ข้อความต้นฉบับในหน้า
การทอดกฐินจึงเป็นการทำบุญที่เกิดจากพุทธประสงค์
มหากฐิน บุญใหญ่แห่งปี
"มหากฐิน" คือ กฐินสามัคคีที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของพุทธศาสนิกชนที่มีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และตระหนักถึงอานิสงส์อันยิ่งใหญ่ของการทอดกฐิน
การทอดกฐินถือเป็นบุญใหญ่แห่งปีที่ทุกคนรอคอย เพราะเป็นบุญพิธีที่ทำได้ง่ายวุ่นวาย เนื่องจากมีข้อจำกัดหลายประการดังนี้
1. จำกัดเวลา คือต้องถวายภายใน 1 เดือนนับตั้งแต่วันออกพรรษา
2. จำกัดชนิดทาน คือต้องถวายเป็นสังฆทานเท่านั้น จะถวายเฉพาะรูปหนึ่งเหมือนทานอย่างอื่นไม่ได้
3. จำกัดคราว คือต้องทอดกฐินได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น
4. จำกัดรับ คือพระภิกษุผู้รับกฐินได้จะต้องจำพรรษาที่วันนั้นครบตามกำหนด 3 เดือน และต้องมีจำนวนตั้งแต่ 5 รูปขึ้นไป
5. จำกัดงาน คือเมื่อพระภิกษุรับกฐินแล้วจะต้องกรานกฐินให้เสร็จภายในวันนั้น
6. จำกัดของถวาย คือไทยธรรมที่ถวายต้องเป็นผ้าผ่านในผ้าหนึ่งในใดรวจเท่านั้น (โดยทั่วไปนิยมใส่สาฎฐิ)
นอกจากนั้น กฐินทานยังเป็นนาที้พิเศษ คือทั้งพระภิกษุและญาติโยมผู้ทอดกฐินได้รับอานิสงส์ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย
อนิสัมของการทำบุญทอดกฐิน
ในสมัยของพระสังฆสมัยสัมพุทธเจ้า มีชายคนหนึ่งชื่อนายดินนา เขามีฐานะยากจนมาก แต่มีศรัทธาแรงกล้าอยากร่วมบุญกฐิน ถึงแม้เขาไม่มีทรัพย์สินเงินทองเลย แต่เขาขวนขวายหาทางร่วมบุญ
เขาดีสนใจเอาเสื้อผ้าที่มีอยู่เพียงชุดเดียวไปรขาย แล้วนำไปไม่มาเย็บเป็นผ้าม่านกันฉาก จากนั้นนำเงินจากการขายเสื้อไปซื้อกองฉันและเติมเป็นบริวารกฐินด้วยความปีมีมิติเหลือประมาณ
การทำของนายดินนาสำหรับให้ท้าวลักเทวราชแห่งสวรรค์ชั้นดาวดวงสีเกิดความเสื่อมโทรมอย่างยิ่ง จนต้องเสด็จลงมาให้พร และเมื่อพระคราชทราบเรื่อง ก็พระราชทานทรัพย์ให้เขาเป็นจำนวนมาก เขาจึงกลายเป็นเศรษฐีทันตาเห็นด้วยบุญจากการทอดกฐินด้วยศรัทธาที่เต็มเปี่ยม
เมื่อโลกแล้ว นายดินนาลได้ไปสอยทิพยสมบัติในสวรรค์ชั้นดาวดวงส ภาชาติสุดท้ายได้ออกบวชในพระพุทธศาสนาและได้รับอรุภผลด้วยอำนาจบุญที่เขากระทำมาดีแล้ว