เมื่อเวลา​ 14.30 ​น​. ​ที่ทำ​เนียบรัฐบาล​ ​น​.​ส​.​ศุภรัตน์​ ​นาคบุญนำ​ ​รองโฆษกประจำ​สำ​นักนายกรัฐมนตรี​ ​กล่าว​ถึง​กรณีที่มีกระ​แสข่าวว่า​จะ​มีการปรับเวลา​ทั่ว​ประ​เทศ​ใน​วันที่​ 23 ​สิงหาคม​ ​ให้​ช้าลง​ 30 ​นาที​ ​กระทั่งนายสรยุทธ​ ​สุทัศนะจินดา​ ​พิธีกรรายการเรื่องเล่า​เช้า​นี้นำ​ไปขยาย​ความ​ต่อ​ใน​รายการ​เช้า​วันที่​ 21 ​สิงหาคม ​จนทำ​ให้​ประชาชนเกิด​ความ​สับสน​นั้น​ ​จาก​การตรวจสอบไป​ยัง​กรมอุทกศาสตร์​ ​กองทัพเรือ​ ​ซึ่ง​มีการติดต่อ​กับ​สถาบันมาตรวิทยา​แห่งชาติ​ ​กระทรวงวิทยาศาสตร์​และ​เทคโนโลยี​อยู่​เป็น​ประจำ​ ​ขอยืนยันว่า​ ​กระ​แสข่าวดังกล่าว​ไม่​เป็น​ความ​จริง
น​.​ส​.​ศุภรัตน์​ยัง​กล่าวต่อว่า​ ​นอก​จาก​นี้​ ​กรมอุทกศาสตร์​ยัง​ฝากชี้​แจงเพิ่มเติมว่า​ ​สิ่งที่​จะ​มีผลบังคับ​ใช้​ใน​วันที่​ 23 ​สิงหาคม​ 2551 ​นั้น​ ​คือเรื่องตามประกาศของกระทรวงเทคโนโลยีฯ​ ​เรื่องหลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของ​ผู้​ใช้​บริการ​ ​พ​.​ศ​.2550 ​ที่กำ​หนด​ให้​ผู้​บริการ​ต้อง​ตั้งนาฬิกาของอุปกรณ์ทุกชนิด​ให้​ตรง​กับ​เวลาอ้างอิงสากล​ (Stratum 0) ​โดย​ให้​ผิดพลาด​ไม่​เกิน​ 10 ​มิลลิวินาที​ ​ซึ่ง​เทียบ​จาก​เวลาของนาฬิกาอะตอมซี​เซียมของกรมอุทกศาสตร์​ ​หรือ​สถาบันมาตรวิทยา​แห่งชาติ​เท่า​นั้น​ ​ทั้ง​นี้​ ​ประชาชนทั้วไป​สามารถ​เทียบเวลามาตรา​ได้​กับ​สถานีวิทยุ​แห่งประ​เทศไทย​ ​หรือ​โทรศัพท์​ไปสอบถาม​ได้​ที่​เบอร์​ 181
​เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้อง​กับ​ผู้​ให้​บริการอินเตอร์​เน็ต​ ​หรือ​ระบบติดต่อสื่อสาร​กัน​ผ่านทางคอมพิวเตอร์​เท่า​นั้น​ ​ไม่​มี​เกี่ยวข้องประชาชน​ทั่ว​ไป​ ​รัฐบาล​จึง​ขอยืนยันว่า​ ​ไม่​จำ​เป็น​ต้อง​ปรับเวลาตามที่​เป็น​ข่าว​ ประชาชน​ยัง​สามารถ​ชมรายการโทรทัศน์​ได้​ตามเวลาปกติ​” ​รองโฆษกประจำ​สำ​นักนายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้​สื่อข่าวรายงานว่า​ ​จาก​การตรวจสอบไป​ยัง​เว็บไซต์ของกรมอุทกศาสตร์​ ​ได้​ออกแถลงการณ์ชี้​แจง​ถึง​สา​เหตุที่​ต้อง​ปรับเวลา​ผู้​ให้​บริการอินเตอร์​เน็ตให้​เท่า​กัน​ว่า​ ​เนื่อง​จาก​ ​พ​.​ร​.​บ​.​ว่า​ด้วย​ความ​ผิดเกี่ยว​กับ​คอมพิวเตอร์​ ​พ​.​ศ​.2550 ​ที่มีผลบังคับ​ใช้​ใน​วันที่​ 23 ​สิงหาคม​ 2550
​ได้​กำ​หนดโทษของการกระทำ​ความ​ผิดที่​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​ใช้​คอมพิวเตอร์​และ​ระบบอินเตอร์เน็ต​เอา​ไว้​ด้วย​ ​ดัง​นั้น​ ​เพื่อ​ให้​ข้อมูลที่​ได้​มี​ความ​ถูก​ต้อง​และ​นำ​มา​ใช้​ประ​โยชน์​ได้​จริง​ ​จึง​จำ​เป็น​ต้อง​ปรับนาฬิกาของอุปกรณ์ทุกชนิด​ให้​ตรง​กัน​ตามเวลาอ้างอิงสากล
ทั้ง​นี้​ ​ตามมาตรา​ 26 ​ของ​ ​พ​.​ร​.​บ​.​ว่า​ด้วย​ความ​ผิดเกี่ยว​กับ​คอมพิวเตอร์​ ​ก็ระบุ​ไว้​ว่า​ ​ผู้​ให้​บริการ​ต้อง​เก็บข้อมูล​ไว้​อย่างน้อยเก้าสิบวันนับแต่วันที่ข้อมูล​นั้น​เข้า​สู่คอมพิวเตอร์​ ​และ​ใน​กรณีจำ​เป็น​เจ้าหน้าที่​สามารถ​สั่ง​ให้​ผู้​ให้​บริการ​ผู้​ใด​เก็บรักษาข้อมูล​ไว้​เกินเก้าสิบวัน​ ​แต่​ไม่​เกินหนึ่งปี​เป็น​กรณีพิ​เศษเฉพาะราย​ได้​ ​เพื่อ​ให้​ระบุ​ถึง​
ตัวผู้​ใช้​บริการ​ได้​ ​ผู้​ให้​บริการ​ใด​ที่​ไม่​ทำ​ตามมาตรานี้มี​โทษปรับ​ไม่​เกิน​ 500,000 ​บาท
ขณะ​เดียว​กัน​ ​สถาบันมาตรวิทยา​แห่งชาติ​ ​ยัง​ออกมาปฏิ​เสธว่าสถาบันฯ​ ​มีหน้าที่จัดทำ​และ​รักษา​เวลามาตรฐานตามระบบสากล​และ​ให้​บริการถ่ายทอดเวลามาตรฐาน​ ​เพื่อ​ให้​ผู้​ที่​ต้อง​การมี​เวลาที่ถูก​ต้อง​เที่ยงตรง​สามารถ​นำ​ไป​ใช้​ได้​เท่า​นั้น​ ‘​ไม่​ได้​เป็น​การปรับแก้​เวลา​ ​หรือ​ปรับเปลี่ยนเวลา​ใดๆ​ทั้ง​สิ้น​’ ​ตามที่​เป็น​ข่าว
 
 
ที่มา-
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง