อานิสงส์โปรยกลีบกุหลาบ (ภาคพิเศษ) ตอนที่ 11
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาด้วยผลแห่งบุญนี้ จะส่งผลทำให้ลูกๆ ได้รับความสะดวกสบายและความปลอดภัยในทุกที่ทุกสถานอานิสงส์ข้อที่ 11.ด้วยอานิสงส์แห่งบุญที่ลูกๆ นักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาได้ตั้งจิตมาแต่ไกลตั้งใจมาจากบ้าน มาร่วมบรรจงเด็ดกลีบกุหลาบ แล้วก็มารับบุญทำหน้าที่เป็น วี ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น SUPER V–ROSE,วีเคลียร์, วีคลีน หรือวีเสื่อ เป็นต้น หรือมาทำหน้าที่เป็นอุปัฏฐากแก้ว และมาโปรยกลีบกุหลาบ เพื่อให้ความสะดวกสบายแด่คณะพระธุดงค์จำนวน 1,127 รูปในเส้นทางมหาปูชนียาจารย์อีกทั้ง ยังได้ออกไปทำหน้าที่ชักชวนมหาชนผู้มีบุญให้มาร่วมกันโปรยกลีบกุหลาบด้วยความรู้สึกปลื้มปีติเบิกบานใจด้วยผลแห่งบุญนี้ จะส่งผลทำให้ลูกๆ ได้รับความสะดวกสบายและความปลอดภัยในทุกที่ทุกสถาน คือ ไม่ว่าตัวลูกจะเดินทางไปที่ไหนหรือเดินทางไปด้วยยานพาหนะใดก็ตาม อุบัติเหตุเภทภัยทั้งหลายก็จะไม่บังเกิดขึ้นกับตัวลูกเลย เรียกได้ว่า ตัวลูกจะปลอดภัยหายห่วงอยู่เสมอเลยทีเดียวต้องประสบอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทางเช่น ถูกรถเฉี่ยวชนหรือรถเสียหลักและถ้าหากในภพชาติปัจจุบัน ลูกๆ บางคน ต้องประสบอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทางเช่น ถูกรถเฉี่ยวชนหรือรถเสียหลัก เป็นต้น อันเนื่องมาจากวิบากกรรมในอดีตชาติที่ลูกๆ ได้เคยทำผิดทำพลาดเอาไว้ได้ช่องตามมาส่งผลเช่น วิบากกรรรมปาณาติบาตที่ลูกๆ ได้เคยทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนทำให้เขาได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เป็นต้น
ผลแห่งบุญดังกล่าว ก็จะไปช่วยตัดรอนวิบากกรรมต่างๆ ที่ทำให้ลูกๆ ต้องประสบอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทางให้บรรเทาเบาบางและเจือจางลงไปได้อย่างเป็นอัศจรรย์แต่ด้วยผลแห่งบุญที่ลูกๆ ได้ตั้งใจมารับบุญทำหน้าที่เป็น วี ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น SUPER V–ROSE, วีเคลียร์, วีคลีน หรือวีเสื่อ เป็นต้น หรือมาทำหน้าที่เป็นอุปัฏฐากแก้ว และมาโปรยกลีบกุหลาบ เพื่อให้ความสะดวกสบายแด่คณะพระธุดงค์จำนวน 1,127 รูปในเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ด้วยความรู้สึกปลื้มปีติเบิกบานใจนี้ ก็จะไปดึงดูดเอาบุญเก่าที่ลูกๆ ได้เคยสั่งสมมาในอดีตให้มารวมกันส่งผลในภพชาติปัจจุบันซึ่งผลแห่งบุญดังกล่าว ก็จะไปช่วยตัดรอนวิบากกรรมต่างๆ ที่ทำให้ลูกๆ ต้องประสบอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทางให้บรรเทาเบาบางและเจือจางลงไปได้อย่างเป็นอัศจรรย์ คือ จากหนักก็จะเป็นเบา จากเบาก็จะหาย จากร้ายก็จะกลายเป็นดี เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะทำให้ลูกๆ ได้รับความปลอดภัยในทุกเส้นทางของการเดินทางนั่นเองตัวลูกก็จะได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรเทพธิดาชาวสวรรค์ที่มีเทวรถที่สวยสดงดงาม วิจิตรตระการตาเมื่อถึงคราวที่ตัวลูกจะต้องละจากโลกนี้ไป ตัวลูกก็จะได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรเทพธิดาชาวสวรรค์ที่มีเทวรถที่สวยสดงดงาม วิจิตรตระการตา และอลังการเป็นอย่างมาก อีกทั้ง เทวรถของตัวลูกยังจะมีรัศมีสีสันที่สว่างไสวเจิดจรัส และแลดูโดดเด่นกว่าเทวรถของเหล่าเทพบุตรเทพธิดาท่านอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งก็จะทำให้เหล่าเทพบุตรเทพธิดาทั้งหลายต่างก็จะพากันกล่าวขานโจษจันและร่ำลือถึงเรื่องเทวรถของตัวลูกไปทั่วทั้งเทวโลกเลยทีเดียวและเมื่อเหล่าเทพบุตรเทพธิดาทั้งหลายได้ยินคำร่ำลือถึงความงดงามและความอลังการของเทวรถของตัวลูกแล้ว พวกเขาก็จะเกิดความปรารถนาอยากที่จะแวะเวียนมาเยี่ยมชมเทวรถของตัวลูก ด้วยความรู้สึกที่ปลาบปลื้มปีติยินดีอย่างสุดๆตัวลูกก็จะมีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวที่บินได้เร็วและปลอดภัยที่สุดในโลกมาครอบครอง,หรือ ถ้าหากในยุคนั้น ยานพาหนะที่ดีที่สุดคือ ม้าไม่ใช่เพียงเท่านั้น เมื่อถึงเวลาที่ตัวลูกจะลงมาเกิดสร้างบารมีบนโลกมนุษย์ด้วยผลแห่งบุญที่ลูกๆ ได้ตั้งใจมารับบุญทำหน้าที่เป็น วีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น SUPER V–ROSE, วีเคลียร์, วีคลีน หรือวีเสื่อ เป็นต้น หรือมาทำหน้าที่เป็นอุปัฏฐากแก้ว และมาโปรยกลีบกุหลาบ เพื่อให้ความสะดวกสบายแด่คณะพระธุดงค์จำนวน 1,127 รูปในเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ด้วยความรู้สึกปลื้มปีติเบิกบานใจด้วยผลแห่งบุญนี้ ก็จะส่งผลทำให้ตัวลูกได้ยานพาหนะที่ดีที่สุดและเลิศที่สุดในยุคนั้น เช่น ถ้าหากในยุคนั้น สุดยอดแห่งยานพาหนะคือ เครื่องบินเจ็ต ตัวลูกก็จะมีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวที่บินได้เร็วและปลอดภัยที่สุดในโลกมาครอบครอง, หรือ ถ้าหากในยุคนั้น ยานพาหนะที่ดีที่สุดคือ ม้า ตัวลูกก็จะได้ม้าอาชาไนยที่มีความแข็งแรงปราดเปรียวว่องไวและดีที่สุดในโลกมาเป็นพาหนะคู่ใจเป็นต้นม้าอาชาไนยจัดว่าเป็นม้าชั้นเลิศ ที่จะเกิดขึ้นในยุคที่ผู้มีบุญมากๆ ลงมาเกิดสำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับม้าอาชาไนยซึ่งเป็นม้าที่ดีที่สุดในโลกนั้น