดได้เองหล่ะค่ะ
#7
โพสต์เมื่อ 03 February 2010 - 02:09 AM
ตอบไปตอบมากชักฟุ้งแฮะ ขอตัวแล้วกันนะครับกระทู้นี้
ถ้าเพื่อนเป็นผู้ชายก็ปล่อยๆ ไปเถอะครับ เดี่ยวมันก็ลืมของมันเองแหละเชื่อดิ

#8
โพสต์เมื่อ 03 February 2010 - 05:43 AM
รวมเรื่องอกหักบนเว็บบอร์ด DMC
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=18089
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=22420
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=17046
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=7434
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=22215
http://www.dmc.tv/fo...amp;mode=linear
http://www.dmc.tv/pa...07-02-13-3.html
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=13224
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=5435
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=21618
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=17628
case
http://www.dmc.tv/pr...2551-01-28.html
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#9
โพสต์เมื่อ 03 February 2010 - 07:54 AM
งั้นลองโหลดไปอ่าน ไปฟังก่อนก้แล้วกันนะคะ เพราะฟังแล้วจะทำให้มองเห็นความเป็นไปที่เป็นจริงของความรักค่ะ
http://www.4shared.c...acc284/03_.html
http://www.4shared.c...218d49/04_.html
http://www.4shared.c...89/_online.html
“น้องหญิง ความรักเป็นเรื่องร้ายมิใช่เป็นเรื่องดี
พระศาสดาตรัสว่าความรักเป็นเหตุให้เกิดทุกข์โศก และทรมานใจเธอชอบความทุกข์หรือ ?”
“จะเป็นไปได้อย่างไร น้องหญิง! ในเมื่อทำเหตุก็ต้องได้รับผลการที่จะให้มีรักแล้วมิให้มีทุกข์ติดตามมานั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เลย”
จาก...ส่วนหนึ่งของธรรมบทพระอานนท์พุทธอนุชา ตอนความรักความร้าย
ทางที่จะปลอดภัยจากรักก็ฉันนั้น มีอยู่ทางเดียวคืออย่ารัก
#10
โพสต์เมื่อ 03 February 2010 - 09:34 AM
ก็มีแต่ทุกข์ทั้งนั้นหล่ะครับ
ผิดหวังทุกข์แปล๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย
สมหวังสิ เดี๋ยวแต่งงาน เดี๋ยวมีลูก ทุกข์มากยิ่งกว่าหลายเท่านัก ทีนี้ก็งานเข้าเลย
ถ้าเป็นชาย จะบวชที่ต้องขอเมีย ดูหน้าลูก
อยากอยู่ตลอด ก็มีบ่วงให้วัดใจกันอีก
อยู่คนเดียวสร้างบารมีไปกับหมู่คณะประเสริฐ สุดแล้วครับ
#11
โพสต์เมื่อ 03 February 2010 - 02:23 PM
สมหวังสิ เดี๋ยวแต่งงาน เดี๋ยวมีลูก ทุกข์มากยิ่งกว่าหลายเท่านัก ทีนี้ก็งานเข้าเลย
โอ้ ช่ายๆๆๆ เลยๆๆๆๆ ตรงใจฉันเลย ฮิ ฮิ ขอซื้อนะครับ :-)
#12
โพสต์เมื่อ 03 February 2010 - 06:12 PM
555 +
#13
โพสต์เมื่อ 03 February 2010 - 06:15 PM
#14
โพสต์เมื่อ 03 February 2010 - 07:50 PM
#15
โพสต์เมื่อ 03 February 2010 - 08:58 PM
ตอบไปตอบมากชักฟุ้งแฮะ ขอตัวแล้วกันนะครับกระทู้นี้
ใช่.....ความแข็งแรงของหัวใจ เริ่มอ่อนลงแล้วเหมือนกัน
มันกระชากความรู้สึกมากเลย เศร้า...
#16
โพสต์เมื่อ 03 February 2010 - 09:41 PM
มันกระชากความรู้สึกมากเลย เศร้า..
น้อง kissy.....เพิ่งไปชวนคนบวชมาไม่ใช่เหรอ ใจต้องแข็งแกร่งซิ เพราะบุญกำลังหล่อเลี้ยง
ให้นึกทบทวนบุญที่ทำผ่านมาในอดีตจนถึงปัจจุบันทุกๆ วัน สำคัญมากๆๆๆ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#17
โพสต์เมื่อ 04 February 2010 - 10:42 AM
#18
โพสต์เมื่อ 05 February 2010 - 03:33 PM
1. นึกถึง พระเวสสันดร ท่านเพียบพร้อมทุกอย่าง และเพื่อบำเพ็ญมหาทานบารมีอย่างยิ่งยวด
ท่านทรงสละได้แม้แก้วตาดวงใจ เลือดเนื้ออย่าง พระโอรส พระธิดา และในที่สุดก็พระมเหสี ผู้ซึ่งดีพร้อม
และมีสิริโฉมงดงามยิ่ง
แล้วเราล่ะเป็นใคร แล้วเขาคนนั้นล่ะเป็นใคร แค่นี้จิ๊บจ๊อย ยกให้เขาไปเถอะ
ถึงที่สุดเขาจะไปแต่งงานกัน แล้วทำไมล่ะ คนแต่งงานกันเดี๋ยวก็ทะเลาะกัน เดี๋ยวก็หย่ากัน
ไม่หย่ากัน ก็ต้องตายจากกันไป มองยาวๆไปให้ถึงช็อตสุดท้าย เราจะทุกข์ไปทำไมกัน
หากข้อ1. ไม่ผ่าน ก็ใช้คำของครูบาอาจารย์ ขลังนักแล
2. "หยุด เป็นตัวสำเร็จ" ท่องไว้ ๆๆๆ
"หยุด" นึกถึงเขาได้เมื่อไหร่ เลิกกับเขา"สำเร็จ"เมื่อนั้น
"หยุด" คิดถึงเขาได้เมื่อไหร่ ก็ปลดทกุข์ "สำเร็จ"เมือนั้น
หยุดเป็นตัวสำเร็จ ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง แผ่นดินจะทะลาย คอขาดบาดตาย ช่างมัน !
อยู่ที่ ศูนย์กลางกาย ให้ได้ตลอดเวลา
ออกจาก ศูนย์กลางกาย เมื่อไหร่เราก็ทุกข์แล้ว
ดังนั้นจรดใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย กันเถอะนะคะ

#19
โพสต์เมื่อ 03 March 2010 - 08:56 PM