การพัฒนาบุคคลากรด้วยปัญญา 3 ฐาน
ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ได้เสนอวิธีการพัฒนาบุคลากรด้วยหลักปัญญา 3 ฐาน คือ ฐานกาย ฐานใจ ฐานความคิด ซึ่งแท้จริงแล้วนำมาจากหลักในพระพุทธศาสนานั่นเอง คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ในเชิงบริหารนั่นเอง
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 90
เมื่อเราประสบปัญหาของชีวิต ก็ควรอยู่ในศีลในธรรม แล้วค่อยๆ แก้ไขปัญหานั้นเป็นเรื่องๆ ไป ด้วยปัญญาอันชาญฉลาด ทำได้อย่างนี้ชีวิตก็จะมีแต่ความสุขความเจริญ ส่วนมโหสถบัณฑิตเมื่อได้ยศศักดิ์ยิ่งใหญ่แล้ว จะใช้ยศศักดิ์นั้นอย่างไร โปรดติดตาม
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 68
การจะนำกุลสตรีผู้สมบูรณ์ ด้วยสติปัญญา และมารยาทอันงดงามเข้าสู่เรือนในฐานะภรรยาของตนในสภาพที่ไม่มีใครรู้จักเลย นั้น เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง จำเป็นที่จะทำเกียรติคุณของนางให้ปรากฏ และรายงานให้พระนางอุทุมพรเทวีทรงทราบเสียก่อน แล้วจึงค่อยนำนางเข้าเรือนด้วยเกียรติยศอันสูงส่งจึงจะเป็นการเหมาะสม
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 62
วาทะของมโหสถในครั้งนี้ เป็นดุจไม้หน้าสามที่ตีแสกลงกลางกระหม่อมของอาจารย์เสนกะเสียจนหน้าคว่ำไม่ เป็นท่า เพราะไม่ว่าใครหากได้ตรองตามสักหน่อย ก็ย่อมจะเห็นชัดว่า คำพูดของอาจารย์เสนกะผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เพราะในขณะที่กำลังยกตนว่าเป็นบัณฑิตผู้มีปัญญาที่ถึงอย่างไรก็ต้องยอม สวามิภักดิ์ต่อผู้มีทรัพย์อยู่ดี นั่นก็เท่ากับแฝงนัยยะว่า พระราชาเป็นเพียงผู้มีทรัพย์แต่พระองค์หามีปัญญาไม่
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 61
มโหสถบัณฑิต ไม่ได้มองเพียงแค่ในชาตินี้เท่านั้น แต่ได้มองไกลออกไปถึงในภพชาติเบื้องหน้า เพราะเห็นชัดถึงคุณและโทษของทรัพย์ว่า ถ้าหากขาดปัญญาในการใช้สอยแล้ว ก็มีสิทธิ์ที่จะใช้ทรัพย์ไปในทางที่เป็นบาป เช่นนำไปเสียให้กับอบายมุข นำไปดื่มสุรา เล่นการพนัน และเที่ยวกลางคืนเป็นต้น ทรัพย์นั้นแทนที่จะเรียกได้ว่าเป็นทรัพย์สมบัติ แต่จะกลายเป็นทรัพย์วิบัติไป เพราะนำความวิบัติมาให้ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 58
ท้าวเธอทรงปลอบพระนางอุทุมพรให้ทรงคลายพระปริวิตก แล้ว ก็ทรงครุ่นคิดหาปริศนาข้อใหม่ที่จะใช้ทดสอบปัญญาราชบัณฑิตของพระองค์อีก ครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ท้าวเธอก็ทรงดำริถึงปัญหาข้อหนึ่งขึ้นมาได้ นั่นคือปัญหาว่า ระหว่างบุคคลผู้ด้อยปัญญา แต่สมบูรณ์ด้วยยศ และโภคทรัพย์ กับบุคคลผู้เปี่ยมด้วยปัญญาแต่ด้อยยศศักดิ์ นักปราชญ์ทั้งหลายสรรเสริญผู้ใด ว่าเป็นผู้ประเสริฐกว่ากัน
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 57
พระเจ้าวิเทหราชได้สดับคำตอบของมโหสถ ก็ยิ่งทรงทราบชัดถึงความเป็นไประหว่างแพะกับสุนัขที่ได้ทอดพระเนตรเห็นผ่าน ทางช่องพระแกล จึงทรงเข้าพระทัยว่า ราชบัณฑิตทั้ง ๕ ล้วนแทงตลอดในปัญหาด้วยปัญญาของตนทั้งสิ้น
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 35
ความริษยานั้น เมื่อมันเข้าครอบงำใจบุคคลใด ก็ย่อมทำให้บุคคลนั้นมีจิตใจคับแคบ ทนไม่ได้เมื่อเห็นผู้อื่นได้ดีมีสุขกว่าตน เร่าร้อนอยู่ด้วยไฟแห่งริษยา จากคนที่มีปัญญามาก มีความสง่าผ่าเผย กลับต้องปิดบังซ่อนเร้นการกระทำที่ไม่ซื่อของตน ก็จะกลายเป็นคนอาภัพไร้ยศศักดิ์ในที่สุด
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 33
“พวกพระองค์ได้เพียรพยายาม ทุกวิถีทางเพื่อจะนำสระโบกขรณีมาถวายพระองค์ให้จงได้ แต่เพราะเหตุที่พวกข้าพระองค์เป็นผู้ด้อยปัญญา ด้วยความเขลาจึงสำคัญผิดไปว่า การนำสระโบกขรณีเก่ามาผูกติดกับสระโบกขรณีใหม่นั้น อาจมีช่องทางให้สำเร็จตามประสงค์ได้ พระองค์ผู้สมมุติเทพ ก็พระองค์จักเป็นผู้ยืนยันให้แจ้งชัดในที่นี้ได้หรือไม่ว่า ใครๆ ก็ไม่อาจจะผูกสระโบกขรณีให้ติดกันได้ พระเจ้าค่ะ”
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 22
นับแต่นั้นมา พระเจ้าวิเทหราชก็ได้ผูกปัญหาส่งไปทดสอบชาวปาจีนยวมัชฌคามอย่างต่อเนื่องมิ ได้ขาด ทั้งนี้ทรงมีพระราชประสงค์จะวัดปัญญานุภาพของมโหสถบัณฑิตแต่เพียงผู้เดียว เท่านั้น แต่ครั้นจะทรงส่งปัญหาไปถึงมโหสถโดยตรง ก็เกรงว่าจะเป็นการจำเพาะเจาะจงจนเกินไป ดังนั้น จึงได้มอบให้เป็นภาระของชาวปาจีนยวมัชฌคามทุกคนที่จะต้องรับผิดชอบร่วมกัน แต่นับวันปัญหานั้นก็จะยิ่งทวีความยากขึ้นไปเรื่อยๆ