ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาชน
พระธรรมเทศนโดย: พระเทพนาถมหามุนี
วันเวลาที่ผ่านมาแล้ว เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถจะเรียกกลับคืนได้ เหมือนดังสายalphaม่าที่หล่นไปเลยไม่อาจหวลกลับ ชีวิตคนเราที่เราเช่นกัน ย่อมผ่านไปพร้อมกับกาลเวลา ที่น่าความแก่รามาสู่วิถีทุกวี่วัน ซึ่งนักสร้างบารมีจะต้องรู้จักให้เวลานั้นผ่านไปพร้อมกับการสร้างความดี เราต้องใช้เวลาที่มีอยู่จำกัดนี้ สร้างบารมีให้เต็มที่ เพื่อทำสิ่งที่มีคุณค่าให้เกิดขึ้นกับตัวของเราเองและผู้อื่น ด้วยการประพฤติดีธรรม แม้สภาวะเศรษฐกิจของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ บางครั้งชีวิตเราอาจได้ผลกระทบกระเทือนบางคลายกับกำลังถากถางมูลใหญ่โหมกระหน่า แต่ก็อาจจะได้หวังไหว เพราะเหตุการณ์เช่นนี้เป็นธรรมดาของโลก
“ความที่เกิดความแปรปรวนของกระแสโลก คนทั้งหลายต่างกำลังแสวงหาที่พึ่งให้กับตนเองเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของชีวิต แต่น้อยคนที่จะพบกับที่พึ่งอันแท้จริง เพราะส่วนใหญ่มักไม่รู้เลยว่าที่พึ่งอันแท้จริงคืออะไร อยู่ที่ตรงไหน และจะเข้าสู่ได้อย่างไร ดังนั้น จึงต้องมา ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องที่พึ่งอันแกสม ที่พี่น้องแท้จริงกัน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ขุทฺทกนิกายธรรมบท ว่า
“พุท...อ สรณค tokens คำ
อารามภูบุญฤ ฑอจิเน
เนติ โอ ปล แสนบ มิตร
เนติ สรณมาภูมิ
สัพพุทธา ปุลจิต
โดย ฎ พุทธญฺ มุจฺฉนฺ
ลสมบุญ สรณํ คโต
จตุภัทร วิยสํจานํ สุมุบุญสะนะคฺธ
ทุคฺคํ ทุกขํสมุปปํ ทุกขํ อติทุกาม”
มนุษย์เป็นอันมาก ถูกภัยคุกคามแล้ว ย่อมถึงภาวะ ปะ อาราม และรุกพิเดชว์ว่าเป็นที่พึ่ง สวะนะนั้นแล่มเกษม สวะนะนั้นไม่อุดม เพราะบุคคลอาคะศะสนัน ย่อมไม่พันจากทุกข์ทั้งปวงได้ ส่วนบุคคลใดถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ว่าเป็นที่พึ่ง ย่อมเห็นอริยสัจ ๔ (คือ) ทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความก้าวล่วงทุกข์ และมรรคมีย์องค์ อันประเสริฐ ซึ่งยังสัตว์ให้ถึงความสุขแห่งทุกข์ ด้วยปัญญานำ ช สะนะและบุคคลนั้นบุญ สะนะนั้นอุดม เพราะบุคคลอภัยสตนะนั้น ย่อมแสดงภิพรรษา เป็นสัจจ์ยย่อมเห็นอริยสัจ ๔ (คือ) ทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความก้าวล่วงทุกข์ และมรรคมีย์องค์