ก็เป็นเรื่องราวที่มีปรากฏอยู่จริงดังที่เห็นได้จากพระไตรปิฎก ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ม้าอาชาไนยจัดว่าเป็นม้าชั้นเลิศ ที่จะเกิดขึ้นในยุคที่ผู้มีบุญมากๆ ลงมาเกิด ซึ่งม้าอาชาไนยจะไม่ใช่เป็นม้าที่มาจากตระกูลธรรมดาๆ เพราะเป็นม้าที่มีชาติตระกูลและมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่บริเวณลุ่มแม่น้ำสินธุ หรือบริเวณประเทศอินเดียและปากีสถานในยุคปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เอง ม้าตระกูลนี้จึงถูกเรียกว่า “ม้าตระกูลสินธพ” ซึ่งมาจากคำว่า “สินธุ” นั่นเองซึ่งม้าตระกูลสินธพนี้จะมีลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนม้าพันธุ์ทั่วๆ ไป คือ จะมีลำตัวสีขาวและจะมีหัวสีดำ แม้หัวจะดำ แต่ก็ดำดูเด่น และเป็นเงาแวววาว อีกทั้ง เส้นขนบริเวณแผงคอของม้าตระกูลนี้จะละเอียดเหยียดตรงและสลวยสวยเป็นเงางามตลอด โดยไม่ต้องใช้แชมพูหรือวิตามินบำรุงผมยี่ห้อใดๆ เลยถ้าหากม้าอาชาไนยวิ่งเหยียบบนกลีบของดอกบัว ก็จะไม่ทำให้กลีบของดอกบัวจมน้ำ ช้ำ หรือฉีกขาดเสียหายและเมื่อถึงเวลาออกสตาร์ท (หรือเริ่มออกวิ่ง) ม้าอาชาไนยก็สามารถที่จะวิ่งได้เร็วมากๆ เร็วขนาดที่ว่า “ แม้ผู้ที่อยู่โดยรอบยังไม่สามารถที่จะเห็นตัวม้าได้เลยคือ จะเห็นได้แต่อากาศธาตุที่กำลังเคลื่อนไหวเท่านั้น ” เรียกได้ว่า ม้าเหล็ก หรือรถไฟ ที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลกก็ยังชิดซ้ายตกรางกันเลยทีเดียวและด้วยความที่ม้าอาชาไนยสามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็วมากๆ นี้เอง จึงทำให้ม้าอาชาไนยสามารถที่จะวิ่งบนน้ำได้โดยที่น้ำจะไม่กระเซ็นเปียกกีบเท้าของม้าเลยแม้แต่นิดเดียว หรือถ้าหากม้าอาชาไนยวิ่งเหยียบบนกลีบของดอกบัว ก็จะไม่ทำให้กลีบของดอกบัวจมน้ำ ช้ำ หรือฉีกขาดเสียหายเลยแม้แต่นิดเดียวผู้สร้างสะพานถวายแด่คณะสงฆ์ เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์สามารถสัญจรข้ามแม่น้ำได้อย่างสะดวกสบายเมื่อลูกๆ นักเรียน อนุบาลฯ ได้รู้จักความพิเศษของม้าอาชาไนยกันอย่างคร่าวๆ แล้ว ลูกๆ ก็คงจะคิดว่า“ ถ้าหากเรามีพาหนะที่ดีเช่นนี้ ก็จะทำให้เราสามารถเดินทางไปสั่งสมบุญได้อย่างสะดวกสบายและราบรื่นในทุกเส้นทางบุญ เช่น ไปตักบาตรได้ทั่วไทย และไปโปรยกลีบกุหลาบต้อนรับพระธุดงค์ได้ทั่วถึงทุกพื้นที่ เป็นต้น”สำหรับในวันนี้ คุณครูไม่ใหญ่ก็จะได้นำตัวอย่างเรื่องราวของบุคคลผู้มีบุญที่มีม้าอาชาไนยเป็นพาหนะถึง 1,000 ตัว มาเล่าให้ลูกๆ นักเรียน อนุบาลฯ ได้รับฟังกัน ซึ่งผู้มีบุญท่านนั้นก็คือ “พระโธตะกะเถระ” ผู้สร้างสะพานถวายแด่คณะสงฆ์ เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์สามารถสัญจรข้ามแม่น้ำได้อย่างสะดวกสบายในขณะที่ท่านยืนอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำอยู่นั้น ท่านก็ได้เห็นพระภิกษุหลายรูปกำลังนั่งเรือข้ามแม่น้ำสายใหญ่เรื่องก็มีอยู่ว่า ในยุคสมัยของพระปทุมุตตระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระเถระได้เกิดเป็นพราหมณ์ชื่อว่า “ ฉะฬังคะ ที่อาศัยอยู่ในเมืองหังสะวะดี ซึ่งท่านมีลูกศิษย์ลูกหาเป็นบริวารรายล้อมถึง 1,800 คน มีอยู่วันหนึ่ง ท่านได้พาลูกศิษย์ทั้งหมดไปยังฝั่งแม่น้ำสายใหญ่ที่มีชื่อว่า “ภาคีระสี” ซึ่งที่ริมฝั่งแม่น้ำแห่งนี้ จะมีวัดโสภิตะซึ่งเป็นอารามที่ประทับของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และในขณะที่ท่านยืนอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำอยู่นั้น ท่านก็ได้เห็นพระภิกษุหลายรูปกำลังนั่งเรือข้ามแม่น้ำสายใหญ่แห่งนี้ด้วยดวงปัญญาของท่านนี้เอง จึงทำให้ท่านครุ่นคิดขึ้นมาว่า “ พุทธบุตรเหล่านี้คงจะต้องได้รับความยากลำบากในการเดินทางข้ามแม่น้ำทั้งเช้าและเย็น ถ้าอย่างนั้น เราควรที่จะเอาบุญกับท่าน ด้วยการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำถวายแด่คณะสงฆ์ เพื่อที่ผลแห่งบุญนี้จะได้เป็นปัจจัยให้เราได้ข้ามพ้นจากห้วงแห่งวัฏฏะทุกข์ ”ท่านก็ได้ทำพิธีถวายสะพานแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและคณะสงฆ์ด้วยความรู้สึกปลื้มปีติเบิกบานใจอย่างสุดๆเมื่อท่านคิดอย่างนั้นแล้ว ท่านก็ไม่รอช้าได้รีบบริจาคทรัพย์ของตัวเอง เพื่อจ้างช่างมาสร้างสะพานใหญ่ที่แข็งแรงข้ามแม่น้ำภาคีระสีในทันที และหลังจากที่สะพานแห่งนั้นสร้างเสร็จแล้ว ท่านก็ได้ทำพิธีถวายสะพานแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและคณะสงฆ์ด้วยความรู้สึกปลื้มปีติเบิกบานใจอย่างสุดๆ จากนั้น พระปทุมุตตระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งประทับนั่งอยู่ท่ามกลางคณะสงฆ์ ก็ได้ตรัสสัมโมทนียกถาให้พราหมณ์ได้เบิกบาน อาจหาญ และร่าเริงบันเทิงอยู่ในบุญ พร้อมทั้งทรงพยากรณ์ถึงอานิสงส์ของการถวายสะพานนี้ในทำนองที่ว่า“ด้วยผลแห่งบุญนี้ จะส่งผลทำให้ ท่านปลอดภัยจากศัตรูทั้งปวง คือ ศัตรูภัยพาลและโจรผู้ร้ายทั้งหลายจะไม่สามารถมาข่มเหงและรังแกท่านได้เลย เปรียบเสมือนกับลมพายุที่ไม่อาจจะโค่นต้นไทรที่มีรากแข็งแรงและมีย่านงดงามให้ล้มได้ฉะนั้น อีกทั้ง...กษัตริย์ทั้งหลายจะให้ความเคารพนับถือเกรงใจและไม่ดูหมิ่นท่านเลยท่านจะสามารถใช้ม้าเหล่านี้ได้ทั้งเช้าและเย็นแบบไม่ขาดแคลนเลยทีเดียวหรือแม้ว่า ท่านจะอยู่กลางแจ้งและถูกแดดแรงกล้าแผดเผาขนาดไหน ความทุกขเวทนาปวดแสบปวดร้อน ก็จะไม่เกิดขึ้นกับผิวกายของท่านเลยแม้แต่นิดเดียว ท่านจะได้ม้าสินธพ หรือม้าอาชาไนย1,000 ตัวเป็นพาหนะ และท่านจะสามารถใช้ม้าเหล่านี้ได้ทั้งเช้าและเย็นแบบไม่ขาดแคลนเลยทีเดียว เป็นต้น และในแสนกัปข้างหน้า ท่านจะได้เป็นธรรมทายาทของพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งก็คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน และท่านจะสามารถกำจัดกิเลสอาสวะให้หมดไปได้ในที่สุด”ด้วยผลแห่งบุญที่ท่านได้สร้างสะพานถวายคณะสงฆ์เอาไว้นี้เอง ก็ได้ส่งผลดังเช่นคำพยากรณ์ของพระปทุมุตตระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกประการ และส่งผลยาวนานไปจนกระทั่งมาถึงภพชาติสุดท้ายของท่าน ซึ่งก็ทำให้ท่านได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ที่แตกฉานในปฏิสัมภิทาญาณ 4 และอภิญญา 6ในพุทธันดรนี้ เป็นต้นบุญที่เกิดจากการอำนวยความสะดวกสบายให้เกิดขึ้นกับภิกษุสงฆ์นั้น ให้ผลบุญอย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียวจากเรื่องราวของพระโธตะกะเถระนี้ ก็ทำให้เราได้เห็นว่า “ บุญที่เกิดจากการอำนวยความสะดวกสบายให้เกิดขึ้นกับภิกษุสงฆ์นั้น ให้ผลบุญอย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียว อย่างเช่น มียานพาหนะคู่ใจเป็นม้าอาชาไนย เป็นต้น”ซึ่งการที่ลูกๆ ได้มาร่วมกันรับบุญทำหน้าที่เป็นวี ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น SUPER V–ROSE, วีเคลียร์, วีคลีน หรือวีเสื่อ เป็นต้น หรือมาทำหน้าที่เป็นอุปัฏฐากแก้ว และมาโปรยกลีบกุหลาบ เพื่อต้อนรับคณะพระธุดงค์จำนวน 1,127 รูปในเส้นทางมหาปูชนียาจารย์นี้ ก็ถือว่าเป็นบุญที่ลูกๆ ได้อำนวยความสะดวกสบายให้แด่คณะพระภิกษุสงฆ์ด้วยเช่นกันเพราะฉะนั้นอานิสงส์แห่งบุญที่จะทำให้ลูกๆ ได้ยานพาหนะที่ดีสุดและเลิศที่สุดก็ย่อมจะบังเกิดขึ้นกับลูกๆ ได้อย่างแน่นอนไม่ใช่เพียงเท่านั้น อานิสงส์โปรยกลีบกุหลาบภาคพิเศษข้อนี้ยังมีเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่งไปกว่านี้อีก ส่วนว่า ความน่าอัศจรรย์นั้นจะมีรายละเอียดเป็นเช่นไร เราก็คงจะจะต้องมาติดตามกันต่อในตอนต่อไปอานิสงส์โปรยกลีบกุหลาบ (ภาคพิเศษ) ตอนที่ 1อานิสงส์โปรยกลีบกุหลาบ (ภาคพิเศษ) ตอนที่ 2อานิสงส์โปรยกลีบกุหลาบ (ภาคพิเศษ) ตอนที่ 11
อานิสงส์โปรยกลีบกุหลาบ (ภาคพิเศษ) ตอนที่ 3
อานิสงส์โปรยกลีบกุหลาบ (ภาคพิเศษ)ตอนที่ 4
อานิสงส์โปรยกลีบกุหลาบ (ภาคพิเศษ) ตอนที่ 12
อานิสงส์โปรยกลีบกุหลาบ (ภาคพิเศษ) ตอนที่ 13
http://goo.gl/xo6mz