เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่วัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร มีการสัมมนาใหญ่ระดับ
ประเทศพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน และพระนักเผยแผ่ โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานเปิดการประชุม ทั้งนี้ พระธรรมโกศาจารย์ วัดประยูรวงศาวาส และอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) กล่าวปาฐกถาเรื่อง ทิศทางการสอนศีลธรรมในยุคปัจจุบัน ว่า
ในยุคปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่าการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างมีประสิทธิภาพนั้นมีค่อนข้างจำกัด ไม่เพียงพอต่อความต้องการของสังคม จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งพัฒนาบุคลากรของคณะสงฆ์ในด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มีปริมาณและคุณภาพเพิ่มมากขึ้น
จะต้องทำงานเชิงรุก ต้องรู้จักใช้สื่อต่างๆ และออกนอกวัดบ้าง
ไม่ใช่จะรออยู่แต่ในวัด มัวแต่จำวัด รอให้มีคนเข้ามาหา
ทั้งนี้ สำหรับยุทธศาสตร์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนานั้นมีหลักสำคัญอยู่ จะต้องขยายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาออกจากวัดของตัวเอง และพยายามขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ต้องหาวิธีที่จะดึงคนเข้ามาฟังธรรม เช่น อาจจะพูดในเรื่องที่น่าสนใจ เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ก่อนที่จะแทรกธรรมะเข้าไปในภายหลัง และที่สำคัญจะต้องศึกษาด้วยว่ากลุ่มคนที่จะไปเผยแผ่นั้นสนใจในเรื่องอะไร
ด้านคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง บทบาทครูพระสอนศีลธรรมในสถานศึกษา ว่า การสอนศีลธรรมในโรงเรียนถือเป็นนโยบายหลักของ
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดังนั้น หากครูพระไม่ได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนใดให้แจ้งมาที่ตนได้ทันที ขณะเดียวกันตนอยากให้
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องให้ความร่วมมือกับครูพระ รวมทั้งควรจะต้องส่งเสริมให้มีการนำครูพระไปสอนในโรงเรียนต่างๆด้วย.
ที่มา-
