Mobile Versionทบทวนฝันในฝัน วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2554จะเป็นอย่างไร เมื่อตายแล้ว ตอนที่ 3ปรโลกนิวส์... จะเป็นอย่างไร เมื่อตายแล้ว ตอนที่ 3ตอนต่อจาก จะเป็นอย่างไร เมื่อตายแล้ว ตอนที่ 2เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ทีแล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะความเดิมในตอนที่แล้ว เมื่อกำลังบุญทั้งหมดที่คุณพ่อของลูกได้สั่งสมเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบุญที่ท่านได้ทำบุญใส่บาตร, ทอดกฐินทอดผ้าป่า, บุญที่ท่านได้เข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรม และบุญสงเคราะห์โลก เป็นต้น กับบุญที่ท่านได้อนุญาตให้ลูกสาว คือ ตัวลูก มาสร้างบารมีเป็นอุบาสิกาอยู่เขตใน และบุญที่ตัวลูกได้มาชักชวนให้ท่านได้ทำ เช่น บุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว, บุญหล่อรูปเหมือนทองคำพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ พระผู้ปราบมาร เป็นต้น มารวมกับความรักความผูกพันในตัวคุณแม่ของลูก จึงส่งผลทำให้คุณพ่อของลูกต้องมาบังเกิดเป็นเทพบุตรภุมมเทวาระดับกลาง ที่มีวิมานไม้สองชั้นซ้อนอยู่กับบ้านของท่านในเมืองมนุษย์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ด้วยกำลังบุญทั้งหมดดังที่ได้กล่าวมาแล้ว สามารถที่จะส่งผลทำให้กายละเอียดของคุณพ่อของลูกไปบังเกิดในภพภูมิที่ดีกว่านี้ สูงกว่านี้ และละเอียดกว่านี้ได้ กล่าวคือ อย่างน้อยท่านก็จะได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรคนธรรพ์ระดับสูง ที่มีวิมานไม้สีทองขนาดใหญ่ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาได้เลยทีเดียวด้วยกำลังบุญทั้งหมดดังที่ได้กล่าวมาแล้ว อย่างน้อยคุณพ่อของลูกก็จะได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรคนธรรพ์ระดับสูงณ สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ได้เลยทีเดียวแต่ด้วยความรักความผูกพันในตัวคุณแม่ของลูกนี้เอง จึงทำให้บุญไม่สามารถส่งผลได้อย่างเต็มที่ เปรียบเหมือนกับการเทน้ำออกจากขวดน้ำที่มีปากขวดขนาดเล็ก น้ำจึงไม่สามารถที่จะไหลออกมาได้อย่างเต็มที่ ฉะนั้นด้วยเหตุนี้ จึงส่งผลทำให้คุณพ่อของลูกต้องมาบังเกิดเป็นเทพบุตรภุมมเทวาระดับกลาง ที่มีวิมานไม้สองชั้นซ้อนอยู่กับบ้านของท่านในเมืองมนุษย์ เหมือนอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้น ถ้าหากสักวันหนึ่งคุณพ่อของลูกสามารถตัดความรักความผูกพันนี้ไปได้ ท่านก็สามารถที่จะไปบังเกิดอยู่ในภพภูมิที่ดีขึ้นไปกว่านี้ได้อย่างแน่นอน
