Mobile Versionทบทวนฝันในฝัน วันที่ 4 กันยายน พ.ศ.2555
ปรโลกนิวส์ ตอน โยมพ่อรังสรรค์ ตายแล้วไปไหน
ปรโลกนิวส์ ตอน โยมพ่อรังสรรค์ ตายแล้วไปไหน ตอนที่ 2
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
คำตอบ....ต่อจากตอนที่แล้ว.....นอกจากโยมพ่อของลูกจะมีวิบากกรรมปาณาติบาต ที่ตัวท่านได้เคยฆ่าสัตว์เพื่อนำไปขายและนำมาทำเป็นอาหารอยู่เป็นประจำในหลายภพชาติหลายชาติก่อนๆ แล้ว ตัวท่านก็ยังมีวิบากกรรมตระหนี่และเหนียวหนี้อีกวิบากกรรมหนึ่ง ที่ได้ช่องตามมาส่งผลร่วมกันในภพชาติปัจจุบันนี้ด้วย
ในภพชาติที่ผ่านๆ มาได้เกิดเป็นกุลบุตรรูปงามในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง
เรื่องก็มีอยู่ว่าในภพชาติที่ผ่านๆ มา ซึ่งเป็นคนละภพชาติกันกับภพชาติที่ตัวท่านได้ทำกรรมปาณาติบาต โยมพ่อของลูกได้เกิดเป็น “ กุลบุตรรูปงาม ” อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะปานกลางและเมื่อโยมพ่อของลูก (ในภพชาตินั้น) เติบใหญ่ขึ้น ตัวท่านก็เกิดความคิดอยากที่จะลงทุนทำธุรกิจค้าขายด้วยตัวของท่านเอง
โยมพ่อในภพชาตินั้ได้ไปหยิบยืมทุนรอนจากคนที่ตัวท่านรู้จักคุ้นเคยเพื่อนำมาลงทุนทำธุรกิจ
แต่ด้วยความที่โยมพ่อของลูก (ในภพชาตินั้น) ไม่มีเงินทุนสำรองที่จะนำมาลงทุนทำธุรกิจในครั้งนี้ ด้วยเหตุนี้เองตัวท่านจึงได้ไปหยิบยืมทุนรอนจากคนที่ตัวท่านรู้จักคุ้นเคยกัน เพื่อนำเงินก้อนนี้มาลงทุนทำธุรกิจค้าขายของตัวท่าน ซึ่งในตอนที่โยมพ่อของลูก (ในภพชาตินั้น)ไปหยิบยืมเงินจากคนที่ตัวท่านรู้จักคุ้นเคยกันนั้น ตัวท่านก็ให้สัญญาไปอย่างดิบดีในทำนองที่ว่า“ ถ้าหากธุรกิจของตัวท่านไปได้สวยและมีผลกำไรงอกเงยขึ้นมาแล้ว ตัวท่านก็จะรีบเอาเงินทั้งหมดมาใช้คืนให้โดยเร็วที่สุด ” เมื่อคนที่รู้จักคุ้นเคยกันของโยมพ่อของลูกเห็นโยมพ่อของลูก (ในภพชาตินั้น) ให้สัญญาอย่างดิบดีเช่นนี้แล้ว ตัวเขาก็เลยให้โยมพ่อของลูกยืมเงินไปลงทุนด้วยความรู้สึกที่ไว้วางใจในฐานะที่รู้จักคุ้นเคยกัน
ในเวลาต่อมาโยมพ่อได้กลายเป็นเศรษฐีที่มีฐานะร่ำรวยมากๆคนหนึ่งของเมืองนั้นเลยทีเดียว
ซึ่งหลังจากที่โยมพ่อของลูก (ในภพชาตินั้น) ได้นำเงินกู้ก้อนนั้นมาลงทุนทำธุรกิจค้าขายของตัวท่านเองแล้ว ตัวท่านก็ได้ใช้ความรู้ความสามารถมาบริหารจัดการธุรกิจของท่านได้เป็นอย่างดี จนทำให้ในเวลาต่อมาธุรกิจของท่านก็ได้เจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีผลกำไรงอกเงยขึ้นมาอย่างมากมายอีกด้วย แล้วในที่สุดโยมพ่อของลูก (ในภพชาตินั้น) ก็ได้กลายเป็นเศรษฐีที่มีฐานะร่ำรวยมากๆ คนหนึ่งของเมืองนั้นเลยทีเดียว
แม้จะกลายเป็นเศรษฐีที่มีฐานะร่ำรวยมากๆ แล้วแต่ท่านก็ยังไม่ยอมเอาเงินไปใช้คืนให้แก่เจ้าหนี้
แม้ว่าโยมพ่อของลูก (ในภพชาตินั้น)จะกลายเป็นเศรษฐีที่มีฐานะร่ำรวยมากๆ แล้วก็ตาม แต่ตัวท่านก็ยังไม่ยอมเอาเงินไปใช้คืนให้แก่เจ้าหนี้ที่เป็นคนรู้จักคุ้นเคยกัน ที่เขาให้ตัวท่านหยิบยืมเงินมาลงทุนในตอนแรก ที่เป็นเช่นนี้ก็ไม่ใช่เกิดจากการที่ตัวท่านลืมสัญญาที่เคยให้ไว้กับเจ้าหนี้ ว่าถ้าหากธุรกิจของท่านไปได้สวยและมีผลกำไรงอกเงยขึ้นมาแล้ว ตัวท่านก็จะรีบเอาเงินทั้งหมดมาใช้คืนให้เร็วที่สุด แต่ทั้งนี้ก็เกิดจากความที่ตัวท่านรู้สึกเสียดายทรัพย์ก้อนนี้ เพราะอยากที่จะเอาไปลงทุนทำธุรกิจที่กำลังไปได้ด้วยดีต่อ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ตัวท่าน “ได้แกล้งทำเป็นเนียน ขอลืมไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีกำหนด แต่อย่างไรก็ตามตัวท่านก็จะเอาทรัพย์มาใช้คืนอย่างแน่นอน เมื่อถึงวันที่ตัวท่านอยากที่จะเอามาคืน
ทางฝ่ายเจ้าหนี้ เกิดความรู้สึกเป็นทุกข์ใจแบบกินไม่ได้ นอนไม่หลับจึงต้องมาทำหน้าที่เตือนความไม่จำกับโยมพ่อของลูก
และเมื่อโยมพ่อของลูก (ในภพชาตินั้น) ได้แกล้งทำเป็นลืมหนี้ที่ตัวท่านเองได้เคยก่อเอาไว้เช่นนั้นอย่างเนียน จึงทำให้ทางฝ่ายเจ้าหนี้ เกิดความรู้สึกเป็นทุกข์ใจแบบกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ขับถ่ายไม่เป็นเวลา ไม่เพียงแค่นั้น ตัวเขายังเกิดความคิดวนเวียนอยู่ภายในใจอยู่ตลอดเวลาอีกด้วยว่า “ ตัวเขาจะทวงหนี้โยมพ่อของลูกในภพชาตินั้นอย่างไรดี ที่จะทำให้ไม่เกิดความรู้สึกที่ผิดใจกัน เพราะโยมพ่อของลูกก็เป็นคนที่ตัวเขารู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี ” เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้ทางฝ่ายเจ้าหนี้ ที่เป็นคนรู้จักคุ้นเคยกัน เกิดความรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก ที่จะต้องมาทำหน้าที่เตือนความไม่จำกับโยมพ่อของลูก (ในภพชาตินั้น)
โยมพ่อจะใช้สารพัดวิธีในการที่จะผัดผ่อนการชำระหนี้ไปให้ยาวนานที่สุด
และทันทีที่โยมพ่อของลูก (ในภพชาตินั้น) ได้เห็นหน้าเจ้าหนี้เท่านั้น ความทรงจำของท่านก็ได้กลับขึ้นมาในทันที จากนั้นตัวท่านก็จะใช้สารพัดวิธีในการที่จะผัดผ่อนการชำระหนี้ไปให้ยาวนานที่สุด เช่น รับปากว่าจะคืนแต่ก็ยังไม่คืนเหมือนเดิม หรืออ้างว่าปวดหัว ตัวร้อน ปวดท้อง เป็นนั่นเป็นนี่ เป็นต้น
โยมพ่อใช้วิธีขอผ่อนชำระแบบเป็นงวดๆ ทีละน้อยซึ่งกว่าจะผ่อนครบตามจำนวนก็เป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากๆ
แต่เมื่อโยมพ่อของลูก (ในภพชาตินั้น) ถูกทางฝ่ายเจ้าหนี้ มาตามทวงหนี้อย่างไม่ลดละเช่นนั้น ตัวท่านก็เลยจำต้องยอมที่จะต้องจ่ายเงินคืนให้กับเจ้าหนี้ไปอย่างเสียไม่ได้ โดยตัวท่านก็ยังยึกยักไม่ยอมจ่ายเงินคืนทั้งหมด ด้วยการใช้วิธีขอผ่อนชำระแบบเป็นงวดๆ ทีละน้อย ทีละน้อย ซึ่งกว่าที่โยมพ่อของลูกจะผ่อนชำระครบตามจำนวนทั้งหมดนั้นก็เป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากๆ เลยทีเดียวในเวลาที่มีอาหารเหลือแทแต่ตัวท่านกลับนำอาหารเหล่านี้ไปให้พวกข้าทาสบริวารของท่านรับประทาน
นอกจากโยมพ่อของลูก (ในภพชาตินั้น) จะเป็นที่คนเหนียวหนี้แล้ว ตัวท่านยังเป็นคนประหยัดมัธยัสถ์อย่างเล็กน้อยปานกลางถึงมากมายจนถึงขั้นตระหนี่ถี่เหนียวอีกด้วย คือในเวลาที่ตัวท่านมีอาหารเหลือและมันเริ่มจะบูดแล้ว แทนที่ตัวท่านจะนำไปทิ้ง แต่ตัวท่านกลับนำอาหารเหล่านี้ไปให้พวกข้าทาสบริวารของท่านรับประทาน ซึ่งทันทีที่พวกข้าทาสบริวารของโยมพ่อของลูก (ในภพชาตินั้น) ได้เห็นอาหารดังกล่าวแล้ว พวกเขาก็รู้ทั้งรู้ว่า “อาหารเหล่านี้มันเริ่มจะไม่ดี หรือมันเริ่มจะบูดแล้ว ” แต่ถึงอย่างไรก็ตามแม้พวกเขาจะรู้ทั้งรู้ แต่ด้วยความที่พวกเขากลัวและเกรงว่าเจ้านาย (หรือโยมพ่อของลูกในภพชาตินั้น) จะไม่พอใจและจะดุเอา ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้พวกเขาจำต้องกลืนอาหาร เข้าไปด้วยความรู้สึกที่พะอืดพะอมและขื่นขมระทมทรวงในอย่างสุดๆ จนบางคนถึงขั้นต้องแอบไปอาเจียน ทิ้งแบบลับๆ เลยทีเดียว
ด้วยวิบากกรรมตระหนี่รวมกับวิบากกรรมเหนียวหนี้ได้ช่องตามมาส่งผลร่วมกับวิบากกรรมปาณาติบาต
ด้วยวิบากกรรมตระหนี่ที่โยมพ่อของลูกชอบเอาอาหารที่ไม่ดีที่เริ่มจะบูดแล้วไปให้พวกข้าทาสบริวารของท่านรับประทานจนทำให้พวกข้าทาสบริวารเกิดความทุกข์ใจเมื่อมารวมกับวิบากกรรมเหนียวหนี้หรือยืดการจ่ายหนี้ออกไป จนทำให้เจ้าหนี้เกิดความทุกข์ใจในภพชาติที่ผ่านๆ มานี้เอง มันก็ได้กลายเป็นวิบากกรรมที่ติดตามตัวท่านนับตั้งแต่ภพชาตินั้นเรื่อยมาจนกระทั่งมาถึงในภพชาติปัจจุบัน และเมื่อวิบากกรรมดังกล่าวได้ช่องตามมาส่งผลร่วมกับ วิบากกรรมปาณาติบาตที่ตัวท่านได้เคยฆ่าสัตว์เพื่อนำไปขายแล้วก็นำมาทำเป็นอาหารอยู่เป็นประจำในหลายภพชาติหลายชาติก่อนๆ จึงส่งผลทำให้ในภพชาติปัจจุบันนี้โยมพ่อของลูกต้องมาถูกสอดสายระโยงระยางไปทั่วทั้งตัว แล้วก็เสียชีวิตด้วยโรคปอดติดเชื้ออย่างรุนแรงเหมือนอย่างที่เป็นอยู่นี้นั่นเองคำถามข้อที่ 3 เหตุใดบางคนจึงละสังขารอย่างสงบเหมือนหลับไป แต่บางคนกลับต้องมีความเจ็บปวดทุกข์ทรมานเป็นอย่างมากก่อนที่จะเสียชีวิตครับ
สาเหตุที่ทำให้แต่ละคนมีอาการเจ็บปวดก่อนละสังขารไม่เหมือนกันก็เป็นเพราะวิบากกรรมที่ตามมาส่งผลหลากหลายแตกต่างกันไปคำตอบ.....สำหรับสาเหตุที่ทำให้แต่ละคนมีอาการเจ็บปวดก่อนที่จะละสังขารไม่เหมือนกันนั้นทั้งนี้ก็เป็นเพราะในช่วงก่อนที่จะเสียชีวิตแต่ละคนมีวิบากกรรมที่ตามมาส่งผลหลากหลายแตกต่างกันไป ซึ่งถ้าหากบุคคลใดไม่มีวิบากกรรมฝ่ายบาปอกุศลใดๆ ได้ช่องตามมาส่งผลในช่วงก่อนที่จะเสียชีวิตเลย บุคคลนั้นก็จะเสียชีวิตด้วยอาการที่สงบคล้ายๆ กับคนที่นอนหลับไปเฉยๆ เท่านั้น
หากบุคคลเคยฆ่าสัตว์ให้ตายอย่างเฉียบพลันอยู่เป็นประจำก็จะส่งผลทำให้บุคคลนั้นต้องมาเสียชีวิตแบบเฉียบพลันเช่นเดียวกัน
แต่ถ้าหากบุคคลใดมีวิบากกรรมฝ่ายบาปอกุศลได้ช่องตามมาส่งผลในช่วงก่อนที่จะเสียชีวิตและวิบากกรรมนั้นก็ยังคงมีกำลังที่แรงอยู่ ด้วยอำนาจแห่งวิบากกรรมนั้นก็จะส่งผลทำให้บุคคลนั้นต้องเสียชีวิตด้วยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าบุคคลนั้นเคยกระทำกรรมดังกล่าวมาด้วยวิธีการอย่างไร
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากบุคคลนั้นเคยฆ่าสัตว์ให้ตายอย่างเฉียบพลันอยู่เป็นประจำด้วยวิบากกรรมปาณาติบาตดังกล่าวนี้ก็จะส่งผลทำให้บุคคลนั้นต้องมาเสียชีวิตแบบเฉียบพลันเช่นเดียวกัน เช่น ประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำเสียชีวิต หรือหัวใจวายแบบเฉียบพลัน เป็นต้น แต่ถ้าหากบุคคลนั้นเคยฆ่าสัตว์ให้ตายอย่างทรมานอยู่เป็นประจำด้วยวิบากกรรมปาณาติบาตดังกล่าวนี้ ก็จะส่งผลทำให้บุคคลนั้นต้องมีอาการเจ็บปวดทุกข์ทรมานก่อนที่จะเสียชีวิต
ส่วนว่าจะต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับวิบากกรรม
ส่วนว่าจะต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานมากน้อยขนาดไหนนั้นทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกำลังของวิบากกรรมที่ได้ช่องตามมาส่งผล กล่าวคือถ้าหากวิบากกรรมนั้นยังคงมีกำลังที่รุนแรงและได้ช่องตามมาส่งผลอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง ก็จะส่งผลทำให้บุคคลนั้นได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างหนักก่อนที่จะเสียชีวิต แต่ถ้าหากวิบากกรรมนั้นมีกำลังที่เบาบางเจือจางลงไปบ้างแล้ว ก็จะส่งผลทำให้บุคคลนั้นได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานลดน้อยถอยลงไปตามลำดับหากบุคคลได้เคยสั่งสมบุญเอาไว้อย่างเต็มที่ผลแห่งบุญก็ช่วยตัดรอนวิบากกรรมจากเบาก็จะหาย จากร้ายก็จะกลายเป็นดี
แต่ถ้าหากบุคคลนั้นได้เคยสั่งสมบุญเอาไว้อย่างเต็มที่เต็มกำลังและผลแห่งบุญนั้นก็ได้ช่องมาช่วยตัดรอนวิบากกรรมดังกล่าวพอดี ก็จะเป็นผลทำให้อาการเจ็บปวดทุกข์ทรมานของบุคคลนั้นทุเลาเบาบางลงไปได้อีกมาก จากหนักก็จะเป็นเบา จากเบาก็จะหาย จากร้ายก็จะกลายเป็นดีนั่นเองส่วนว่า เรื่องราวต่อไป จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไรและจะน่าตื่นเต้นมากน้อยขนาดไหนนั้นเราก็คงจะต้องมาติดตามรับฟังกันต่อในตอนต่อไป
กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)
บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป
"วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)
http://goo.gl/9RbZk
พิมพ์บทความนี้
