ข้อความต้นฉบับในหน้า
“ในปี พ.ศ.๒๕๘๐ องค์กรอนามัยโลกได้ประเมินไว้ว่าปัญหาด้านจิตเวชจะกลายเป็นโรคที่มีความสำคัญมากเป็นอันดับ 2 ที่ทุกประเทศจะต้องประสบเหมือนกันหมด ดังนั้น หากจะมีสถานที่ใดสักแห่งหนึ่ง ที่สามารถรวบรวมคนมานั่งสมาธิได้คราวละเป็นสนๆ เช่น มหาธรรมกายเจดีย์ ผมคิดวาจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติของเราอย่างมหาศาล ในแง่ของการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือจิตใจ
ในฐานะด้านแพทย์ ผมอยากจะบอกว่า สินนี้ได้กลายเป็นความหวังของสังคมไทย เพราะสถานที่จะกลายเป็นสถานที่ธรรมชาติบำบัด ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกว่าได้ ซึ่งในที่นี้หมายถึงประโยชน์ในแง่ของการสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจด้วยการฝึกสมาธิ ซึ่งโครงการมหาธรรมกายเจดีย์นี้สร้างขึ้นมาจากพลังศรัทธาของสาธุชน โดยไม่ได้รับเงินสนับสนุนใดๆ จากทางรัฐบาลเลย
ผมเองรู้สึกชื่นชม และเห็นด้วยกับการสร้างสิ่งนี้เป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าที่ผ่านมาทางวัดจะโดนกระแสสื่อโจมตีด้วยความไม่เข้าใจ ซึ่งผมถือเป็นเรื่องธรรมดาของการทำงานใหญ่ระดับประเทศที่ต้องมีข้อผ่อนปรั่งบ้าง แค่เมื่อค่อยๆ ชี้แจงทำความเข้าใจ ให้สาธารณชนได้รู้ ถึงประโยชน์ของมหาธรรมกายเจดีย์ ในแง่ของการส่งเสริมศีลธรรมให้กับผู้นในสังคม ผมเชื่อว่า ยังมีผู้คนอีกมากมายพร้อมที่จะให้การสนับสนุน เพราะในอนาคตมหาธรรมกายเจดีย์จะเป็นสมบัติอันล้ำค่าของประเทศชาติ และเกิดประโยชน์อย่างมหาศาลต่อรุ่นลูกหลานของเราครับ...”