อามีดาบัด
(Ahmedabad):
การเยี่ยมเยือนของรัฐมนตรีลันคันและความกระตือรือล้นของญี่ปุ่นในการกระตุ้นให้เกิดโครงการเส้นทางพระพุทธศาสนา
รัฐบาลของรัฐอามีดาบัดที่ถูกการลงประตักจากทางประเทศญี่ปุ่นและศรีลังกามาแล้ว
ขณะนี้กำลังดำเนินการอย่างจริงจังในการที่จะพัฒนาเส้นทางพระพุทธศาสนาขึ้นที่เมืองกุจารัฐ
(Gujarat) แต่เป็นที่น่าสนเท่ห์อย่างมากว่า
ในเขตพื้นที่ของรัฐดังกล่าวนี้ไม่ได้มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนาอยู่เลย ในอันที่จะสามารถช่วยสร้างเส้นทางพระพุทธศาสนาเพื่อการท่องเที่ยวได้อย่างครบวงจรขึ้นที่นี่
ความสนใจของทางการรัฐอามีดาบัดที่เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใดในอันที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาในครั้งนี้
ได้สร้างความประหลาดใจให้กับรัฐอื่นๆ หลายรัฐ เป็นต้นว่า รัฐวิหาร (Bihar)
และรัฐมัดทยาประเทศ (Madhya Pradesh) ซึ่งเป็นรัฐที่มีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานกระจายอยู่โดยทั่วไป
และสถานที่เหล่านั้นก็ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งจากทั่วประเทศอินเดียเองและจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชมได้เป็นจำนวนมาก
“รัฐมนตรีการท่องเที่ยวของประเทศศรีลังกาได้เดินทางมาที่นี่เมื่อเร็วๆ
นี้และได้กล่าวว่า ที่ประเทศศรีลังกามีเส้นทางพระพุทธศาสนา เรียกว่า เส้นทางศรีราม
(Sri Ram Circuit) ซึ่งทางกุจารัฐเองก็น่าจะพิจารณาให้มี
เส้นทางพระพุทธศาสนาขึ้นด้วยเช่นกัน” เจ้าหน้าที่ของรัฐท่านหนึ่งกล่าว
เจ้าหน้าที่ท่านนี้ยังกล่าวอีกว่า
แม้แต่ประเทศญี่ปุ่นเอง ซึ่งเป็นหุ้นส่วนในการจัดงาน The Vibrant Gujarat
Event ที่กุจารัฐในปีนี้ ก็ได้แสดงความสนใจที่จะให้การสนับสนุน
ถ้าทางกุจารัฐจะจัดให้มีเส้นทางพระพุทธศาสนาขึ้นจริงๆ
ทางด้านการท่องเที่ยวของกุจารัฐ (TCGL) (The Tourism
Corporation of Gujarat Ltd.) ก็ได้รับการร้องขอให้ช่วยส่งเจ้าหน้าที่มากำหนดตำแหน่งที่เหมาะสมกับโครงการนี้
เจ้าหน้าที่ท่านนี้ยังได้บอกต่ออีกว่า
ทางการท่องเที่ยวได้คัดเลือกชื่อสถานที่ได้แล้วอย่างน้อยครึ่งโหลแห่งที่มีความเกี่ยวข้องกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคดม
สถานที่ต่างๆ
ที่ทางการท่องเที่ยวได้นำเสนอมาเพื่อให้อยู่ในโครงการดังกล่าวนี้คือ Vadnagar, Junagadh,
Talaja, Dilvada ในส่วนที่อยู่ใกล้กับ Una และ
Devni Mori ในส่วนที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Shamlaji
ทางรัฐอามีดาบัดเองในขณะนี้ก็พยายามอ้างว่า
ทางรัฐได้มีบันทึกต่างๆ ที่เป็นของพระเจ้าอโศกมหาราช และมีวัดทางพระพุทธศาสนาแห่งหนึ่งในเทือกเขา
Girnar Hills รวมทั้งได้เก็บรักษาเส้นพระเกศาเส้นหนึ่งของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ที่ M.
S. University แหล่งข่าวกล่าว เจ้าหน้าที่ของทางการกล่าวว่า
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้รวมกันแล้วสามารถช่วยให้การสร้างเส้นทางพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
โครงการนี้ยังกำลังดำเนินกันต่อไปเพื่อเชิญนักวิชาการด้านพระพุทธศาสนามาช่วยกันค้นหาข้อมูลในรูปแบบที่จะสามารถนำเสนอเพื่อเป็นประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวได้
ถึงแม้ว่าแหล่งข้อมูลของทางการท่องเที่ยวเองก็ยังรู้สึกไม่แน่ใจนักเกี่ยวกับความสำเร็จของเส้นทางพระพุทธศาสนาโครงการนี้
แต่ทางการท่องเที่ยวก็บอกว่าจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการที่จะช่วยกระตุ้นความสนใจของนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวในสถานที่ดังกล่าวนี้
เมื่อได้รับการติดต่อไป
ทางเลขานุการของการท่องเที่ยว นาย ดี เค ราว (D. K. Rao) ยืนยันว่า
ทางรัฐบาลกำลังวางแผนที่จะพัฒนาเส้นทางนี้อยู่ โดยได้รับความร่วมมือกับทางการท่องเที่ยวของประเทศศรีลังกา
ซึ่งในขั้นตอนของการดำเนินการแล้ว การท่องเที่ยวศรีลังกาก็จะเป็นผู้ให้คำปรึกษาโครงการไปโดยปริยาย
“ขณะนี้โครงการยังอยู่ในระยะที่ตั้งไข่อยู่ และคาดว่า จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก
3-4 ปี ที่จะทำให้โครงการนี้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้จริง” เขากล่าว
นาย ราว (Rao) ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า
มันเป็นการเริ่มต้นที่เล็กๆ แต่จะประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
ที่มา-http://www.indianexpress.com/news/govt-discovers-states-buddha-links-to-dev.../420919/