ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระโพธิสัตว์ได้เห็น "ต้นแบบ" เป็นประกัชพยานด้วยตนเองว่า "บุคคลเช่นไรที่ได้ชื่อว่า ผู้บรรลุพระโพธิญาณ" และเมื่อได้มีโอกาสตื่นพระสัทธรรมจากพระองค์ ยิ่งเป็นการตอกย้ำเป้าหมาย มินฉินฉาน ที่จะไปถึงพระโพธิญาณตามที่ได้กล่าวไว้ จากเป้าหมายในใจที่ไม่มีเม็ดแตง ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าจะสิ้นสุดตรงนั้นนจะเป็นไปได้หรือไม่ และถ้ามีความเป็นไปได้ จะมีมากน้อยเพียงใด จะต้องทำอย่างไร เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายขึ้น เปลี่ยนมาเป็นประกัชพยานที่เห็นได้ด้วยตา ได้ยินได้ด้วยหู สัมผัสได้ด้วยกาย พวกเราจงจินตนาการดูว่าพระโพธิสัตว์ท่านจะมีความเปลี่ยมปิติใจเพียงใด
บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ นับแต่ดีตอันไกลพ้น
กิจโจ พุทธานุปัหา...
การอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้าหลายเป็นเรื่องยาก
ภายหลังจากการสั่งสมประสบการณ์ ผ่าน การลองผิดลองถูก ผ่านภาวะเสียงต่าง ๆ นานาปการ จนกระทั่งบุญบารมีเต็มเปี่ยมพร้อมที่บรรลุพระโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสมพุทธเจ้าในที่สุดสุดท้าย ตาม มินฉินฉาน ที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ในกลายก่อน แม้ว่าจะเสียงทั้ง ๓ วรรคในขณะที่เกิดกับบุคคลทั่วไป บัดนี้ไม่อาจอับอายแก่พระองค์ได้ก็ตาม แต่ถึงกระนั้นภาวะเสียงอื่น ๆ ยังไม่พบเห็นเป็นระยะ ๆ เนื่องด้วยภายหลังจากพระโพธิสัตว์ได้ประสูติ ณ สวนลุมพินีวัน ด้วยอาการแห่งผู้บุญญิการิตา พระเจ้าสุทโธนะ พระนิดา ทรงสรรค์ยอชราตำแหน่งที่กล่าวเป็นนัยและก้าวการออกบวชของพระโพธิสัตว์ถึง 2 ครั้ง 2 ครั้ง คือ จากอดีตบาบผู้ทรงอภิญญา และจากการพยากรณ์ ลักษณะมาหาบุรพลของพระมหินฑุผุทรสายไตรเทวาทั้ง ๘ ท่าน ทำให้พระอึดทรงเกิดความกังวลใจ เกรงว่าโอรสของตนจะมีใจให้กับ "ชีวิตสมณะ" มากกว่า "ชีวิตจารย์บรรดร" จึงทรงทำทุกวิถีทางเพื่อปิดบังความจริงไม่ให้พระโพธิสัตว์มีโอกาสละลิกถึงชีวิตสมณะ ไม่ว่าจะเป็น "ปราสาท ๓ กูฏ" หรือ "การอธิษฐานสมรส" สิ่งเหล่านี้ได้ดังความสนใจของพระโพธิสัตว์ไว้ถึง ๒ ปี แต่แล้วก็มีมาถึงวันนี้ "สิ่งปกปิดภายนอก" ถูกเปิดออกด้วยบารมีธรรมที่ส่งสมมา ทำให้พระโพธิสัตว์ได้พบกับ "เทวฑูต ๕" คือน- คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ จึงเป็นเหตุให้พระโพธิสัตว์ว่ายิ่ง "ความสุขของปลอม" มายกงาม "ความสุขอันจริง" ด้วยการออกบวช