ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
หลายปีที่ผ่านมาภาษาเขียนของมนุษย์ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากอินเทอร์เน็ตก้าวขึ้นมาเป็นช่องทางสื่อสารใหม่ ช่วยให้คนทั่วโลกได้อ่านเรื่องจากเว็บไซต์ เว็บบล็อก และคุยกันผ่านโปรแกรมแชต ขณะที่ปากการยังคงเป็นประดิษฐกรรมที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยในรอบหลายสิบปี
บริษัทฟิลิปส์ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะปรับปรุงโฉมปากกาให้ทันตามยุคสมัย 
หรืออาจจะเรียกได้ว่า เป็นปากกาที่ปฏิวัติรูปแบบการใช้งานอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ปากกาไม่ว่าราคาถูกหรือแพงแค่ไหนก็ใช้เขียน หรือวาดรูปได้เหมือนกัน 
แต่ปากกาฟิลิปส์สามารถบันทึกอารมณ์ของผู้เขียนขณะจดบันทึกได้ด้วย 
ปากกาของฟิลิปส์มีเซ็นเซอร์อยู่ที่ด้ามคอยตรวจจับสัญญาณจากร่างกายของผู้ใช้ เช่น 
อัตราเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต อุณหภูมิ และแรงนิ้วกดปากกา 
ข้อมูลเหล่านี้บอกภาวะอารมณ์ของผู้เขียนได้ว่า รู้สึกตื่นเต้น โกรธเคือง แจ่มใส หรือสงบเยือกเย็น
ปากกาบันทึกอารมณ์ด้ามนี้ยังมีกลไกที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบการลากเส้นของปากกา 
เปลี่ยนสีหมึกและหัวปากกา โดยชิพที่ฝังอยู่ในตัวปากกาจะพิจารณาเองว่า 
สภาวะอารมณ์ของผู้เขียนตอนนั้นเป็นอย่างไรแล้วสั่งให้เปลี่ยนสีหมึกและรูปแบบของเส้นอัตโนมัติ 
เมื่อเขียนจบ ลายมือที่บันทึกไว้บนสมุดเป็นเสมือนบันทึกที่บอกภาวะอารมณ์ของผู้เขียน
"โดยทั่วไปแล้ว ลายเซ็นมักไม่เปลี่ยนแปลง แต่บางครั้งลายเซ็นแสดงถึงความกระตือรือร้น หรือรู้สึกลังเล 
ถ้าลายเซ็นบอกภาวะอารมณ์ตอนนั้นได้ จะเป็นประโยชน์เชิงบันทึกประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง" 
 
เจ้าหน้าที่ฟิลิปส์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หากผู้ใช้ไม่ต้องการแสดงความรู้สึกของตัวเองให้ปากการู้ใจรู้
ก็สามารถปิดสวิตช์อ่านอารมณ์ได้ หรือเปลี่ยนมาใช้เป็นปากกาลูกลื่น
ในคำร้องขอจดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ฟิลิปส์ กล่าวว่า การแสดงความรู้สึกส่วนตัวเป็นความจำเป็น
ที่สำคัญอย่างยิ่งของมนุษย์ 
แต่มักถูกมองข้ามอยู่เสมอ หรือเมื่อแสดงออกไปแล้วแต่สื่อความไม่ได้อย่างที่อยากบอก 
ปากกา และภาษาเขียนเป็นเครื่องมือแสดงออกทางความรู้สึกอย่างหนึ่ง 
แต่ยังมีจุดอ่อนที่ไม่สามารถบอกอารมณ์ผู้เขียนได้ 
อย่างดีทำได้แค่ใช้สัญญลักษณ์ หน้ายิ้ม หน้าบึ้ง ร้องไห้ เวลา "แชต" กับคู่สนทนาออนไลน์ 
ต่างจากปากกาฟิลิปส์บอกอารมณ์คนเขียนได้อย่างลึกซึ้ง
 
 
 
 
 
ที่มา-
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง