ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ.2554เมื่อวิบากกรรมติดตามมาส่งผลปรโลกนิวส์...เมื่อวิบากกรรมติดตามมาส่งผลตอนต่อจาก คู่บุญคู่บารมีเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ทีแล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ ความเดิมจากตอนที่แล้ว... เมื่อสามีของลูกเดินทางกลับมาถึงแคว้นของตนเองแล้ว เขาก็ได้บอกกับคุณพ่อคุณแม่เกี่ยวกับเรื่องว่าที่ภรรยาของตน เมื่อท่านทั้งสองได้ฟังอย่างนั้นแล้ว ท่านทั้งสองต่างก็รู้สึกปลาบปลื้มยินดีแบบสุดๆที่ลูกชายหัวแก้วหัวเพชรของตนเองกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝา ครั้นถึงกำหนดวันออกเดินทางไปยังแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวช ด้วยความที่สามีของลูกไม่อยากให้การเดินทางไปแต่งงานในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจของครอบครัวที่กำลังไปได้ด้วยดี เนื่องจากในยุคนั้น การเดินทางข้ามแคว้นต้องใช้เวลาหลายเดือน เขาจึงได้จัดเตรียมกองคาราวานสินค้าพ่วงไปกับกองคาราวานขันหมากอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ซึ่งตัวเขาจะเป็นผู้ที่ขี่ม้านำหน้าขบวนกองคาราวานทั้งหมดด้วยตนเอง โดยจะมีเหล่าบริวารที่มีฝีมือทางด้านการต่อสู้จำนวนหนึ่ง มาคอยคุ้มกันขบวนคาราวานอยู่เป็นระยะๆสามีของลูกจะเป็นผู้ที่ขี่ม้านำหน้าขบวนกองคาราวานด้วยตนเอง โดยมีเหล่าบริวารที่มีฝีมือทางด้านการต่อสู้ คอยคุ้มกันขบวนคาราวานเป็นระยะๆในขณะที่กองคาราวานของสามีของลูกกำลังเคลื่อนผ่านช่องเขา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตแดนของแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือ (แคว้นของพระราชบิดาของพระราชาเกเร) ด้วยวิบากกรรมปาณาติบาตในภพชาติก่อนๆโน้น ที่สามีของลูกได้เคยฆ่าชาวบ้านตายและจับพวกชาวบ้านมาแขวนคอเป็นจำนวนมาก ได้ช่องตามมาส่งผลในช่วงนั้นพอดี จึงทำให้ขบวนกองคาราวานของเขาถูกพวกโจรที่ดักซุ่มอยู่บริเวณนั้นโจมตีเพื่อหมายจะชิงทรัพย์ โดยพวกโจรได้กลิ้งกองไม้ที่มีไฟลุกโชนลงมาจากเนินเขา เพื่อขวางทางไม่ให้ขบวนกองคาราวานเคลื่อนผ่านไปพวกโจรได้กลิ้งกองไม้ที่มีไฟลุกโชนลงมาจากเนินเขา เพื่อขวางทางไม่ให้ขบวนกองคาราวานเคลื่อนผ่านไปในระหว่างที่พวกโจรกำลังบุกเข้าโจมตีกองคาราวานอยู่นั้น สามีของลูกซึ่งอยู่ด้านหน้าสุดก็พยายามขี่ม้าฝ่าวงล้อมของพวกโจร เพื่อหวังที่จะเข้าไปช่วยคุณพ่อคุณแม่ของเขา แต่ด้วยความที่พวกโจรมีจำนวนมากกว่า กอปรกับเหล่าบริวารที่ทำหน้าที่คุ้มกันอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย จึงทำให้สามีของลูกถูกพวกโจรดึงตกจากหลังม้า และถูกรุมฟันเข้าที่หน้าท้องจนตัวเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสสามีของลูกถูกพวกโจรดึงตกจากหลังม้าและถูกรุมฟันเข้าที่หน้าท้อง จนตัวเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อเหล่าบริวารที่ทำหน้าที่คอยคุ้มกันขบวนกองคาราวานรวมตัวกันได้ เหล่าบริวารทั้งหมดจึงได้กรูกันเข้าไปช่วยสามีของลูกให้รอดพ้นจากวงล้อมของพวกโจร แล้วช่วยกันยันจนทำให้พวกโจรถอยร่นกลับไป แต่ด้วยความที่สามีของลูกถูกฟันเข้าที่หน้าท้องจนเป็นแผลฉกรรจ์ จึงทำให้เขาทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งก่อนที่สามีของลูกในภพชาตินั้นจะเสียชีวิต ใจของเขาไม่ได้รู้สึกผูกโกรธหรืออาฆาตแค้นพวกโจรแต่อย่างใด แต่เขากลับรู้สึกสบายใจและรู้สึกโล่งใจที่คุณพ่อคุณแม่รวมถึงกองคาราวานของเขาปลอดภัย และก่อนที่เขาจะจากไป เขาก็ได้กล่าวถ้อยคำสุดท้ายซึ่งเป็นเสมือนถ้อยคำอำลากับคุณพ่อคุณแม่ของเขาว่า เขาขอโทษที่เขาไม่สามารถพาคุณพ่อคุณแม่ไปพบกับว่าที่ลูกสะใภ้ได้ เขาอยากให้คุณพ่อคุณแม่ได้ไปพบกับเธอจริงๆ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้วสามีของลูกถูกฟันเข้าที่หน้าท้องจนเป็นแผลฉกรรจ์ จึงทำให้เขาทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมาครั้นสามีของลูกพูดจบ ลมหายใจของเขาก็เริ่มแผ่วลงไปเรื่อยๆ และด้วยความที่ทุกลมหายใจของเขาคิดถึงแต่ลูกเพียงคนเดียว ภายในใจของเขาจึงมีแต่ภาพที่เกี่ยวกับตัวลูกเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นภาพในช่วงที่เขาได้มาเจอกับลูก ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันกับลูก ซึ่งในบรรดาภาพทั้งหมด ภาพที่ติดอยู่ในใจของเขามากที่สุด คือ ภาพในช่วงที่ตัวลูกชวนเขาไปทำบุญกับหมู่คณะจนทำให้เขาเข้าใจเส้นทางในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง และหันมานับถือพระพุทธศาสนาในเวลาต่อมา เมื่อสามีของลูกได้เห็นภาพในช่วงที่ตัวเขาได้ไปทำบุญร่วมกับตัวลูกแล้ว บุญจึงได้ช่องเข้ามาทำงานอยู่ภายในใจของเขาตลอดเวลา โดยไปดึงดูดเอาภาพบุญต่างๆที่ตัวเขาได้เคยสั่งสมเอาไว้กับหมู่คณะ ทั้งทาน ศีล ภาวนา ให้มาปรากฏฉายเป็นภาพกรรมนิมิตฝ่ายบุญกุศลในช่วงศึกชิงภพ ซึ่งได้ส่งผลทำให้สามีของลูกมีใจที่ผ่องใสและสว่างไสวเป็นอย่างมาก ด้วยความที่เขามีใจที่ผ่องใสและสว่างไสวเป็นอย่างมากนี้เอง จึงทำให้หลังจากที่สามีของลูกละจากโลกไปแล้ว เขาจึงได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เมื่อละโลกแล้ว ด้วยใจที่ผ่องใส สามีของลูกได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เมื่อสามีของลูกได้เสวยทิพยสมบัติอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ได้สักระยะหนึ่งแล้ว เขาก็ได้จุติลงมาเกิดเป็นมนุษย์ แล้วก็ได้กลับไปบังเกิดเป็นเทวดา สลับกันไปมาเช่นนี้อยู่อีกหลายครั้ง ซึ่งในบางครั้ง สามีของลูกก็ได้ไปบังเกิดอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา หรือในบางครั้ง เขาก็ได้ไปบังเกิดอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ส่วนว่าตัวเขาจะได้ไปบังเกิดอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาหรือสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับกำลังบุญในแต่ละชาติที่ตัวเขาได้สั่งสมเอาไว้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบุญจากการสงเคราะห์โลกแทบทั้งสิ้น เพราะในช่วงที่สามีของลูกลงมาเกิดเป็นมนุษย์นั้น จะอยู่ในช่วงที่โลกว่างเว้นจากพระพุทธศาสนา หรือไม่มีพระพุทธศาสนาบังเกิดขึ้นสามีของลูกได้จุติลงมาเกิดเป็นมนุษย์แล้วก็ได้กลับไปบังเกิดเป็นเทวดา สลับกันไปมาเช่นนี้อยู่อีกหลายครั้ง ในภพชาติล่าสุด ก่อนที่สามีของลูกจะลงมาเกิดเป็นมนุษย์ในภพชาติปัจจุบัน สามีของลูกได้ไปเกิดเป็นหัวหน้าราชองครักษ์ และเป็นพระสหายรักของพระราชาที่พึ่งขึ้นครองราชย์ของแคว้นแห่งหนึ่ง แม้ในยุคสมัยนั้นจะยังไม่มีพระพุทธศาสนาบังเกิดขึ้น แต่ด้วยความที่ตัวเขาเป็นคนที่มีพื้นฐานจิตใจดี และมีอุปนิสัยชอบทำบุญสงเคราะห์โลก ติดตัวมาข้ามภพข้ามชาติ (กล่าวคือ ในภพชาติก่อนๆหน้านี้ ตัวเขาก็สั่งสมบุญสงเคราะห์โลกเรื่อยมา) สามีของลูกในภพชาตินั้นจึงมีจริตอัธยาศัยชอบทำหน้าที่กัลยาณมิตร คือ มิตรที่ชี้แนะในทางที่ดีให้กับพระราชา โดยตัวเขาจะพยายามคิดหาวิธีการต่างๆ เพื่อที่จะโน้มน้าวใจของพระราชาให้ปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อที่ประชาชนภายในแคว้นจะได้อยู่กันอย่างมีความสุข นอกจากนั้น ตัวเขายังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่คอยผลักดันให้พระราชา ทรงดำริที่จะสร้างสาธารณประโยชน์ต่างๆให้กับประชาชนภายในแคว้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล เป็นต้น ซึ่งเป็นผลทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในแคว้นแห่งนั้นมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเรื่อยๆในภพชาติล่าสุด สามีของลูกได้ไปเกิดเป็นหัวหน้าราชองครักษ์ และเป็นพระสหายรักของพระราชา ดังนั้น เมื่อสามีของลูกละจากโลกไป บุญจากการทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้กับพระราชา และบุญจากการสงเคราะห์โลกในภพชาติดังกล่าว จึงส่งผลทำให้ตัวเขาได้กลับไปเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อีกครั้งหนึ่ง และในระหว่างที่สามีของลูกกำลังเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อยู่ระยะหนึ่งนั้น หมู่คณะของเรารวมถึงตัวลูกก็ได้ลงมาเกิดสร้างบารมีในปัจจุบันชาติพอดี และด้วยความที่สามีของลูกและตัวลูกได้เคยอธิษฐานจิตร่วมกันมาว่า “ขอให้เราทั้งสองคนได้เกิดมาเจอกัน แล้วได้มาเป็นคู่รักกันอีก และขอให้ได้เกิดมาสร้างบารมีร่วมกับมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะอีกในภพชาติต่อๆไป” จึงทำให้บุญที่ตัวเขาเคยสั่งสมเอาไว้กับหมู่คณะและคำอธิษฐานดังกล่าว ไปปรากฏเป็นภาพอยู่ภายในใจของเขา แล้วทำให้เขารู้สึกอยากจะลงมาจุติหรือเกิดเป็นมนุษย์ก่อนที่ตัวเขาจะหมดบุญบุญจากการทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้กับพระราชาและบุญจากการสงเคราะห์โลก จึงส่งผลทำให้สามีของลูกได้กลับไปเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อีกครั้งหนึ่ง เมื่อสามีของลูกอธิษฐานจิตลงมาเกิดในภพชาติปัจจุบันแล้ว บุญในอดีตชาติที่ตัวลูกและสามีของลูกเคยสั่งสมร่วมกันมากับหมู่คณะ กอปรกับคำอธิษฐานจิตที่ได้อธิษฐานร่วมกัน จึงทำให้ตัวเขาได้มาเจอกับตัวลูก แล้วได้มาพบรักกันอีกครั้ง อีกทั้งยังทำให้ลูกทั้งสองได้มาสร้างบารมีร่วมกับมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะ สมดังที่ได้ตั้งใจเอาไว้ แต่ด้วยความที่วิบากกรรมปาณาติบาตที่สามีของลูกได้ฆ่าชาวบ้านตาย และจับชาวบ้านมาแขวนคอเป็นจำนวนมาก ในภพชาติก่อนๆโน้น ยังคงมีกำลังแรงอยู่และได้ช่องตามมาส่งผล มันจึงได้มาตัดรอนและทำให้สามีของลูกต้องมาเสียชีวิตก่อนวัยอันสมควร กล่าวคือ มีอายุเพียงแค่ 44 ปีเท่านั้น และทำให้เขาได้สร้างบารมีกับหมู่คณะเพียงช่วงสั้นๆ วิบากกรรมปาณาติบาตทำให้ในชาติปัจจุบัน สามีของลูกมีอายุสั้นเพียงแค่ 44 ปีคำถามข้อที่ 3.