ข้อความต้นฉบับในหน้า
พ่อแม่ต้องไม่ปล่อยให้ลูกดูทีวีตามอำเภอใจ
ไม่ยอมต้องเอาอันใหญ่ๆ ด้วย มาถึงแล้วท่านก็ถาม
สั้นๆ “ทะเลาะกับพี่เขาใช่ไหม” “ใช่ครับ” “ถ้าอย่าง
นั้นไปยืนกอดอกโน่น” แล้วก็ส่งไม้เรียวให้พี่สาวตี
เบิกความเสีย 1 ที่ ยังไม่รู้ใครผิดใครถูก ยังไม่ได้ซัก
ถามสักคำ ที่เบิกความไปก่อน ในฐานะที่ไม่เคารพ
กันตามอาวุโส ตีไปแล้ว 1 ที่ พอพี่ตีเสร็จ ท่านค่อย
มาชักว่ามันเรื่องอะไร ถ้าอาตมาเป็นฝ่ายผิดท่าน
หน้าให้ไปหักไม้เรียวมาอีก คราวนี้ท่านตีเองเลย ตี
ในฐานะที่ทำความผิด บางครั้งซักถามแล้วปรากฏ
ว่าพี่สาวผิด นึกว่าจะ ให้เราตีคืน...เปล่า ท่านก็ชี้พี่
สาวให้ไปหักไม้มา จะตีในฐานะรังแกน้องแล้วท่าน
ก็ตีเอง ตกลงไม่ว่าจะใครผิด เราโดนที่เบิกความ
ก่อนแน่ๆ ในฐานะเป็นน้อง เลยไม่รู้จะไปมีเรื่องกับ
พี่เขาทำไม ส่วนพี่ถ้าผิด พี่โดนตีหนักกว่าที่เราโดน
เข้าไปอีก เลยเข็ดด้วยกันทั้งคู่ นี่เรื่องหนึ่งที่โยมพ่อ
ใช้เป็นวิธีดัดนิสัยลูกๆ
วิธีที่ 2 ที่บ้านอาตมาแต่เดิมทำไร่ ทำสวน
ในวันเสาร์ วันอาทิตย์ ท่านใช้ให้พี่น้องไปช่วยกัน
ทำงาน ท่านสั่งเลย “หญ้าบริเวณนี้ถากให้เตียน ดิน
แปลงนี้ชุดให้เรียบร้อย"
ไม่เอาน่ะ
อย่าคิด
มาก
ปัญหาลูกทะเลาะกัน
ที่ท่านพูดว่าไปทำให้เรียบร้อยนั่นมีความ
หมายว่า
ถ้าไม่เสร็จไม่ต้องกลับมากินข้าวเย็น
เพราะฉะนั้นพวกเราพอคว้าจอบได้ก็ต้องรีบลงมือ
ทำ แต่มีบ้างเหมือนกันตามประสาลูกชายคนเล็ก
คือบางวันก็เบี้ยว ไม่ทำหรอก เพราะอะไร?
เพราะตอนเช้าไปเที่ยวยิงนกตกปลาสนุกกับ
เพื่อนๆ พอตกบ่ายกลับมา โอย...แย่แล้ว...พี่ 2 คน
ถ้าทำไม่เสร็จไม่ได้กินข้าวเย็นแน่ เราก็หูตาเหลือก
รีบช่วยให้เสร็จ ต้องพูดประจบประจ๋อประแจไป