เปรียบเหมือนกับการเทน้ำออกจากขวดน้ำที่มีปากขวดขนาดเล็ก น้ำจึงไม่สามารถที่จะไหลออกมาได้อย่างเต็มที่เราคงจะจำกันได้ว่า ในคืนก่อนวันชำระร่างของคุณพ่อของลูก ในช่วงเวลาประมาณตีสอง ซึ่งเป็นช่วงที่ตัวลูกกำลังจัดเตรียมหนังสือธรรมะ เพื่อนำไปมอบให้กับท่านเจ้าภาพผู้มีบุญที่จะมาร่วมงานชำระร่างของคุณพ่อของลูกอยู่นั้น ลูกก็เริ่มได้กลิ่นธูปโชยมา ซึ่งในช่วงเวลานั้น กายละเอียดของคุณพ่อของลูกได้มาอยู่ใกล้ๆกับตัวลูกจริงๆ ส่วนว่า ทำไมกายละเอียดของคุณพ่อของลูกจะต้องแสดงให้ตัวลูกได้รู้ว่าท่านมาหาด้วยกลิ่นธูปหอม ทำไมไม่เป็นกลิ่นอื่นบ้าง เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์, กลิ่นกล้วย, กลิ่นส้ม เรื่องนี้ก็มีเหตุ แต่ก่อนที่เราจะมาศึกษากันในเรื่องนี้ เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของกลิ่นกันก่อน สำหรับกลิ่นของมนุษย์ทั่วๆไปนั้น ตอนเช้าก็อย่างหนึ่ง ตอนบ่ายก็อย่างหนึ่ง ตอนเย็นก็อีกอย่างหนึ่ง อยู่ในบ้านก็อย่างหนึ่ง กำลังจะออกจากบ้านก็อย่างหนึ่ง ออกนอกบ้านไปแล้วก็อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งกลิ่นของมนุษย์นี้ สามารถปรุงแต่งกันได้ตามเงินตรา เวลา และอารมณ์ของแต่ละบุคคล เมื่อกลิ่นของมนุษย์ยังสามารถแปรเปลี่ยนกันได้ แล้วทำไมกลิ่นของผู้ที่ละโลกไปแล้วจะแปรเปลี่ยนไม่ได้ ซึ่งกลิ่นของผู้ที่ละโลกไปแล้ว จะมีลักษณะคล้ายๆกับกลิ่นของมนุษย์ กล่าวคือ มีทั้งกลิ่นหอม, กลิ่นเหม็น และกลิ่นไม่หอมไม่เหม็น แต่กลิ่นของผู้ที่ละโลกไปแล้วจะปรุงแต่งอย่างมนุษย์ไม่ได้
สำหรับกลิ่นของมนุษย์ทั่วๆไปนั้น ตอนเช้าก็อย่างหนึ่ง ตอนบ่ายก็อย่างหนึ่ง ตอนเย็นก็อีกอย่างหนึ่งกรณีที่ 1. บุคคลที่ละโลกไปใหม่ๆ อีกทั้งบุญและบาปยังไม่ได้ช่องส่งผลให้ไปสู่สุคติหรือทุคติในทันที กลิ่นของกายละเอียดของบุคคลนั้นจะคล้ายกับกลิ่นของเขาในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ในเวลาต่อมา กลิ่นของกายละเอียดของแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันไปตามกำลังบุญและบาปที่บุคคลนั้นได้สั่งสมเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ กล่าวคือ ถ้าหากบุคคลที่สั่งสมบาปเอาไว้มากกว่าบุญ (แต่บาปยังไม่ถึงขั้นส่งผลให้บุคคลนั้นไปสู่ทุคติในทันที) กลิ่นของกายละเอียดของบุคคลนั้นจะมีกลิ่นเหม็นเหมือนกลิ่นของศพที่เพิ่งเสียชีวิตไปใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น ถ้าหากบุคคลนั้นประสบอุบัติเหตุรถชนจนเสียชีวิต บุคคลนั้นก็จะมีกลิ่นเหม็นเหมือนกลิ่นคาวเลือด หรือถ้าหากบุคคลนั้นเสียชีวิตโดยมีอาการปกติ บุคคลนั้นก็จะมีกลิ่นเหม็นเน่า เป็นต้น
ถ้าหากบุคคลนั้นประสบอุบัติเหตุรถชนจนเสียชีวิต บุคคลนั้นก็จะมีกลิ่นเหม็นเหมือนกลิ่นคาวเลือด
บางคนที่เคยถวายดอกบัวบูชาพระรัตนตรัย กลิ่นของกายละเอียดของบุคคลนั้นจะมีกลิ่นหอมคล้ายๆกับกลิ่นของดอกบัว1. บุคคลที่ไปบังเกิดในทุคติ กลิ่นกายของบุคคลนั้นจะมีกลิ่นเหม็น ซึ่งความเหม็นนั้นจะทวีความรุนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆตามกำลังบาปที่เขาได้เคยกระทำเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่
บุคคลที่ไปบังเกิดในทุคติ กลิ่นกายของบุคคลนั้นจะมีกลิ่นเหม็น2. บุคคลที่ไปบังเกิดในสุคติ กลิ่นกายของบุคคลนั้นจะมีกลิ่นหอม แต่ความหอมจะแตกต่างกันไปตามลำดับภพภูมิและกำลังบุญที่เขาได้เคยสั่งสมเอาไว้ ถ้าบุคคลนั้นมีกำลังบุญยังไม่มากนัก และได้ไปบังเกิดในภพภูมิที่ไม่สูงมาก กลิ่นกายของบุคคลนั้นจะมีกลิ่นหอมละมุนละไม และฟุ้งขจรขจายออกไปในระดับหนึ่ง แต่ถ้าบุคคลนั้นมีกำลังบุญมากๆ อีกทั้งยังได้ไปบังเกิดในภพภูมิที่สูงมากขึ้นไปเรื่อยๆ กลิ่นกายของบุคคลนั้นจะหอมละมุนละไมและสดชื่นมากขึ้นไปเรื่อยๆ (หอมแบบดูดจมูก ไม่ดีดจมูก) นอกจากกลิ่นกายของบุคคลนั้นจะหอมละมุนละไมแล้ว ความหอมยังขจรขจายออกไปได้ไกลมากขึ้นไปเรื่อยๆอีกด้วย ซึ่งกลิ่นหอมที่เกิดขึ้นนั้นจะแตกต่างกันไปตามกำลังบุญที่บุคคลนั้นได้เคยถวายไทยธรรมของหอมเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อกล่าวโดยสรุปแล้ว กลิ่นของผู้ที่ละโลกไปแล้วจะเกิดขึ้นด้วยกำลังบุญและบาปเป็นหลัก ส่วนว่าจะเป็นกลิ่นอะไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับบุพกรรมที่แต่ละคนได้เคยสั่งสมเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่นั่นเอง
บุคคลที่ไปบังเกิดในสุคติ กลิ่นกายของบุคคลนั้นจะมีกลิ่นหอมส่วนสาเหตุที่ทำให้กลิ่นของกายละเอียดของคุณพ่อของลูก มีกลิ่นคล้ายกับกลิ่นของธูปหอม ทั้งนี้ก็เป็นเพราะกำลังบุญของท่านซึ่งมีอยู่ในระดับหนึ่ง มารวมกับความคุ้นชินหรือจิตใต้สำนึกที่ท่านได้เคยได้ยินได้ฟังมาในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ว่า “ถ้าหากมีผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วมาหาผู้ใด ก็จะทำให้ผู้นั้นได้กลิ่นธูปหอม” อีกทั้งในช่วงเวลานั้น อายตนะของคุณพ่อของลูก (ซึ่งเป็นกายละเอียด) กับตัวลูก ตรงกันพอดี ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ลูกได้กลิ่นธูปหอมซึ่งเป็นกลิ่นที่มาจากกายละเอียดของคุณพ่อของลูกนั่นเอง
อายตนะของคุณพ่อของลูกกับตัวลูก ตรงกันพอดี จึงทำให้ลูกได้กลิ่นธูปหอมซึ่งเป็นกลิ่นที่มาจากกายละเอียดของคุณพ่อของลูกแท้ที่จริงแล้ว ในคืนก่อนวันชำระร่างของคุณพ่อของลูกนั้น กายละเอียดของท่านมีความตั้งใจที่จะมาเข้าฝันและบอกให้ลูกรู้ว่า ท่านอยากให้ลูกทำบุญแล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้ท่าน และอยากให้ลูกช่วยดูแลคุณแม่แทนท่านด้วย แต่เมื่อกายละเอียดของคุณพ่อของลูกได้ แวบมาหาลูกแล้ว ท่านก็รู้สึกแปลกใจว่า ทำไมลูกยังไม่ยอมหลับยอมนอนอีก ทำไมลูกจึงขยันถึงเพียงนี้ เพราะท่านได้เห็นลูกกำลังจัดเตรียมหนังสือธรรมะอย่างขะมักเขม้น เพื่อนำไปมอบให้กับท่านเจ้าภาพผู้มีบุญที่จะมาร่วมงานชำระร่างของท่านอยู่ ซึ่งก็ทำให้ท่านรู้สึกชื่นชมในความกตัญญูกตเวทีและความขยันขันแข็งของลูกเป็นอย่างยิ่ง
คุณพ่อของลูกมีความตั้งใจที่จะมาเข้าฝันและบอกให้ลูกรู้ว่า ท่านอยากให้ลูกทำบุญแล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้ท่าน และอยากให้ลูกช่วยดูแลคุณแม่แทนท่านด้วยหลังจากนั้น กายละเอียดของคุณพ่อของลูกก็พยายามที่จะสื่อสารให้ลูกรู้ว่าท่านได้มาหา ด้วยการไปยืนอยู่ใกล้ๆเพื่อให้ลูกได้เห็น แต่เมื่อท่านไปยืนอยู่ใกล้ๆตัวลูกได้สักระยะหนึ่งแล้ว ลูกก็ยังไม่เห็นท่านสักที ดังนั้น ท่านจึงเริ่มพูดกระซิบเบาๆที่ข้างหูของลูก