ตอนที่ลูกครึ่งหลับครึ่งตื่น ลูกเห็นจอห์น (สามีของลูก) มาหา และคุยกับลูก เป็นจริงหรือไม่ ตอนนี้จอห์นอยู่ที่ไหน บุญที่จอห์นสร้างองค์พระตอนเขามีชีวิตอยู่ และปลื้มมากๆ ส่งผลอย่างไร และลูกทำบุญอุทิศไปให้จอห์นเพิ่มอีก จอห์นมีข้อความอะไรฝากถึงลูกหรือไม่ภายหลังจากที่สามีของลูกเสียชีวิตไปแล้ว กายมนุษย์ละเอียดของเขาก็ได้หลุดออกจากกายหยาบมายืนอยู่ข้างๆตัวลูก ซึ่งในช่วงแรก สามีของลูกก็ยังรู้สึกมึนๆงงๆ และยังคิดอะไรไม่ออก แต่ในเวลาต่อมา เขาก็ค่อยๆได้สติและเริ่มรู้สึกตัว แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังไม่รู้ว่าตนเองได้เสียชีวิตไปแล้ว ภายหลังจากที่สามีของลูกเสียชีวิตไปแล้ว กายมนุษย์ละเอียดของเขาได้หลุดออกจากกายหยาบมายืนอยู่ข้างๆตัวลูกเมื่อสติของเขาเริ่มกลับมา สามีของลูกก็คิดถึงคนข้างกายที่เขารักและห่วงใยที่สุดในโลก ซึ่งก็คือ ตัวลูกนั่นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจึงได้พยายามพูดคุยกับลูก แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามสื่อสารหรือพูดคุยกับลูกสักเท่าไร ลูกก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบสนองหรือตอบรับเขาเลย ด้วยเหตุนี้เอง สามีของลูกจึงรู้ตัวในทันทีว่า ในตอนนี้ตัวเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว ทันทีที่เขารู้สึกตัวว่าตนเองได้เสียชีวิตไปแล้ว เขาก็รู้สึกตกใจ และยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ในขณะนั้น ความตายจะมาพรากสามีของลูกกับตัวลูกให้แยกจากกัน แต่ความตายก็ไม่อาจพรากความรักความผูกพันที่สามีของลูกมีต่อตัวลูกได้ ด้วยเหตุนี้เอง กายมนุษย์ละเอียดของเขาจึงยังคงวนเวียนเฝ้าดูลูกด้วยความห่วงใยอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าสามีของลูกจะพยายามสื่อสารหรือพูดคุยกับลูกสักเท่าไร ลูกก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบสนองหรือตอบรับเขาเลย ด้วยความที่กายละเอียดของสามีของลูกยังติดตามดูแลตัวลูกอย่างใกล้ชิดอยู่นี้เอง จึงทำให้ยามใดที่เขาเห็นลูกเศร้าโศกเสียใจและร้องไห้ เพราะการจากไปของเขา สามีของลูกก็จะยิ่งรู้สึกสงสารและเป็นห่วงลูกมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมอีก และด้วยความที่ใจของเขายังมีห่วงมีกังวลในตัวลูก จึงเป็นผลทำให้บุญต่างๆที่สามีของลูกได้เคยกระทำเอาไว้ในสมัยที่ตัวเขายังมีชีวิตอยู่ ยังไม่ได้ช่องส่งผลอย่างเต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งในระหว่างนั้น สามีของลูกก็จะพยายามทำทุกวิถีทางที่จะพูดคุยหรือสื่อสารกับตัวลูกให้ได้ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะเขารักลูกมาก และอยากจะให้กำลังใจลูก อยากเห็นรอยยิ้มของลูก และที่สำคัญที่สุด เขาไม่อยากเห็นลูกร้องไห้และเสียใจเพราะเขาอีก แต่ไม่ว่าสามีของลูกจะพยายามสักเพียงใด ลูกก็ยังไม่สามารถรับรู้ในสิ่งที่เขาพยายามจะสื่อสารกับลูกได้เลยสามีของลูกรักลูกมาก เขาไม่อยากเห็นลูกร้องไห้ และเสียใจเพราะเขาอีก จนกระทั่ง อยู่มาวันหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่ตัวลูกล้มป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะความเศร้าโศกเสียใจในการจากไปของสามีของลูก ในตอนนั้น สามีของลูกก็ได้ติดตามตัวลูกมาอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนั้นด้วย และที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ความปรารถนาที่เขาอยากจะพูดคุยกับลูกก็เป็นจริง เพราะในขณะที่คุณหมอกำลังตรวจร่างกายของลูกอยู่นั้น ตัวลูกกำลังสะลึมสะลือหรืออยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น ซึ่งในตอนนั้นเอง ใจของลูกก็ได้ซ้อนสนิทอยู่กับกายมนุษย์ละเอียดหรือกายฝันของตัวลูกเอง ด้วยเหตุนี้ ลูกจึงได้มาพบกับผู้ชายในฝัน ซึ่งก็คือ กายละเอียดของสามีของลูก ที่คอยดูแลตัวลูกอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา นอกจากลูกจะได้เจอกับกายละเอียดของสามีของลูกแล้ว ตัวลูกกับเขายังสามารถสื่อสารกันได้อีกด้วยในช่วงที่ลูกนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ความปรารถนาที่สามีของลูกอยากจะพูดคุยกับลูกก็เป็นจริง ดังนั้น การที่ลูกเห็นสามีของลูกมาพูดมาคุยกับตัวลูก ในช่วงที่ลูกมีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นนั้นก็เป็นเรื่องจริง ซึ่งในตอนนั้น สามีของลูกก็ได้บอกความในใจของเขากับลูกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตัวเขาอยากจะคุยกับลูกมาก เพราะเขาอยากจะบอกกับลูกเหลือเกินว่า เขารักลูกมากๆ และเขายังไม่อยากที่จะจากลูกไปไหน เพราะเขาปรารถนาที่จะอยู่กับลูกอีกนานๆ แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้เขาไม่อยากเห็นลูกเสียใจ ไม่อยากเห็นลูกร้องไห้ เขาอยากเห็นลูกยิ้มและสดใสการที่ลูกเห็นสามีของลูกมาพูดมาคุยกับตัวลูก ในช่วงที่ลูกมีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นนั้นก็เป็นเรื่องจริง ซึ่งในความฝันนั้น ตัวลูกก็ได้บอกกับสามีของลูกไปว่า ลูกอยากไปอยู่กับเขาด้วย เมื่อกายละเอียดของสามีของลูกได้ยินกายละเอียดของลูกพูดเช่นนั้น ตัวเขาก็เข้าใจ แต่การที่ตัวลูกจะมาอยู่กับเขาในตอนนี้มันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะในขณะนั้น สามีของลูกรู้และตระหนักดีว่า ตัวเขากับตัวลูกได้อยู่กันคนละภพภูมิแล้ว กอปรกับตัวเขาก็เริ่มเข้าใจเรื่องบุญต่างๆที่ลูกได้เคยอธิบายให้เขาฟัง ดังนั้น สามีของลูกจึงอยากให้ลูกมีชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อที่ลูกจะได้เป็นตัวแทนของเขาในการสั่งสมบุญสร้างบารมีกับหมู่คณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุญต่างๆที่ตัวเขาปรารถนาจะทำให้สำเร็จ เช่น บุญสร้างวัด เป็นต้นสามีของลูกอยากให้ลูกมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อที่ลูกจะได้เป็น ตัวแทนของเขาในการสั่งสมบุญสร้างบารมีกับหมู่คณะโปรดติดตามตอนต่อไป...เทพบุตรหัวใจพระโพธิสัตว์
รับชมคลิปวิดีโอเมื่อวิบากกรรมติดตามมาส่งผล    
http://goo.gl/SMubK