ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ.2555
Case Study กรณีศึกษากฎแห่งกรรม
มหาเสนาบดี ผู้ยิ่งใหญ่ ตอนที่ 23เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปราสำหรับหลักฐานสำคัญที่กลุ่มนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ที่ทำการสืบสวนและสอบสวนหาตัวการในการลอบปลงพระชนม์พระราชโอรส หรือกลุ่มเสนาบดีผู้จงรักภักดีต่อพระราชโอรส ได้ใช้ในการเปิดโปงและมัดตัวเสนาบดีฉ้อฉลผู้คิดไม่ซื่อนั้น ก็คือหลักฐานที่บ่งชี้ว่า ตัวเสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อนี้ ไม่ได้เป็นคนของแคว้นพระราชาองค์ที่ออกบวชมาตั้งแต่ต้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว บรรพบุรุษของเสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อ ตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายเรื่อยลงมา ล้วนเป็นคนของแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือ หรือแคว้นของพระราชบิดาของพระราชาเกะกะเกเร ที่ถูกส่งตัวมาเพื่อทำงานลับเฉพาะกิจทั้งสิ้น ไม่เพียงแค่นั้นนายทหารชั้นผู้ใหญ่กลุ่มนี้ยังได้สืบทราบถึงแผนการลับดังกล่าวอีกด้วยหลักฐานที่บ่งชี้ว่า ตัวเสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อนี้ ไม่ได้เป็นคนของแคว้นพระราชาองค์ที่ออกบวชมาตั้งแต่ต้นโดยแผนการลับดังกล่าวก็คือ ภายหลังจากที่ครอบครัวของเสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อ ได้ขนย้ายสำมะโนครัวจากแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือ มาอยู่ที่แคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวชแล้ว ครอบครัวของเสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อ ก็เริ่มส่งคนในครอบครัวแทรกซึมเข้าสู่ระบบการเมืองการปกครองของแคว้น ด้วยการใช้เงินติดสินบนเจ้าหน้าที่บ้านเมืองของแคว้น จนกระทั่ง ตัวเสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อ สามารถไต่เต้าเข้ามาเป็นข้าราชการระดับสูงได้เสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อ ได้ส่งคนในครอบครัวแทรกซึมเข้าสู่ระบบการเมืองการปกครองของแคว้นเมื่อเสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อ สามารถไต่เต้าขึ้นมาเป็นข้าราชการระดับสูงได้แล้ว ตัวเขาก็ได้ส่งข้าราชการและนายทหารที่ตนเองเลี้ยงเอาไว้ ด้วยเงินและสินบนเหล่านั้น ไปเป็นเจ้าเมืองปกครองหัวเมืองในแถบทิศตะวันตกเฉียงเหนือของแคว้น ซึ่งเป็นเขตชายแดนที่อยู่ติดกับแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือ หรือแคว้นของพระราชบิดาของพระราชาเกะกะเกเรนั่นเอง
โดยข้าราชการและนายทหาร ซึ่งเป็นลูกสมุนของเสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อบางคน ต่อมาก็ได้เป็นถึงแม่ทัพคุมกองทัพภาคฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ เช่น แม่ทัพจอมขี้คร้าน ขี้เมื่อย ที่เป็นหัวหน้าของท่านมหาเสนาบดี เป็นต้น ซึ่งทั้งข้าราชการและนายทหารที่เป็นลูกสมุนของเสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อเหล่านั้น ก็ได้ทำการทุจริตขูดรีดภาษีที่ดินและพืชผลทางการเกษตร เพื่อเอาเงินมาหมุนเวียนเลี้ยงดูพวกข้าราชการทุจริตต่างๆ ด้วยกันลูกสมุนของเสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อบางคน ต่อมาก็ได้เป็นถึงแม่ทัพคุมกองทัพภาคฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือและเมื่อแผนการทุกอย่างของเสนาบดีฉ้อฉลผู้คิดไม่ซื่อ ดำเนินมาถึงขั้นนี้ ประชาชนตาดำๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน ก็เริ่มมีความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่ของทางการมากขึ้น และเมื่อความอดทนถึงขีดสุด ประชาชนที่อดทนต่อความเดือดร้อนไม่ไหวก็จะก่อสถานการณ์ความไม่สงบขึ้นในทุกๆ เมืองที่คนของเสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อดูแลอยู่
เมื่อประชาชนอ่อนแอ, กองทัพอ่อนแอ, ก็ย่อมส่งผลทำให้บ้านเมืองพลอยอ่อนแอตามไปด้วย และเมื่อทุกภาคส่วนมีความอ่อนแอ หรือแตกแยกจนรวมตัวกันไม่ติดแล้ว แผนการต่อไปของเสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อก็คือ การนำกองทัพจากแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือ หรือแคว้นของพระราชบิดาของพระราชาเกะกะเกเร เข้ามาบุกโจมตีเมืองหลวงของแคว้นพระราชาองค์ที่ออกบวช เพื่อยึดครองและล้มราชบัลลังก์นั่นเองเมื่อทุกภาคส่วนมีความอ่อนแอหรือแตกแยก แผนการต่อไปของเสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อก็คือ บุกโจมตีเมืองหลวงของแคว้นพระราชาองค์ที่ออกบวชซึ่งแผนการลอบสังหารพระราชโอรส ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการนี้ด้วยเช่นกัน เพียงแต่ว่า แผนการดังกล่าวมีเหตุให้ต้องมาผิดแผนในระหว่างทางเสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ทำให้แผนการดังกล่าวต้องมาผิดแผนกลางครันนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ ได้มีบุคคลสำคัญท่านหนึ่งที่มีสติปัญญาอันชาญฉลาด อีกทั้งยังมีความสามารถขั้นเทพ ทั้งบู๊และบุ๋น มารู้ทันแผนการดังกล่าว และสามารถสกัดกั้นทุกอย่างได้ทันท่วงที ซึ่งบุคคลสำคัญท่านนี้ก็คือ ท่านมหาเสนาบดีของพวกเรานั่นเองท่านมหาเสนาบดี มารู้ทันแผนการดังกล่าว และสามารถสกัดกั้นทุกอย่างได้ทันท่วงทีเมื่อเสนาบดีฉ้อฉลผู้คิดไม่ซื่อ ถูกกลุ่มนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่ทำการสืบสวนและสอบสวนหาตัวการในการลอบปลงพระชนม์พระราชโอรส แฉเบื้องลึกเบื้องหลังและแผนการทุกอย่างท่ามกลางที่ประชุม ด้วยพยานหลักฐานและพยานบุคคลที่แน่นหนาเช่นนั้นแล้ว เสนาบดีฉ้อฉลผู้คิดไม่ซื่อ ก็เกิดอาการตกใจจนใบหน้าซีดเผือดเป็นไข่ต้ม เพราะนึกไม่ถึงว่า เรื่องดังกล่าวจะมาแดงเดือดถึงตัวได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ตัวเขาก็มั่นใจว่าตัวเขาได้ทำการฆ่าตัดตอนเบาะแส และหลักฐานที่จะกลับมามัดตัวเขาไปทั้งหมดแล้วด้วยหลักฐานและพยานบุคคลที่แน่นหนา เสนาบดีฉ้อฉลผู้คิดไม่ซื่อ ก็ตกใจจนหน้าซีดแต่ทว่า ทุกเรื่องและทุกแผนการไ ม่ว่าจะมาแบบเหนือเมฆแค่ไหน ก็ไม่อาจที่จะรอดพ้นสายตาของบรรดากลุ่มนายทหารชั้นผู้ใหญ่ หรือกลุ่มเสนาบดีฝ่ายพระราชโอรส รวมถึงท่านมหาเสนาบดี ที่บรรดาเซียนเหยียบเมฆยังเรียกป๋าไปได้เลย
ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลุ่มนายทหารชั้นผู้ใหญ่ หรือกลุ่มเสนาบดีฝ่ายพระราชโอรส ต่างก็ได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานและสืบสวนสอบสวนพยานบุคคลอย่างลับๆ มาเป็นเวลานาน และเมื่อมาถึง ณ ช่วงเวลานี้ที่หลักฐานทุกอย่างถูกเปิดเผยจนชัดเจน และสามารถกระชากหน้ากากจอมวายร้าย หรือเสนาบดีผู้ฉ้อฉลได้แล้ว ทางฝ่ายเสนาบดีผู้จงรักภักดีต่อพระราชโอรส จึงได้ทำการจับกุมตัวเสนาบดีฉ้อฉลผู้คิดไม่ซื่อ พร้อมกับรวบผู้คิดคดทรยศทั้งหมดที่อยู่ในเมืองหลวง มาลงโทษด้วยการคุมตัวเข้าไปขังไว้ในคุกตามระเบียบทางฝ่ายเสนาบดีผู้จงรักภักดีต่อพระราชโอรส จึงได้ทำการจับกุมตัวเสนาบดีฉ้อฉลผู้คิดไม่ซื่อภายหลังจากที่กลุ่มนายทหารชั้นผู้ใหญ่ หรือกลุ่มเสนาบดีฝ่ายพระราชโอรส ได้จัดการส่งตัวเสนาบดีฉ้อฉลผู้คิดไม่ซื่อ พร้อมกับรวบผู้คิดคดทรยศทั้งหมดที่อยู่ในเมืองหลวง เข้าคุกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นายทหารชั้นผู้ใหญ่กลุ่มนี้ ก็ได้ส่งตัวแม่ทัพผู้มีความจงรักภักดีผู้หนึ่ง พร้อมกับกำลังทหารจำนวนหนึ่ง เดินทางถือคำสั่งปลดแม่ทัพภาคตะวันตกเฉียงเหนือคนเก่า หรือแม่ทัพจอมขี้คร้าน ขี้เมื่อย ที่เป็นหัวหน้าของท่านมหาเสนาบดี พร้อมกับทำการแต่งตั้งให้แม่ทัพผู้มีความจงรักภักดีคนนั้น ทำหน้าที่รักษาการณ์แม่ทัพภาคตะวันตกเฉียงเหนือคนใหม่แทนนายทหารชั้นผู้ใหญ่กลุ่มนี้ เดินทางถือคำสั่งปลดแม่ทัพภาคตะวันตกเฉียงเหนือคนเก่าและเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างเริ่มคลี่คลายลง เหล่าเสนาบดีทั้งหลายจึงได้ทำพิธีเฉลิมฉลองและสถาปนาพระราชโอรส ให้สืบทอดราชบัลลังก์อย่างเป็นทางการ เมื่อเหล่าพสกนิกรภายในแคว้น ได้ทราบข่าวการเสด็จขึ้นครองราชย์อย่างเป็นทางการของพระราชโอรสแล้ว พสกนิกรทั้งหลายต่างก็เกิดความรู้สึกดีอกดีใจ ที่พระราชโอรสผู้เป็นที่เคารพรักของพวกเขา ได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระราชาของพวกเขา เมื่อเป็นเช่นนี้ พสกนิกรทั้งหลายจึงได้ตระเตรียมงานเฉลิมฉลองพระราชาองค์ใหม่ของพวกเขา กันอย่างคึกคักไปทั่วทั้งเมืองเลยทีเดียวเหล่าเสนาบดีและพสกนิกรทั้งหลาย จึงได้เตรียมงานเฉลิมฉลองพระราชาองค์ใหม่ของพวกเขากันอย่างคึกคักแต่ทว่า ในระหว่างที่เรื่องราวทุกอย่างกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น จู่ๆ เรื่องหน้าสิ่วหน้าขวานบางอย่าง ก็พลันเกิดขึ้นอีกจนได้ นั่นก็คือ ได้มี “พัสดี” หรือผู้คุมคุกบางคนรับสินบนจากเสนาบดีฉ้อฉลผู้คิดไม่ซื่อ แล้วก็ได้ทำการช่วยเหลือด้วยการปลดปล่อยให้เสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อนั้นหนีออกไปนอกเมือง พร้อมๆ กับครอบครัว หลังจากที่เสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อนั้น ได้ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว เสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อ ก็ได้รีบมุ่งหน้าหลบหนีออกไปทางหัวเมืองฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือในทันทีผู้คุมคุกบางคนรับสินบนจากเสนาบดีฉ้อฉล ช่วยให้หนีออกไปนอกเมือง พร้อมกับครอบครัวแต่ภายหลังจากที่เสนาบดีฉ้อฉลผู้คิดไม่ซื่อ ได้หลบหนีออกจากคุกไปได้เพียงไม่นาน ทางเจ้าหน้าที่ของเสนาบดีฝ่ายพระราชโอรส ซึ่งบัดนี้พระราชโอรสได้ทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระราชาแล้ว ก็ได้ทราบข่าวที่เสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อหลบหนีออกจากเมือง ทันทีที่ทราบข่าว พวกเขาก็ได้รีบนำเรื่องนี้มากราบบังคมทูลให้พระราชาได้ทรงทราบในทันที ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ ก็ได้สร้างความกังวลพระทัยให้เกิดขึ้นกับพระราชาเป็นอย่างมาก เพราะ ณ ช่วงเวลานั้น แม่ทัพผู้มีความจงรักภักดีที่ทางส่วนกลาง ได้หมายมั่นปั้นมือจะให้ดำรงตำแหน่งเป็น “รักษาการณ์แม่ทัพภาคตะวันตกเฉียงเหนือคนใหม่” กำลังอยู่ในช่วงระหว่างการเดินทางไปที่เขตหัวเมืองฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เพื่อนำคำสั่งปลดจากส่วนกลางไปให้แก่แม่ทัพภาคตะวันตกเฉียงเหนือคนเก่า หรือแม่ทัพจอมขี้คร้าน ขี้เมื่อย ซึ่งเป็นหัวหน้าของท่านมหาเสนาบดี ให้พ้นจากตำแหน่งแม่ทัพภาคทันทีที่ทราบข่าวเสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อหลบหนีออกจากเมือง พวกเขาก็ได้รีบนำเรื่องนี้มากราบบังคมทูลให้พระราชาได้ทรงทราบดังนั้น ถ้าหากเสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อผู้นั้น เดินทางหลบหนีไปถึงหัวเมืองชายแดนฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ และเข้าไปถึงตัวของแม่ทัพภาคคนเก่า หรือแม่ทัพจอมขี้คร้าน ขี้เมื่อย ที่เป็นหัวหน้าของท่านมหาเสนาบดี ก่อนที่คำสั่งปลดแม่ทัพภาคคนเก่าจะเดินทางไปถึงแล้ว เสนาบดีผู้มีใจไม่ซื่อตรงผู้นี้ ก็จะสามารถควบคุมกองกำลังพลทหารในภาคตะวันตกเฉียงเหนือทั้งหมดเอาไว้ได้โดยปริยาย ซึ่งก็จะก่อให้เกิดปัญหาที่ใหญ่หลวงตามมาอีกมากมายอย่างแน่นอนหากเสนาบดีผู้คิดไม่ซื่อผู้นั้นเดินทางหลบหนีไปได้ ก็จะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่หลวงตามมาอีกมากส่วนว่า เมื่อเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานชนิดร้ายแรงได้บังเกิดขึ้นเช่นนี้แล้ว เหตุการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร เสนาบดีจอมกบฏผู้มีใจไม่ซื่อตรงผู้นี้จะรอดหรือจะร่วง เราก็คงจะต้องมาติดตามกันในตอนต่อไป
กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)
บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป
"วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)
http://goo.gl/wCbYT