แต่ลูกก็ไม่สามารถรับรู้ถึงเสียงกระซิบจากกายละเอียดของคุณพ่อของลูกได้ ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะในตอนนั้น ลูกกำลังใจจดใจจ่ออยู่กับการจัดเตรียมหนังสือธรรมะ และเดินไปเดินมาอยู่ภายในสำนักงาน ซึ่งกายละเอียดของคุณพ่อของลูกก็ได้เดินตามลูกไปด้วย และพยายามที่จะพูดจาสื่อสารกับลูกด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ แต่ด้วยความที่ลูกมีใจที่จดจ่ออยู่กับการจัดเตรียมหนังสือธรรมะอย่างสุดๆนี้เอง จึงทำให้ลูกไม่สามารถรับรู้ถึงการสื่อสารจากท่านได้เลย
ด้วยความที่ลูกมีใจที่จดจ่ออยู่กับการจัดเตรียมหนังสือธรรมะ จึงทำให้ลูกไม่สามารถรับรู้ถึงการสื่อสารจากคุณพ่อได้เลยเมื่อกายละเอียดของคุณพ่อของลูกเห็นว่า การพูดจาสื่อสารกับลูกไม่ได้ผล ท่านจึงใช้วิธีการใหม่ในการสื่อสารกับลูก ด้วยการเอามือมาสะกิดและสัมผัสที่ไหล่ของตัวลูก แต่ถึงกระนั้นลูกก็ยังไม่รู้ตัวอยู่ดี ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ในตอนนั้น กายละเอียดของคุณพ่อของลูกไม่สามารถที่จะสื่อสารกับลูกได้นั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะอายตนะของท่านกับตัวลูกยังปรับไม่ตรงกัน เนื่องจากในตอนนั้น ลูกกำลังมีใจจดจ่ออยู่กับงาน เมื่อใจของผู้ส่งสารกับผู้รับสารยังไม่ตรงกัน จึงทำให้การสื่อสารยังไม่ประสบความสำเร็จ
เมื่อใจของผู้ส่งสารกับผู้รับสารยังไม่ตรงกัน จึงทำให้การสื่อสารยังไม่ประสบความสำเร็จแต่เมื่อเวลาผ่านไป ในช่วงที่ลูกเดินไปเปิดประตูสำนักงานของสำนักศรัทธาภิบาล เพื่อออกไปเอาของนั้น ลูกก็เริ่มมีความรู้สึกง่วงๆ ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้จิตของลูกเริ่มตกอยู่ในภวังค์ กอปรกับในตอนนั้น ลูกก็นึกถึงคุณพ่อของลูกอยู่พอดี เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้อายตนะของท่าน (ซึ่งเป็นกายละเอียด) กับตัวลูกได้ปรับตรงกันพอดี เมื่ออายตนะของคุณพ่อของลูกกับตัวลูกปรับตรงกันแล้ว ลูกจึงสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นธูปหอมซึ่งเป็นกลิ่นที่มาจากกายละเอียดของคุณพ่อของลูกได้
เมื่ออายตนะของคุณพ่อของลูกกับตัวลูกปรับตรงกันแล้ว ลูกจึงสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นธูปหอมซึ่งเป็นกลิ่นที่มาจากกายละเอียดของท่านได้จากเรื่องราวที่ได้กล่าวถึงเรื่องกลิ่นมาทั้งหมดนี้ เราจะพบว่า “เราสามารถที่จะออกแบบกลิ่นกายของตัวเรา ทั้งตอนที่เราเป็นและตอนที่เราตายได้ ซึ่งการออกแบบกลิ่นนั้นก็ไม่ได้ยากอะไรเลย เพียงแค่เราหมั่นสั่งสมบุญทุกๆบุญตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ว่าจะเป็นการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา เป็นต้น ถ้าเราทำได้เช่นนี้ กลิ่นกายของเราก็จะสดใสโสภา และเป็นที่ชื่นชมของเหล่ามนุษย์และเทวาทั้งหลาย”
เพียงแค่เราหมั่นสั่งสมบุญทุกๆบุญตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากลิ่นกายของเราก็จะสดใสโสภา และเป็นที่ชื่นชมของเหล่ามนุษย์และเทวาทั้งหลาย
http://goo.gl/o1064
พิมพ์บทความนี้
