กระทรวงมหาดไทยออกกฎเข้มห้ามขึ้นกระบะสาดน้ำเล่นสงกรานต์

DMC NEWS

 

กระทรวงมหาดไทยออกกฎเข้มห้ามขึ้นกระบะสาดน้ำเล่นสงกรานต์   

 

 

 

 พลตำรวจโทชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการป้องกันและลดอุบัติเหตุ

 

  

     พลตำรวจโทชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2556 ว่า ช่วงเทศกาลนี้เป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงกว่าปกติ ซึ่งทางนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในการเดินทางของประชาชน ได้กำชับให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติงานอย่างเข้มงวดในช่วงวันสงกรานต์ภายใต้แนวคิด "สงกรานต์เป็นสุขทุกคนปลอดภัยร่วมใจรักษาวัฒนธรรม" มีเป้าหมายลดจำนวนครั้ง จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บให้น้อยที่สุด

 

     ในระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2556 เพื่อมุ่งหวังความปลอดภัยทางท้องถนนแก่ประชาชนในทุกพื้นที่ นอกจากนี้รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย กล่าวอีกว่า ในปีนี้จะมอบหมายให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดออกนโยบายวางมาตรการและแนวปฏิบัติ  เพื่อลดอุบัติเหตุในแต่ละท้องที่ และต้องมีการบังคับใช้กฎหมายในการขับรถเร็วเมาแล้วขับ  บรรทุกเกินกำหนด อย่างเด็ดขาด ที่สำคัญในแผนผู้ว่าจังหวัดต้องจัดโซนนิ่งในการเล่นน้ำสงกรานต์ และห้ามให้รถกระบะบรรทุกถังน้ำสาดตามท้องถนน เนื่องจากการกระทำเช่นนี้ เป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต 

  

 ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.)

และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมวางมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ

 

  

     นอกจากนี้ มีความผิดตามกฎหมายอาญา ฐานสร้างความเดือดร้อนหรือประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตายสำหรับการกำหนดโซนนิ่งนั้น พลตำรวจโทชัจจ์ กุลดิลก กล่าวว่า ให้ถือเป็นดุลยพินิจของผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากแต่ละพื้นในแต่ละจังหวัด จะมีสภาพพื้นที่และมีเมืองท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน เพื่อรักษาและดำรงวัฒนธรรมในเทศกาลสงกรานต์ อย่างไรก็ตาม ตนขอย้ำว่า ผู้ขับขี่ที่ดื่มสุราจะมีความผิดแล้ว ผู้โดยสารที่ดื่มสุราขณะเดินทางก็มีความผิดด้วยเช่นกัน โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้น      ประกอบไปด้วย 3 ปัจจัย คือ

 

1.ลักษณะทางกายภาพของถนนหนทาง มาตรฐานการก่อสร้าง ความชัดเจนของป้ายจราจร

2. พฤติกรรมของผู้ขับขี่

3. การบังคับใช้กฎหมายจราจรที่เข้มงวด

ทางศปถ.และพลตำรวจโทชัจจ์ กุลดิลกมอบหมายให้ผู้ว่าราชการ

แต่ละจังหวัดวางมาตรการและแนวปฏิบัติ เพื่อลดอุบัติเหตุ 

 

  

     นายประชา ประสพดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การหยุดความตายนั้นไม่สามารถทำได้ แต่เราสามารถป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุก่อนเวลาอันควรได้ ซึ่งข้อมูลจากองค์กรอนามัยโลก รายงานสถิติการเสียชีวิต โดยระบุว่า อันดับ 8 ของการเสียชีวิตนั้น เกิดเพราะอุบัติเหตุบนท้องถนน  ดังนั้นเราควรมีมาตรการให้ทุกหน่วยงานดำเนินการเพื่อลดอุบัติเหตุและความสูญเสีย คือ

 

1. หน่วยงานภาคีเครือข่าย รัฐ เอกชน ประชาสังคม เข้าร่วมในการให้ความรู้ และแนวทางในการลดอุบัติเหตุและการสูญเสีย

2. ขับเคลื่อนนโยบายลงสู่หน่วยงานที่รับผิดชอบ

3. เพิ่มการรณรงค์ให้มากขึ้น

4. มีการพัฒนายานพาหนะในประเทศให้ได้มาตรฐานสากล

5. พัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีมาตรฐานสากล ชัดเจน ถูกต้อง

6. มีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด

 

  

รับชมวิดีโอ

 

รับชมคลิปวิดีโอสรุปข่าวกับ DMC 29 มี.ค. พ.ศ.2556   

http://goo.gl/zBJoS