ยุโรปเหนือคะแนน"ความสุข"สูงสุด ปท.โกงน้อย"แชมป์"ทั้งรวย-แฮปปี้



"โออีซีดี"ร่วมกับหลายองค์กรค้นหามาตรการใหม่ที่จะวัด"ความเป็นอยู่ที่ดี"
หรือ"ดัชนีความสุข" แทนระบบ"จีดีพี" นักเศรษฐศาสตร์ชี้"จีดีพี"ไม่ได้วัดความเป็นอยู่ที่ดี ผู้นำฝรั่งเศสเล็งดึง 2 นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลสร้างมาตรการใหม่ ขณะที่ผลวิจัยพบว่าคนในยุโรปเหนือได้คะแนนความสุขสูงที่สุดแถมยังรวยที่สุด เพราะคอร์รัปชั่นน้อย

เอเอฟพีรายงานว่า หลายประเทศทั่วโลกตั้งแต่ภูฐานยันสหรัฐอเมริกา กำลังค้นหากุญแจสำคัญเพื่อใช้วัดดัชนีความสุข เช่น นายนิโคลัส ซาร์โกซี่ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ก็กำลังพูดถึงการสร้างดัชนีใหม่เพื่อวัดการเติบโตและความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับฝรั่งเศส ซึ่งแนวทางนี้เป็นสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเชื่อว่าจะเป็นผู้จัดรูปร่างความศิวิไลซ์และ
ประชาธิปไตยในศตวรรษที่ 21

รายงานข่าวเปิดเผยว่า นายซาร์โกซี่ได้เสนอที่จะให้นายโจเซฟ สติกลิตช์ อดีตรองประธานธนาคารโลกและนักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลชาวอเมริกันและ
นายอมาตยา เซ็น นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลชาวอินเดีย เป็นผู้หาวิธีสร้างดัชนี "คุณภาพชีวิต" เพราะเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงมาตรการในการวัดความเติบโต

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ฝรั่งเศสเป็น 1 ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลกที่กำลังทำงานเพื่อหาตัวชี้วัด "ความสุข" เพื่อใช้วัดความเติบโตของประเทศแทนมาตรการเดิม เพราะมาตรการปัจจุบันที่ใช้กันอยู่ที่เรียกผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งคำนวณจากปริมาณการผลิตสินค้าและบริการนั้นสร้างผลเสียคือทำลายสิ่งแวดล้อม,
ก่อให้เกิดปัญหาคอร์รัปชั่น,ทำลายความไว้วางใจที่มีต่อรัฐสภาและกฎหมาย,ทำลายชีวิตครอบครัว ซึ่งนายสติกลิตซ์กล่าวว่า บรรดานักเศรษฐศาสตร์รู้สึกมานานแล้วว่าจีดีพีไม่ใช่มาตรการที่ดี
เพราะไม่ได้วัดความเปลี่ยนแปลงของความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

รายงานข่าวเปิดเผยว่า องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม 30 ประเทศ ได้ทำงานในเรื่องนี้มาต่อเนื่อง 3 ปีแล้ว ซึ่งมีการประชุมไปครั้งแรกเมื่อปลายปี 2004 ซึ่งมี 43 ชาติเข้าร่วม ต่อมามีการประชุมครั้งที่สองเมื่อกลางปีที่แล้ว โดยโออีซีดีจัดร่วมกับธนาคารโลก,สหประชาชาติ,คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป (อียู) และองค์การที่ประชุมอิสลาม ซึ่งีตัวแทนจาก 130 ประเทศเข้าประชุม มีผลสรุปร่วมกันว่าประชาชนควรมีส่วนร่วมในการหามาตรการที่ใช้วัดความก้าวหน้าของประเทศ
ที่พวกเขาเห็นว่ามีความสำคัญ ด้วยวิธีการนี้จะทำให้ข้อมูลสถิติทางเศรษฐกิจต่างๆ มีความหมายและเป็นที่ยอมรับของสาธารณะ และทำให้สาธารณะรู้สึกว่าตัวเลขเหล่านี้เกี่ยวข้องและเป็นเรื่องใกล้ตัวของพวกเขา

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ตามโครงการวิจัยของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในอังกฤษ นำโดย ดร.ลูอิซ่า คอร์ราโด ระบุว่า ผลการสำรวจประชาชน 2 หมื่นคนใน 15 ประเทศของอียูในหัวข้อเกี่ยวกับความพอใจในชีวิต,ความไว้วางใจในสถาบันรัฐสภา,
ตำรวจ,ระบบกฎหมายไปจนถึงการเห็นแก่ประโยชน์ของผู้อื่น พบว่าชาวเดนมาร์กและยุโรปเหนือ ได้คะแนนความสุขสูงที่สุด ส่วนประชาชนในประเทศยุโรปใต้ได้คะแนนต่ำสุด

ดร.คอร์ราโดตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หลายประเทศที่ทั้งรวยที่สุดและมีความสุขที่สุด ได้แก่ ประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย (เดนมาร์ก,สวีเดน,นอร์เวย์ ซึ่งอยู่ในซีกยุโรปเหนือ) ลักเซมเบิร์ก,เนเธอร์แลนด์ ล้วนได้คะแนนด้านธรรมาภิบาลสูงสุดตามการจัดอันดับของธนาคารโลก ส่วนประเทศในอียูที่ได้คะแนนความสุขต่ำที่สุดก็มักได้คะแนนความสุขต่ำที่สุดเช่นกัน โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียน

"แรงผลักดันอันหนึ่งของความเป็นอยู่ที่ดีก็คือระดับความไว้วางใจที่เชื่อมโยงกันระหว่างปัจเจกบุคคล,
สถาบันต่างๆ และสังคม ยกตัวอย่างเช่นประเทศซึ่งมีระดับการคอร์รัปชั่นต่ำก็มักจะมีระดับความเป็นอยู่ดีสูงที่สุด" ดร.คอร์ราโดกล่าว
 
 
 
 
ที่มา- 
 
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง