ข้อความต้นฉบับในหน้า
การพัฒนาวัดตะเรด หลวงพ่อท่านก็ได้
ทำควบคู่ไปกับการพัฒนาคนด้วย โดยได้จัดให้มี
การบวช
และให้การอบรมศีลธรรมแก่เด็ก
นักเรียนเป็นประจำ
“อาตมาให้เด็กเรียนและสอบธรรมศึกษา
แม้แต่เด็กนักเรียนที่นับถือศาสนาอื่นก็มาสอบด้วย
ต้องประกอบสังฆกรรมบนเรือ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
ซึ่งนับถือศาสนาอิสลามเล่าให้ฟังว่า “เมื่อก่อน
ไม่เห็นว่าจะเป็นวัดเลย เห็นแต่ท้องนา หลวงพ่อ
ท่านเก่งนะ สร้างวัดให้เจริญได้”
หลวงพ่อท่านได้เปิดใจให้ฟังเรื่องความ
ลำบากในการสร้างวัดว่า “วัดแห่งนี้ผู้คนเรียก
วัดแขกล้อม เพราะรอบๆ วัดมีพี่น้องต่าง
ศาสนิกอาศัยอยู่ อาตมามาอยู่ที่นี่ช่วงแรกลำบาก
ต้องอดทนสูงมาก ต้องฝ่าฟันต่ออุปสรรคมามาก
เคยแม้กระทั่งถูกปองร้ายจากคนที่ไม่หวังดี ที่
เขาเสียผลประโยชน์ ชาวบ้านก็แนะนำว่าให้ไป
อยู่ที่อื่นสักพักหนึ่งก่อน ให้มาอยู่ลับๆ มาสั่งงาน
ที่วัดตอนกลางคืน ส่วนตอนกลางวันก็ให้พระรูป
อื่นดูแลไปก่อน ช่วงนั้นลำบากมากๆ แต่อาตมา
คิดว่า สิ่งไหนที่ใครว่าทำยาก อาตมาจะทำสิ่งนั้น
ให้ได้ จะไม่ขอหนีอุปสรรค จะไม่ท้อถอย”
ปรากฏว่าผลสอบได้ผลดีกว่านักเรียนพุทธอีก
เพราะเขาให้ความสำคัญกับศาสนามาก พอเลิก
เรียนแล้วเด็กของเขาต้องศึกษาศาสนาต่อจนถึง ๕
โมงเย็น ส่วนเด็กชาวพุทธเราพอเลิกเรียน ๓
โมงครึ่งก็กลับบ้านไปเล่นแล้ว อาตมาอยาก
ทำให้ชาวพุทธเข้มแข็งและเข้ามาศึกษาคำสอน
ของพระพุทธเจ้าอย่างจริงจัง”
หลวงพ่อท่านได้เปิดใจถึงเป้าหมายของ
การสร้างบารมีของท่านว่า “ก็คิดว่าขอครอง
สมณเพศจนถึงตาย อาตมาบอกโยมแม่ว่า ขอ
ตายในเพศนี้ เดินตามแนวที่ครูไม่ใหญ่ได้แนะนำ
ผ่านจานดาวธรรมว่า บวชมาเพื่อทำพระนิพพาน
ให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี ในขณะนี้แม้จะ
ป่วยอย่างไรก็จะนำสวดมนต์ทำวัตรเป็นประจำ
ไม่ขาด อาตมาชอบไปสอนนักเรียน เพราะ
อยากให้เขาเป็นคนดี ไม่เคยทอดทิ้งเลยสักปี
ถ้าถามว่าต้องขอเลื่อนเป็นพระครูไหม ไม่ต้อง
เป็นพระครู ก็เป็นครูอยู่แล้ว”
: : ๒๔