ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลวงพ่อรู้สึกสบายใจมากๆ จึงบอกกับลูกๆ ว่า
ขอบวชต่อ ไม่สึกได้ไหม ลูกๆ ทุกคนก็ขอสาธุ
การและบอกว่า ไม่ต้องห่วงลูกๆ ต่อมาในปี พ.ศ.
๒๕๓๖ โยมที่อยู่ที่นี้ไปนิมนต์หลวงพ่อให้มาอยู่ที่
วัดนี้ เขาบอกว่าวัดนี้ร้างมายาวนานเป็นร้อยปี
ยังไม่มีใครกล้ามาอยู่เลย หลวงพ่อก็รับปากมา
โดยไม่เห็นแก่ความยากลำบาก ขณะนั้นหลวงพ่อ
อายุ ๖๑ ปี
เมื่อมาถึง วัดมีสภาพร้างมากๆ เป็นป่ารก
มีแต่พระเจดีย์เก่าและพระพุทธรูปของหลวงพ่อ
ใหญ่เท่านั้น หลวงพ่อก็เริ่มต้นสร้างวัดด้วยเงิน
เพียงไม่กี่บาท มีพันบาทก็สร้างพันบาท มีหมื่น
บาทก็สร้างหมื่นบาท หลวงพ่อจะไม่จ้างถ้าไม่
จำเป็น จะพยายามทำเอง ออกแบบเองทุกอย่าง
หลวงพ่อพอมีความรู้ทางช่างอยู่บ้าง ซึ่งพระใน
วัดและญาติโยมก็มาช่วยกัน หลวงพ่อพัฒนาวัด
มาเรื่อยจนสร้างโบสถ์ ศาลา เมรุไปพร้อมๆ กัน
ตอนนี้โบสถ์ก็เสร็จแล้วที่เหลือก็ทยอยกันเสร็จ
ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี แต่ก็ยังต้องสร้างกันไปตลอด
ชีวิต หลวงพ่อตายแล้วก็จะมอบให้คนรุ่นหลังได้ใช้
ทุกวันเวลาเข้าจำวัด ก็นอนนึกถึงบุญว่า คน
อย่างเรานี่หรือสร้างวัดได้ นึกแล้วก็ปลื้มใจ”
พระลูกวัดและโยมอุปัฏฐากเล่าให้ฟังว่า
“หลวงพ่อพระอธิการทองย้อยท่านขยันมากๆ
ตั้งแต่เช้าจนเย็นไม่ได้หยุดเลย โยมเห็นท่านทำก็
มาช่วยกัน มีเหล็ก มีปูนก็นำมาร่วมกัน หลวงพ่อ
ท่านทำทุกอย่างเพื่อพระพุทธศาสนาไม่ได้ทำเพื่อ
ตนเองเลย เอาเงินทุกบาทที่โยมถวายมาสร้าง
วัดจนหมด”
หลวงพ่อท่านได้ชมดาวธรรมช่อง DMC
ท่านกล่าวถึงการพัฒนาคนว่า “ทุกวันพระ
อยู่ไฟ ) ๒๖