อุบาสกธรรม๕ ชาวพุทธที่แท้จริง จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติต่อไปนี้
1) มีศรัทธา เชื่อในการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริง และเป็นผู้มีคุณธรรมวิเศษสูงสุด ไม่ระแวงสงสัยในพระปัญญาธิคุณอันเลิศของพระองค์
2) มีศีลบริสุทธิ์ คือพยายามรักษาศีล 5 ให้ได้เป็นอย่างน้อย เพื่อปกป้องตนเองให้พ้นจากบาปกรรมทั้งหลาย
3) เชื่อกรรม ไม่ถือมงคลตื่นข่าว คือ มุ่งหวังจากการกระทำและการงาน มิใช่จากโชคลาง และสิ่งที่ตื่นกันว่าขลังศักดิ์สิทธิ์ แต่เชื่อถือมงคลตื่นตัว คือมีความเข้าใจถูกในเรื่องโลกและชีวิต ตื่นตัวอยู่เสมอว่าบุคคลเมื่อทำดีย่อมได้ดีจริง ทำชั่วย่อมได้ชั่วจริง ไม่มีความสงสัยเคลือบแคลงใดๆ ทั้งสิ้น เลือกทำแต่ความดีให้เต็มตามความสามารถของตน
4) ไม่แสวงบุญนอกพระพุทธศาสนา คือไม่เที่ยวแสวงบุญโดยเข้าร่วมพิธีกรรมในศาสนาอื่นด้วยความเต็มใจ เพราะคิดว่าจะได้บุญ ทั้งไม่กราบไหว้รูปเคารพของศาสนาอื่น แต่ก็ต้องไม่ล่วงเกิน ไม่วิจารณ์วัตถุอันเป็นที่เคารพของลัทธิศาสนาอื่นด้วย ตลอดชีวิตต้องขวนขวายในการอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนา
5) ตั้งใจทำจิตให้บริสุทธิ์ ด้วยการให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนาให้ถูกวิธีของพระพุทธศาสนาโดยแท้
นันทมาณพ ได้ทูลถามว่า “ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า สมณพราหมณ์บางพวก กล่าวความบริสุทธิ์ด้วยความเห็นบ้าง ด้วยการฟังบ้าง ด้วยศีลและพรตบ้าง ด้วยมงคลตื่นข่าว เป็นต้น เป็นอันมาก สมณพราหมณ์เหล่านั้นประพฤติอยู่ในทิฐิของตน ตามที่ตนเห็นว่าเป็นเครื่องบริสุทธิ์นั้น ข้ามพ้นชาติและชราได้บ้างไหม ขอพระองค์ได้ตรัสบอกความข้อนั้นแก่ข้าพระองค์ ด้วยเถิด”
พระบรมศาสดาตรัสว่า “ดูก่อนนันทะ ผู้กล่าวความบริสุทธิ์ด้วยความเห็นบ้าง ด้วยการฟังบ้าง ด้วยศีลและพรตบ้าง ด้วยมงคลตื่นข่าวบ้าง ชนเหล่านั้นประพฤติอยู่ในทิฐิของตน ตามที่เห็นว่าเป็นเครื่องบริสุทธิ์ก็จริง แต่ชนเหล่านั้นยังข้ามพ้นชาติและชราไปไม่ได้ คนเหล่าใดละเสียซึ่งรูปที่ได้เห็นแล้วก็ดี เสียงที่ได้ฟังแล้วก็ดี อารมณ์ที่ได้รับรู้แล้วก็ดี ละเสียแม้ซึ่งศีลและพรตทั้งหมดก็ดี ละเสียซึ่งมงคลตื่นข่าวเป็นต้น เป็นอันมาก ทั้งหมดก็ดี กำหนดรู้ตัณหาแล้ว เป็นผู้หาอาสวะมิได้ คนเหล่านั้นแล ข้ามห้วงน้ำ คือ โอฆะ ได้แล้ว”