อินเดีย:  อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอินเดียเตรียมสร้างหนังจากชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างโดยอ้างอิงจากหนังสือ ทางสายเก่า เมฆสีขาว (Old Path, White Clouds)” ซึ่งเขียนโดยพระภิกษุสงฆ์ชาวเวียตนาม Thich Nhat Hanh  ซึ่งดูเหมือนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะลงทุนมากที่สุดในบอลลีวู๊ด (Bollywood) เมื่อนับถึงปัจจุบันนี้

 

ภาพยนตร์ พระพุทธเจ้า (Buddha)” กำกับโดยนักสร้างภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัล Ashutosh Gowariker ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้จะสร้างในช่วงที่เจ้าชายสิทธัตถะเริ่มออกเดินทางเพื่อค้นหาหนทางตรัสรู้ธรรมและจะถ่ายทำที่ภูเขาหิมาลัย

 

นี่เป็นเรื่องที่เปิดเผยมานาน 2,500 ปี ในช่วงอินเดียโบราณเมื่อคุณมีทาสรับใช้ คุณมีความโหดร้ายเพื่อที่จะสร้างให้เห็นสิ่งนั้นเป็นโครงการที่เสียค่าใช้จ่ายเยอะมาก นาย Gowariker กล่าว

 

มีนักท่องเที่ยวนับล้านมาเที่ยวที่อินเดียทุกๆ ปีเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา  พวกเขาส่วนใหญ่รู้สึกว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นความจริงสากลและยังมีความสำคัญมากในปัจจุบัน

 

Tsering นักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ กล่าวว่า โลกปัจจุบันนี้ พระพุทธศาสนานั้นเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมากๆ ทั้งนี้เพราะการก่อการร้าย  การแข่งขันและปัญหาสิ่งแวดล้อม  พระพุทธศาสนาสอนให้เรามีความพอเพียง

 

รัฐบาลของอินเดียกำลังโปรโมตการท่องเที่ยวของชาวพุทธโดยเน้นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าเสด็จไป  สำหรับภาพยนตร์เกี่ยวกับพุทธประวัติในตอนนี้ ผู้กำกับหวังว่าจะมีคนสนใจไปค้นหา(และพบ)สัจธรรมของพระพุทธองค์มากยิ่งขึ้น

 

Gowariker กล่าวว่า ผมคิดว่าทัศนวิสัยของพระพุทธเจ้านั้นถึงขั้นระดับโลก  มีหลายๆ ประเทศที่สนใจเรียนพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งและเรียนเกี่ยวกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าเป็นอยู่ทั้งหมด

 

ภาพยนตร์มีต้นทุนเกือบ 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงที่สุดเท่าที่บอลลีวู๊ดเคยมีมา

 

ภาพยนตร์เรื่องก่อนๆ ของ Gowariker เองเคยได้รับการบันทึกไว้ในเรื่องของงบประมาณในการสร้าง  การเสี่ยงในการกำกับครั้งแรกของเขาในเรื่อง ลากาน (Lagaan)” ซึ่งเป็นเรื่องที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Academy Award ในปี ค.ศ. 2001 ก็สร้างขึ้นมาด้วยต้นทุนเกือบ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

ภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งของเขาคือ โจธา อัคบาร์ (Jodha Akbar)” ซึ่งสร้างอิงตามชีวประวัติของจักรพรรดิชาวมองโกลเลีย  พระนามว่า อัคบาร์ (Akbar) ก็เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่ลงทุนสร้างที่แพงที่สุดเท่าที่เคยมีมาเมื่อปีที่แล้ว

 
 
ที่มา-http://www.channelnewsasia.com/stories/southasia/view/435740/1/.html
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง